ชวนเก็บองุ่นดื่มไวน์กลางสายลมเย็นในงาน "Tropical Harvest" @GranMonte เขาใหญ่
สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้เราจะมาเก็บตกภาพบรรยากาศกิจกรรมสนุกสนานกับเทศกาลเก็บเกี่ยวองุ่นไวน์ประจำปีในวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาให้ได้ชมกันค่า
เทศกาล Pick of the Season นั้นจัดขึ้นที่ GranMonte Vineyard and Winery เป็นประจำทุกปีเพื่อให้คนรักไวน์ได้มาชมบรรยากาศไร่องุ่นสวยๆ ที่เขาใหญ่ ได้แข่งขันตัดองุ่นสำหรับทำไวน์ พร้อมทั้งชิมไวน์ระดับพรีเมียมของ Gran Monte กันอย่างจุใจ
สำหรับปีนี้ งาน Pick of the Season ตรงกับสุดสัปดาห์วันวาเลนไทน์พอดี เลยได้เห็นหลายๆ ทีมมากันเป็นคู่สุดโรแมนติก
โปรแกรมของสุดสัปดาห์แสนสบายเริ่มกันด้วยการนั่งรถเที่ยวชมไร่องุ่นกับแสงแดดอุ่นๆ ยามบ่าย
ด้วยความที่อยู่ในเขาใหญ่ อากาศจึงไม่ร้อนอบอ้าวอย่างที่นึกเกรง
ไร่ GranMonte นั้นก่อตั้งมานานกว่า 16 ปีแล้ว มีพื้นที่ 100 กว่าไร่
ให้ชื่อว่า GranMonte Asok Valley ก็ด้วยความที่ GranMonte แปลได้ว่า Big Mountain หรือ เขาใหญ่ นั่นเอง และ ในบริเวณที่ตั้งของไร่นี้เดิมชื่อ หุบเขาอโศก อันมีต้นอโศกออกดอกสีเหลืองส้มบานสะพรั่ง
ระหว่างนั่งรถชมรอบๆ เราได้รับเกียรติจากคุณ วิสุตา โลหิตนาวี หรือคุณนิกกี้ ผู้เป็น wine maker หญิงคนแรกของประเทศไทยมาให้ความรู้อีกด้วย ซึ่งคุณนิกกี้เรียนจบจากออสเตรเลียมาทางด้าน oenology หรือศาสตร์แห่งไวน์โดยตรง
การบรรยายนั้นละเอียดลออไล่ไปตั้งแต่ชี้ชวนชมให้ดูองุ่นพันธุ์ต่างๆ ที่คัดเลือกมาปลูกในไร่ ที่มาที่ไปอย่างเรื่องราวของประเทศต้นกำเนิด การปรับองุ่นให้เข้ากับอากาศร้อนชื้นแบบเมืองไทย รวมถึงลักษณะพิเศษขององุ่นพันธุ์นั้นๆ ที่ให้ปริมาณผลผลิต กลิ่น และรสชาติที่แตกต่างกัน เรื่อยไปจนถึง วิธีการเพาะปลูก ดินที่ใช้ และการเก็บเกี่ยว
อย่างพันธุ์องุ่นของที่นี่ก็จะมีตั้งแต่องุ่นขาวอย่าง Chenin Blanc, Semillon, Viognier และองุ่นแดงชื่อดังที่เราพอจะคุ้นเคยกันอย่าง Syrah (Shiraz), Cabernet Sauvignon
ที่นี่จะปลูกในดินร่วนผสมดินเหนียว แต่ละต้นจะถูกตัดแต่งให้เลื้อยไปบนรั้วไม้เป็นรูปตัว T ให้ได้รับแดดอย่างเต็มที่
เรียกว่านั่งรถชมไร่แป๊บเดียวได้ความรู้เพียบเลยค่ะ
นอกจากจะได้ดูในส่วนของไร่แล้ว คุณนิกกี้ยังพาเข้าไปชมใน winery อีกด้วย
เราจึงได้เห็นกระบวนการผลิตไวน์อย่างใกล้ชิด
คุณนิกกี้เล่าว่าอุปกรณ์ทุกอย่างไปจนถึงตัวถังบรรจุไวน์และจุกคอร์กก็ล้วนนำเข้ามาทั้งสิ้น
ซึ่งกระบวนการผลิตของไวน์แต่ละชนิดก็จะแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น white wine เอย red wine เอย sparkling wine เอย ล้วนต้องการอุณหภูมิ การใช้จุลชีพ และ ระยะเวลาในการหมักบ่ม (ferment/age) ต่างกันทั้งสิ้น
ด้วยความที่คุณนิกกี้เป็นผู้เชี่ยวชาญ เธอจึงสามารถปรับแต่งเพิ่มลดกระบวนการต่างๆ ได้อย่างมีศิลปะ จนได้ไวน์รสชาติเยี่ยมที่สามารถไปคว้ารางวัลใหญ่ๆ ระดับโลกมาได้หลายรางวัลด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็น Sakuna Rose' Syrah 2015 และ The Orient Syrah 2012 ที่คว้าเหรียญทองจากงาน Hong Kong International Wine and Spirits Competition มาได้อย่างสมศักดิ์ศรี
และ ยังพาชื่อไวน์ไทยไปดังยังเวทีโลกกับการคว้ารางวัล 2 Stars Winery of the year 2015 ที่งาน Austrian Wine Challenge 2015 อีกด้วย
และแน่นอนว่ามาถึงถิ่นขนาดนี้ เราก็มีโอกาสได้ลิ้มลองไวน์รสเลิศกันอย่างเต็มที่ในช่วง Dinner Party ที่ให้เราได้จิบไวน์พร้อมรับประทานอาหารอร่อยๆ เคล้าเสียงเพลงจากวง Blue Sapphires ที่มาร่วมสร้างบรรยากาศให้กับค่ำคืนนี้
เช้าวันถัดมาก็ถึงเวลาได้สนุกสนานกับกิจกรรมมากมายที่ได้มีการตระเตรียมไว้
โดยเราตื่นกันแต่เช้าตรู่เพื่อมาเตรียมตัวแข่งขันเก็บองุ่นไวน์
เช้าๆ แบบนี้นอกจากจะได้ชมวิวสวยๆ ของไร่องุ่นที่เขาใหญ่ท่ามกลางแมกไม้และสายลมที่มาพร้อมแดดอุ่นๆ ยามเช้า เราก็ยังได้วิ่งออกกำลังกายกันให้หายเมาขี้ตา กับกิจกรรมเก็บองุ่นไวน์ที่ให้เวลาเพียงยี่สิบนาที
เพราะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งไทยและเทศ งานนี้เลยต้องบอกกติกากันให้ครบทั้งสองภาษา
จากนั้นผู้เข้าแข่งขันก็จะถูกพาไปยังแถวองุ่นที่มีลังพลาสติกวางไว้ให้พร้อมสรรพ
งานนี้มีกรรไกรให้เพียงอันเดียวเท่านั้นระหว่างลูกทีมสองคน
ผลัดกันตัดผลัดกันเก็บไปมา ได้เหงื่อไม่น้อยเลยทีเดียว
เทคนิคการตัดองุ่นคือต้องตัดชิดขั้ว
จากนั้นลำเลียงลงลังได้ไม่ต้องกลัวช้ำเพราะอย่างไรก็จะต้องผ่านกระบวนการต่ออยู่ดี
ผู้ชนะของรายการเก่งกันมากๆ เพราะภายในเวลาเพียงยี่สิบนาทีเก็บองุ่นได้เกือบ 40 kg เลยทีเดียว
ซึ่งทางไร่ก็มีรางวัลใหญ่มากมายให้แก่ผู้คว้ารางวัลอันดับแรกๆ รวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท
โดยการแข่งขันไม่ได้จบลงที่การเก็บองุ่นเพียงอย่างเดียวแต่ยังมีเกมอีกมากมายทั้งแข่งขันดื่มไวน์จากโพรอน
ถ้าใครที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก็ขอเป็นน้ำองุ่นได้ โดยจะต้องเพิ่มปริมาณมากขึ้นจากเดิมค่ะ
แข่งวิ่งตักไวน์ไปเติมในขวด (คาดว่าคงไม่ได้ใช้ไวน์จริงให้เปลืองหรอกค่ะ)
แถมด้วยการแข่งขันที่คุ้นเคยกันสุดๆ อย่างแข่งเหยียบลูกโป่ง เป็นต้น
จบจากการแข่งขันอันสนุกสนานเราก็ไปรับประทานอาหารรสชาติเยี่ยมที่ร้านอาหาร VinCotto
จากนั้นจึงถือโอกาสเดินเล่นซื้อของติดไม้ติดมือกลับบ้าน
และแน่นอนที่พลาดไม่ได้คือการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากองุ่นของร้าน Montino กลับไปฝากเพื่อนผองและญาติผู้ใหญ่
ทางร้านมีแยม และขนมหลากหลาย เราเดินไปมากว่าจะรู้ตัวก็ได้ฟรุตเค้กก้อนโตติดมือมาเป็นที่เรียบร้อย
ส่วนไวน์เป็นอะไรที่พลาดไม่ได้
หลังจากตัดสินใจอยู่นานก็ได้ขวดที่ถูกใจถึงสามขวดด้วยกันกลับบ้านไปแบ่งให้ครอบครัวได้ชิม ว่าไวน์ไทยก้าวไปไกลได้ขนาดไหน
สำหรับงานเก็บเกี่ยวองุ่นไวน์ในครั้งนี้นับเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ สำหรับพวกเราคอไวน์ที่ได้มาสัมผัสกับที่มาของไวน์ไทยที่ชื่อเสียงระบือไกลไปถึงต่างชาติ และได้มาดื่มด่ำกับทั้งบรรยากาศของเขาใหญ่และรสชาติของไวน์ไทยที่ทำออกมาได้ลุ่มลึกไม่แพ้ชาติอื่นๆ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอยากเข้าชมไร่องุ่น GranMonte ทางไร่ก็สามารถเข้ามาชมได้โดยจะมีทัวร์เป็นรอบๆ ตลอดวันในวันสุดสัปดาห์และจัดทัวร์วันธรรมดาก็ได้ สำหรับคณะที่มากันมากกว่า 20 ท่าน
โดย คุณจะได้นั่งรถชมไร่องุ่น เก็บองุ่นไวน์ เข้าชมโรงผลิตไวน์ และชิมไวน์ชนิดต่างๆ ในราคา 300 บาทต่อท่าน
ที่นี่มี guest house ด้วยค่ะ ถ้าคณะใดอยากมาพักผ่อนในตัวไร่เลยจะลองติดต่อทางไร่ดูนะคะ โดยสำหรับ คืนอาทิตย์-พฤหัส ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มีนาคม 59 ทางไร่มีส่วนลดให้ถึง ลด 15% เชียว
ส่วนคอไวน์ตัวจริงถ้าอยากเรียนรู้เรื่องไวน์และการผลิตไวน์ ทางคุณนิกกี้จะมี master class สี่วันเต็มในเดือนกรกฎาคมค่ะ
สำหรับใครที่อยากลงแข่งเก็บองุ่นไวน์ชิงรางวัลใหญ่บ้างอาจจะต้องอดใจรออีกทีปีหน้านะคะ
ใครไปเขาใหญ่แนะนำให้ไปเข้าชมและอย่าลืมซื้อไวน์ไทยรสดีที่กวาดรางวัลจากงานประกวดระดับนานาชาติมาเพียบกลับไปลองดื่มกันค่ะ
***
อย่าลืมติดตามงานเขียนอื่นๆ ของเราได้ที่ www.foodiesjournie.com
และแวะไปพูดคุยทักทายกันได้ที่หน้าเพจ www.facebook.com/foodiesjournie ค่ะ