"The Ring" ลูกผสมโดนัทและครัวซองต์สุดฮิต @Vanilla Bakeshop
สำหรับคนรักของหวานความสุขอะไรก็คงไม่เท่าการตระเวณชิมร้านขนมเปิดใหม่ให้ทั่วกรุง ยิ่งที่ไหนบรรยากาศเก๋ไก๋นั่งสบายยิ่งดึงดูดให้เราแวะเวียนกลับไปอุดหนุนอีกเป็นรอบที่สองรอบที่สาม
ร้าน Vanilla Bakeshop ตั้งอยู่ที่ Vanilla Garden ในซอยเอกมัย 12 จึงเป็นอีกร้านหนึ่งที่ดึงดูดให้เรากลับไปได้เสมอๆ ด้วยบรรยากาศรอบๆ ร้านที่ดูน่าสบาย โดยเฉพาะโต๊ะเล็กๆ ไว้ให้สำหรับนั่งทานภายนอกได้หากอากาศไม่ร้อนจนเกินไป
เมื่อเปิดเข้าไปด้านในเราก็จะได้กลิ่นขนมอบหอมอบอวลไปทั่วร้าน
ที่เตะตาอย่างแรกก็เห็นจะเป็นขนมปังกองพะเนินในตู้ที่ทางร้านกระซิบบอกว่าอบใหม่ทุกวันและขายดิบขายดีเป็นอย่างมากโดยเฉพาะ Danish Loaf (85 บาท) ด้วยความที่ร้านนี้เป็น Bakeshop ข้างในก็จะมีครัวทำขนมให้เห็นกระบวนการกันสดๆ อีกทั้งยังมีวัตถุดิบสำหรับทำขนมวางขายอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลตชิพหรือน้ำตาลสีสวยๆรูปร่างหน้าตาน่ารัก Sugar paste set (80 บาท)
สำหรับคนรักช็อกโกแลตที่นี่ก็มีช็อกโกแลตแท่งระดับพรีเมียมที่มีความเข้มข้นแตกต่างกันไป อย่าง Dark Chocolate Bar ก็มีให้เลือกทั้ง 85% และ 72% หรือจะลองเป็น Sea Salt Chocolate Bar ก็มี (190 บาท)
และแน่นอนว่าจะต้องมีตู้ขนมอบหลากหลายชนิดให้เลือกสรร เพียงแค่ได้เดินชมรอบร้านเราเองก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับเอแคลร์ชิ้นโต มัฟฟินหลากรส สโคน และพายชนิดต่างๆ รวมไปถึงของดีอย่างตับบด (Pate) ที่มีให้ซื้อหากลับบ้านไปทานกัน
สิ่งแรกที่เราเรียกหาคือเมนูเครื่องดื่ม ทางร้านมีเครื่องดื่มให้บริการหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นน้ำหวานรสต่างๆ ในหมวด Homemade Punch หรือ Fruit Soda (145 บาท) แนวครีมๆ อย่าง Frosty หรือ Sundae Cream Float (175 บาท) ก็มี ไปจนกระทั่งเบียร์ทำเองของที่นี่ที่มีเป็น Beer Punch และ Shandy Beer (260 บาท) ที่เป็นเบียร์ค่อนข้างอ่อนหอมรสผลไม้ดื่มสบายๆ
วันนี้เราเลือก Blueberry Sugus Soda กลิ่นบลูเบอร์รี่เน้นๆ แถมมีบลูเบอร์รี่สดมาให้ด้านบนมากมาย
Lychee Lavender Sundae Cream Float ที่หอมลาเวนเดอร์และหวานรสลิ้นจี่กำลังดี
และ Lemonade Shandy Beer เบียร์รสมะนาวที่ไม่ขมเลยสักนิดมาลองชิม
ส่วนตัวให้ Lychee Lavender Sundae Cream Float ชนะเลิศเพราะส่วนผสมรสผลไม้กลิ่นหอมที่แสนจะลงตัวเมื่อทานกับไอศกรีมวนิลารสนุ่มนวล
และแล้วก็มาถึงเมนูของหวานที่เป็นสุดยอดซิกเนอเจอร์เมนูของร้านคือ The Ring
หลายๆ คนอาจเคยได้ยินถึง Cronut หรือ Doughssant ที่มาจากการผสมคำว่า Croissant กับ Doughnut เข้าด้วยกัน
เจ้าขนมชนิดนี้เป็นที่ฮือฮากันมากในต่างประเทศ โดยเฉพาะเมืองนิวยอร์กและเมืองชิคาโกของประเทศสหรัฐอเมริกา
ช่วงที่กำลังเป็นกระแสได้รับความนิยมกันอย่างสูงร้านขนมชื่อดังๆ ที่มีเมนูนี้ขายก็จะมีคนเข้าแถวต่อคิวยาวเหยียดไม่เว้นแต่ละวัน
Vanilla Bakeshop เองก็กำลังสร้างปรากฏการณ์นี้ในเมืองไทยโดยจัดเมนูที่ให้ชื่อว่า The Ring มาให้เราได้ลิ้มลองกัน
เมนูนี้ผสมผสานความกรอบของเนื้อแป้งแผ่นบางเป็นชั้นๆหอมเนยแบบ Croissant กับรูปทรงวงแหวนเก๋ไก๋ของ Doughnut โปะหน้าด้วยไอศกรีมวนิลารสกลมกล่อมสูตรเฉพาะของทางร้านและราดด้วยซอสคัสตาร์ดหอมหวานสุดท้ายยังราดซ้ำด้วยคาราเมลร้อนๆ ที่เมื่อเจอกับไอศกรีมเย็นเจี๊ยบก็กลายเป็นคาราเมลแข็งกรุบกรอบ
ชิมแล้วต้องขอปรบมือให้กับเมนูนี้ The Ring - Salty Caramel (280 บาท) ที่สุดแสนจะโดนใจ
นอกจากรส Salty Caramel ก็สามารถเลือกสั่งเป็นแบบ Original หรือแบบ Bacon Maple ที่เค็มและหวานกำลังดี
ใครที่คิดว่าเบคอนดูไม่เป็นขนมหวาน บอกเลยว่าคอมโบนี้เข้ากันได้แบบไม่น่าเชื่อ
นอกจากเมนู The Ring ซึ่งเป็นเมนูแนะนำ ทางร้านก็ยังมี Baked Pastry มี Pancake และ Warm Baked Dessert ให้เลือกอีกเต็มไปหมด
อย่างเมนู Danish Toast - Smoke Ham, Mozzarella & Mixed Berries Sauce (360 บาท)
ขนมปังแดนิชโทสต์ชิ้นโตจานนี้เป็นลูกผสมระหว่างของคาวและของหวานเพราะแฮมและชีสออกรสเค็มนั้นมาคู่กับซอสเบอร์รี่รสอมเปรี้ยวอมหวาน
แต่ส่วนตัวกลับชอบแดนิชโทสต์อีกรสคือ Smoke Ham & Apple Sauce มากกว่า เพราะรสหวานอ่อนๆ ของแอปเปิ้ลจะไม่โดดออกมาเท่ากับความเปรี้ยวและหวานของเบอร์รี่ทำให้ส่วนผสมดูกลมกล่อมลงตัวมากกว่า
ใครที่คิดว่า Vanilla Bakeshop เป็นเพียงร้านขนมก็คงจะเซอร์ไพรส์เมื่อได้เจอกับเมนูอาหารหลายเมนูที่ดูดีไปหมดจนตัดสินใจลำบาก
เช่นสลัดผักที่นี่ก็มี Gravlax Salmon Salad (450 บาท) สลัดผักกับแซลมอนรมควันที่มีองค์ประกอบชั้นเยี่ยมมากมายทั้งคาเวียร์ทั้งไข่ปลาแซลมอนแถมมีแบล็กเคอแรนท์กับ kumquat เพิ่มรสอมเปรี้ยวอมหวาน น้ำสลัดก็มีให้เลือกสองชนิด นอกจากที่นี่จะใช้แซลมอนคุณภาพเยี่ยมแล้วยังหมักแซลมอนเองโดยใช้เวลานานถึงสามวันจึงจะได้ออกมาเป็นแซลมอนรสอร่อยในจานนี้
หรือเมนูที่ขอแนะนำเป็นพิเศษคือเมนู Baked Pasta - Garlic Butter Clams (340 บาท) ที่ทำออกมาได้ลงตัวสุดๆ
พาสต้าหนอนเกลียวเนื้อนุ่มหนึบนี้ก็นำเข้ามาจากอิตาลี หอยลายก็ทำมาสุกพอดีหอมเนยจนน้ำลายสอตั้งแต่ยังไม่ทันตักเข้าปาก ที่เด็ดมากคือผงเกล็ดขนมปังด้านบนที่ให้รสสัมผัสกรอบๆ ตัดกับรสสัมผัสของหอยลายและพาสต้าทำให้จานนี้ทานเท่าไรก็ไม่เบื่อ
โดยรวมแล้วถูกใจเมนูต่างๆ ของร้านนี้เป็นอย่างมาก ใครที่อยากทานอาหารหรือขนมหวานแบบสุดชิคในบรรยากาศแสนสบายแนะนำ Vanilla Bakeshop เลยค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
ติดตามชมอาหารเมนูเด็ดและสถานที่ท่องเที่ยวแปลกตาจากประสบการณ์ของผู้เขียนได้ที่ IG : FoodiesJournie
ผลงานรีวิวอาหารและท่องเที่ยวสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.mevblog.com หรือติดตามได้ที่เพจ www.facebook.com/mevblog และ IG, Twitter & Pinterest : "MEVBLOG" นะคะ