ดับร้อน! ด้วยไอศกรีมเจลาโต้แบบแท่งคุณภาพพรีเมี่ยมที่ “Stickhouse”

ดับร้อน! ด้วยไอศกรีมเจลาโต้แบบแท่งคุณภาพพรีเมี่ยมที่ “Stickhouse”

ดับร้อน! ด้วยไอศกรีมเจลาโต้แบบแท่งคุณภาพพรีเมี่ยมที่ “Stickhouse”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สวัสดีค่ะ ช่วงนี้อากาศอบอ้าวสุดๆ เดินออกนอกบ้านทีเหงื่อไหลเป็นทางพาลให้คิดอยากทานไอศกรีมเย็นๆ ให้ชื่นใจ

วันนี้เลยจะพาไปชิมเจลาโต้เนื้อแน่นสุดอร่อยสูตรอิตาเลียนที่มาในรูปแบบของไอศกรีมแท่งกัน พร้อมแล้ว ตามมาชิมกันเลยค่า

 

Stickhouse - No.1 Italian handcrafted gelato
Stickhouse - No.1 Italian handcrafted gelato

 

Stickhouse นั้นเป็นแบรนด์ดังจากอิตาลีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจนได้ขยายสาขาไปกว่าสิบประเทศทั่วโลกและมีสาขารวมๆ ร่วมร้อยสาขากันเลยทีเดียว

สำหรับประเทศไทยนั้น ตอนนี้ก็มีเปิดให้บริการแล้วถึงสี่สาขาด้วยกันคือ ที่ สยามพารากอน Terminal 21 ท่ามหาราช และ ล่าสุดที่ Emquartier

สำหรับครั้งนี้ ทีมงานไปชิมที่สาขาพารากอนกันมาค่ะ

 

Stickhouse - Siam Paragon Shopping Mall
Stickhouse - Siam Paragon Shopping Mall

 

ความพิเศษของ Stickhouse ที่ทำให้หลายคนต้องติดอกติดใจนั้นอยู่ที่กระบวนการทำไอศกรีมที่พิถีพิถัน ตัวเครื่องที่ใช้นั้นมีต้นแบบลิขสิทธิ์ของ Stickhouse อิตาลีที่สามารถทำเจลาโต้แท่งได้โดยไม่มีอากาศอยู่เลยทำให้ได้รสชาติเข้มข้น การทำนั้นใช้เวลานานถึง 50 นาทีต่อไอศกรีม 24 แท่ง แถมถ้าทำเป็นหลายๆ ชั้นหลายๆ สีในแท่งเดียวแล้วด้วยนั้น แต่ละชั้นต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นถึงชั้นละ 10 นาที

นอกจากจะใช้วัตถุดิบชั้นเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นตัวผลไม้และท็อปปิ้งต่างๆ ที่มาจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่เจือสีหรือสารสังเคราะห์ ไอศกรีมที่นี่ยังทำสดใหม่วันต่อวันเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้ชิมไอศกรีมคุณภาพเยี่ยมเหมือนกันทุกวันโดยไม่ต้องเจอกับสารถนอมอาหารใดๆ

 

Stickhouse - No.1 Italian handcrafted gelato
Stickhouse - No.1 Italian handcrafted gelato

 

 

เมื่อเข้ามาถึงเราก็ถูกใจทันทีกับร้านที่ตกแต่งด้วยสีสันสดใส และไอศกรีมแท่งที่มีให้เลือกมากมายหลายรสสุดละลานตา ทั้ง Matcha Green Tea, Raspberry, Watermelon Kiwi, Strawberry Mango, Coconut, Banana, Giandula, Almond, Mint และอีกมากมาย

ไม่เพียงแต่รสไอศกรีมเท่านั้น แต่ยังมีทั้ง Dip ทั้ง Topping ให้เลือกอีกหลากหลายแบบจนตัดสินใจแทบไม่ถูก

สนนราคาของไอศกรีมแท่งนั้นขึ้นอยู่กับชนิดที่เลือกอันมีทั้งแบบ Classic (89B) Premium (109B) และ Special (129B)

จากนั้นแฟนๆ ช็อกโกแลตก็จะต้องตัดสินใจว่าจะเอา Milk/White/Dark Chocolate โดยตัวช็อกโกแลตคุณภาพเยี่ยมนี้ส่งตรงมาจากอิตาลี ซึ่งเมื่อเลือกแล้วจึงจะสั่งว่าจะชุบแบบ Art (15B) คือราดเป็นเส้นๆ สวยงาม หรือจะจุ่มครึ่งแท่ง Half (15B) หรือจะจัดเต็มแท่งไปเลย Full (25B)

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เรายังสามารถเลือกได้อีกว่าจะเอา Topping พวกถั่วหรือ sprinkles ต่างๆ ครึ่งหนึ่ง (15B) หรือเต็มแท่ง (25B) ซึ่งถ้าเลือกเป็นหน้าถั่วพิสตาชิโอนั้นราคาจะเพิ่มเป็น 25B กับ 35B

 

Stickhouse - No.1 Italian handcrafted gelato
Stickhouse - No.1 Italian handcrafted gelato

 

สำหรับวันนี้เราเลือกชิมรส Thai Tea ที่เข้มข้นถึงรสชาไทย

 

Stickhouse Italian Gelato - Thai Tea
Stickhouse Italian Gelato - Thai Tea

 

รส Strawberry Crumble ที่มีแป้งพายกรอบๆ อยู่ภายในให้รสสัมผัสตัดกันกับเนื้อแน่นๆ ของไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ที่รสออกครีมๆ นวลๆ

เราสั่งเป็น Chocolate Dip แล้วตบถั่วเพิ่มค่ะ

 

Stickhouse Italian Gelato - Strawberry Crumble with Chocolate Dip and Nuts Topping
Stickhouse Italian Gelato - Strawberry Crumble with Chocolate Dip and Nuts Topping

 

รส Tiramisu ที่หอมกาแฟอ่อนๆ รสออกนมๆ กำลังดี เคลือบมาด้วยช็อกโกแลตสามแบบสามสไตล์

 

Stickhouse Italian Gelato - Tiramisu with Chocolate Dip
Stickhouse Italian Gelato - Tiramisu with Chocolate Dip

 

รส Trio nuts (Pistachio, Hazelnuts, Almonds) ที่รสถั่วเน้นๆ หอมมัน

 

Stickhouse Italian Gelato - Trio Nuts
Stickhouse Italian Gelato - Trio Nuts

 

ส่วนถ้าใครเป็นแฟนถั่วพิสตาชิโอแนะนำให้สั่งเป็นรส Pistachio อย่างเดียวทั้งแท่งเลยค่ะเพราะเข้มข้นได้รสถั่วพิสตาชิโอไปเต็มๆ

อันนี้ทั้ง Dip Chocolate และตบถั่วพิสตาชิโอเพิ่มเข้าไปอีกให้หนำใจ

 

Stickhouse Italian Gelato - Pistachio with Chocolate Dip
Stickhouse Italian Gelato - Pistachio with Chocolate Dip

 

ที่ติดใจเป็นพิเศษก็เห็นจะเป็นรสตามฤดูกาลที่ช่วงนี้ทางร้านทำรสข้าวเหนียวทุเรียนออกมาขาย

 

Stickhouse Italian Gelato - Durian Sticky Rice
Stickhouse Italian Gelato - Durian Sticky Rice

 

รสนี้สำหรับคนรักทุกเรียนจริงๆ เพราะกลิ่นทุเรียนแรงได้ใจมาก แถมมีข้าวเหนียวหอมกะทิมาให้เคี้ยวไปเพลินๆ

 

นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูขนมน่าทานอีกมากมายมาล่อตาล่อใจ

 

ไม่ว่าจะเป็น Red Velvet (210B) ที่เป็นเค้ก red velvet เนื้อแน่น โปะครีมชีส สอดไส้ด้วยเจลาโตรสนม ราดซอสวนิลา ทานคู่กับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ชนิดต่างๆ

 

Stickhouse Italian Gelato - Red Velvet
Stickhouse Italian Gelato - Red Velvet

 

รสผลไม้หวานอมเปรี้ยวตัดกันกับรสนมของตัวไอศกรีมและตัวซอสวนิลาอย่างเหมาะเจาะ

 

อีกทั้งยังมีเมนูเด็ดคือ Pizzaria (1p – 150B, 2p – 280B, 5p – 650B) ที่เป็นไอศกรีมนม ราดด้วย strawberry sauce เปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟัน และ white chocolate sauce หวานๆ เพิ่มความสดชื่นขึ้นอีกด้วยรสเปรี้ยวของสับปะรดฝานบาง และ รสหวานอมเปรี้ยวของบลูเบอร์รี่สด

 

Stickhouse - Pizzaria
Stickhouse - Pizzaria

 

สองเมนูนี้แต่งจานมาเสียสดสวยแถมอร่อยได้ใจเราไปเต็มๆ

 

ปิดท้ายมหกรรมการทานไอศกรีมชุดใหญ่ด้วย Mocktail สีสันจัดจ้านที่ทานร้านคิดรังสรรค์เมนูและเพิ่งเปิดตัวให้ได้ลองชิมดับร้อนรับซัมเมอร์

 

ทั้งเมนู Sparkling Blue Ocean (165B)

เครื่องดื่มสีฟ้าแจ๋วรสอมเปรี้ยวเสิร์ฟคู่มากับไอศกรีมรสเชอร์เบทส้ม

 

Mocktail - Sparkling Blue Ocean
Mocktail - Sparkling Blue Ocean

 

และ Very Berry (165B) น้ำสตรอเบอร์รี่เสิร์ฟมากับไอศกรีมรส Raspberry ที่เปรี้ยวถึงใจ

 

Mocktail - Very Berry
Mocktail - Very Berry

 

ทั้งนี้คุณสามารถเลือกเปลี่ยนรสของไอศกรีมในเมนูเครื่องดื่มเหล่านี้ได้ตามชอบใจ

 

โดยรวมแล้วถึงราคาจะค่อนข้างแพงอยู่สักหน่อยแต่ร้าน Stickhouse ก็เสิร์ฟไอศกรีมเจลาโต้คุณภาพเยี่ยมที่สีสันสดสวย ไอเดียเก๋ไก๋เปี่ยมไปด้วยลูกเล่น และคุณภาพสูงสมราคา จึงเป็นอีกร้านหนึ่งที่เราอยากแนะนำให้คุณๆได้มาลิ้มลองให้คลายร้อนกันค่ะ

 

ติดตามชมอาหารเมนูเด็ดและสถานที่ท่องเที่ยวแปลกตาจากประสบการณ์ของผู้เขียนได้ที่ IG : FoodiesJournie

ส่วนผลงานบทความรีวิวอาหารและท่องเที่ยวสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.mevblog.com

หรือติดตามได้ที่เพจ www.facebook.com/mevblog และ IG, Twitter & Pinterest : “MEVBLOG” นะคะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook