"Sushi Kanda" สุดยอดร้านซูชิแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่คุณไม่ควรพลาด
!["Sushi Kanda" สุดยอดร้านซูชิแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่คุณไม่ควรพลาด](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-thumbnail.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
ร้านซูชิเด็ดอีกหนึ่งร้านในกรุงเทพที่คุณไม่ควรพลาด คือร้าน Sushi Kanda
ร้านนี้เป็นร้านที่ออกแนว Hidden Gems คือของดีหายากที่หลบซ่อนจากสายตาอยู่พอสมควร
นอกจากสถานที่จะแอบลึกลับโดยตั้งอยู่ชั้นสองของตึก No. 88 ในซอยทองหล่อ (ระหว่างซอยห้ากับซอยเก้า) ทางร้านเองก็ดูเหมือนจะไม่มีการโฆษณาอะไรมากมาย
ไปถึงนี่ป้ายด้านหน้าของตัวตึกก็จะไม่มีชื้อร้านนี้อยู่ค่ะ เมื่อเดินขึ้นมาบนชั้นสองอันเป็นที่ที่ร้านตั้งอยู่ก็จะเจอป้ายไม้เรียบๆป้ายเดียวที่เขียนชื่อร้านเป็นภาษาญี่ปุ่น ป้ายภาษาไทยหรืออังกฤษอะไรก็ไม่มีทั้งนั้น เรียกได้ว่าอาศัยการแนะนำปากต่อปากและใช้ความเป็นญี่ปุ่นต้นตำรับแท้ๆ ของที่นี่ทำให้ลูกค้าต้องดั้นด้นเสาะหากันมาจนเจอ
![ป้ายหน้าร้านเป็นภาษาญี่ปุ่น](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053631-f02f35f.jpg)
ร้านนี้เป็นร้านคุณภาพระดับพรีเมี่ยมโดยวัตถุดิบคุณภาพสูงจะถูกส่งตรงมาจากตลาด Tsukiji วันต่อวัน เรื่องความสดใหม่นั้นการันตี นอกจากนี้ก็ยังมักจะมีปลาและหอยแปลกๆ หายากมาให้ลองชิมผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปในแต่ละวัน
ความที่บรรยากาศจะเป็นแบบญี่ปุ่นแท้ๆ สำหรับท่านที่อยากจะมาสัมผัสประสบการณ์การทานซูชิแบบญี่ปุ่นๆ ขอแนะนำให้โทรมาจองเป็นที่ sushi bar เพื่อจะได้ชมการแล่ปลาและการปั้นของเชฟอย่างใกล้ชิด
เกริ่นมาอย่างนี้หลายๆ ท่านก็คงพอเดาได้ว่าราคาของร้านนี้ก็น่าจะแพงประมาณหนึ่ง สำหรับซูชิถ้าสั่งเป็นคำก็จะราคาอยู่ประมาณตั้งแต่คำละร้อยกว่าบาทไปจนถึงหลักพันขึ้นอยู่กับชนิดของปลา
บางครั้งก็จะมีปลาสดตามฤดูกาล หรือ หอยต่างๆ รวมไปถึงปูขน ซึ่งสนนราคาของหอยบางตัวก็จะอยู่ที่หลักพัน ปลาทั้งตัวก็จะอยู่ที่สองถึงสี่พันแล้วแต่ชนิด
บทจะสดก็สดแบบยังขยับอยู่เลยค่ะ
ส่วนปูขนตัวโตราคาราวเกือบห้าพันบาทแล้วแต่ขนาดที่มาในแต่ละวัน
![ปูขนตัวโต มีตามฤดูกาล](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053631-b07bb02.jpg)
ที่น่าสนใจคือปลาหายากต่างๆ ของที่นี่ค่อนข้างจะแปลกจริง บางวันก็มีเป็นลูกปลาไหลตัวเล็กๆ ใสๆ บางวันมีสเปิร์มปลารสออกมันๆ มาให้ลองชิม (Shirako 200B)
![shirako (Cod sperm sacs)](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053631-e685da3.jpg)
แถมบางทีก็มีหอยสังข์หรือหอยเป๋าฮื้อตัวโตมาให้เลือกด้วย
(Awabi 580B)
![หอยเป๋าฮื้อสดๆ กรอบกรุบ](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053631-c2c5295.jpg)
ใครที่ชอบลองของหน่อยที่นี่ก็มีปลาปักเป้าให้ลิ้มลอง โดยปลาจะแล่มาแล้วจากญี่ปุ่นโดยฝีมือเชฟที่ได้รับการ certified แล้วว่าแล่ได้อย่างปลอดภัย
ถ้ามาถึงแล้วนั่งที่บาร์ก็สามารถถามไถ่ได้เลยค่ะว่าวันนี้มีปลาพิเศษตามฤดูกาลเป็นอะไรบ้าง เชฟก็จะเอาวัตถุดิบสุดยอดเหล่านั้นขึ้นมาให้ดูกันทีละอย่างเลย
อย่างวันที่มีปลาหมึกยักษ์เชฟก็เอาออกมาให้ชมเป็นขวัญตา
![ปลาหมึกยักษ์](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053632-375c63a.jpg)
![ปลาหมึกยักษ์](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053632-9ef3ecb.jpg)
ส่วนตัวมาทานร้านนี้หลายรอบเลยเคยสั่งแบบที่เป็น a la carte มาลองอยู่หลายเมนูเหมือนกัน
ที่ติดใจก็จะมี ปลาหน้าวัว (Kawahagi 280B) ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับตับปลาวางอยู่ด้านบนรสหอมมัน
![ปลาหน้าวัว พร้อมตับปลา](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053632-2ef37cb.jpg)
กุ้งลายเสือ(Kuruma ebi 600B) ที่มาตัวเป็นๆ ทำให้สดหวานอร่อยสุดๆ
![กุ้งลายเสือ Kuruma Ebi](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053632-32ee91d.jpg)
และสำหรับคนชอบทาน ไข่หอยเม่น ที่นี่ก็จะมีทั้งแบบธรรมดา (600B) และแบบพิเศษ (800B) ให้เลือกสรรกันค่ะ
![Uni ไข่หอยเม่น](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053632-0092cd9.jpg)
อีกเมนูโปรดจะเป็น ตับปลาอังโกะ (Ankimo 350B) หอมมันที่เข้ากันกับซอสพอนสึเปรี้ยวๆ
![ตับปลาอังโกะ (Ankimo 350B)](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053632-3fcd938.jpg)
ไหนๆ จะมาลองร้านนี้ทั้งทีส่วนตัวแนะนำให้เลือกเป็น Omakase ค่ะ ของที่นี่จะมีสามราคาคือ 3000, 5000 และ 7000 บาท
ชุดสามพันจะเป็นปลาธรรมดาที่เหมือนกันตลอด ส่วนชุดห้าพันและเจ็ดพันจะเป็นปลาพิเศษในฤดูกาล
วันนี้เราเลือกสั่งเป็น Tsuki Omakase (5000B) ซึ่งประกอบไปด้วย ซาชิมิ 4 ชิ้น ซูชิ 8 คำ ของปิ้งย่างอีกสองสามรายการ และโรลอีก 2 อันค่ะ
(assorted sashimi, yakisakana or nisakana, hotate isobeyaki, tamagoyaki, assorted dishes, sushi 8 pieces, Bic Roll)
เริ่มต้นเชฟก็จะวางใบไผ่เช็ดสะอาดให้ตรงหน้าเรา แล้วค่อยๆ บรรจงแล่ซาชิมิมาให้เราทาน มีทั้ง ปลาทู (Aji) ปลาตาเดียว (Hirame) และ ส่วนท้องของปลาทูน่า (Otoro) ซึ่งทุกอย่างสดอร่อยสุดๆ สร้างความประทับใจตั้งแต่เซ็ตแรกกันเลย
![sashimi ปลาทู (Aji) ปลาตาเดียว (Hirame) และ ส่วนท้องของปลาทูน่า (Otoro)](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053633-19b013d.jpg)
ต่อมาก็เป็น Hotate isobeyaki หอยเชลล์หวานปรุงรสเครื่องเทศมาบนสาหร่ายกรอบๆ
![Hotate isobeyaki หอยเชลล์หวานปรุงรสเครื่องเทศ](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053633-57438f6.jpg)
ตามมาด้วยแก้มปลาย่างหอมๆ รสชาติกลมกล่อม
![แก้มปลาย่าง](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053633-5014a84.jpg)
ถัดมานี่เป็นความเทพของร้านนี้ที่ปั้น ไข่หอยเม่น บนข้าวได้โดยไม่ต้องใช้สาหร่ายห่อและส่งให้บนมือเลยทีเดียว หอยเม่นหอมหวานไร้กลิ่นคาว ฟินกันสุดๆ กับคำนี้
![ไข่หอยเม่น Uni](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053633-6ca1f6c.jpg)
ต่อกันด้วย กุ้งลายเสือย่าง (Grilled kuruma ebi) ทำมาได้สุกพอดีไม่แห้งเกินไป เนื้อยังฉ่ำๆ หวานอร่อย
![กุ้งลายเสือย่าง (Grilled kuruma ebi)](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053633-1be7382.jpg)
จากนั้นจึงเป็น ข้าวหน้าไข่ปลาแซลมอน ที่หมักมาเค็มอ่อนๆกำลังดี
![ข้าวหน้าไข่ปลาแซลมอน](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053633-3dd19c3.jpg)
และแล้วก็ได้เวลาที่รอคอย คุณเชฟเริ่มเสิร์ฟซูชิรสเลิศมาทีละคำทีละคำ
ซูชิที่นี่ปั้นมาแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ประณีตพิถีพิถันมาก ขนาดของคำจะค่อนข้างเล็กสำหรับมาตรฐานเมืองไทย แต่เป็นขนาดที่ใกล้เคียงกันที่เจอในร้านดีๆที่ญี่ปุ่น และเป็นขนาดที่ให้รสสัมผัสและให้สมดุลระหว่างปลากับข้าวได้อย่างสุดยอด
มาคำแรกก็ทำเอาเราเคลิ้มกันด้วย Otoro คุณภาพเยี่ยมที่มีมันแทรกอยู่ กัดเข้าปากแล้วนุ่มละลายไปในพริบตา
![Otoro](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053634-670fdc2.jpg)
ต่อด้วย Chutoro ที่นุ่มมากๆ หลับตาทานนี่เทียบได้เกือบเท่า Otoro ของร้านอื่นๆบางร้านได้เลย
![Chutoro](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053634-94a246f.jpg)
ถัดมาเป็น Saba ที่ดองเปรี้ยวมากำลังพอดี ทานกับสาหร่ายคอมบุที่มาช่วยเสริมรสให้ลงตัวยิ่งขึ้น
![Saba](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053634-3537581.jpg)
จากนั้นจึงเป็น กุ้งลายเสือต้ม รสหวานอร่อย
![กุ้งลายเสือต้ม](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053634-bbe75eb.jpg)
ตามมาติดๆด้วย Aji หรือปลาทู ที่รสชาติเข้มข้นอยู่แล้วตามลักษณะของปลาตระกูลนี้ พอเจอกับขิงก็ยิ่งเสริมรสให้จัดจ้านขึ้นไปอีก
![Aji หรือปลาทู](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053634-d762bed.jpg)
ร้านนี้ปั้นซูชิมาให้ค่อนข้างเร็ว เวลาทานชุด Omakase สำหรับคุณผู้ชายอาจจะว่าสปีดกำลังพอดี
แต่สำหรับคุณผู้หญิงที่เคี้ยวช้าทานช้าหน่อยอาจจะรู้สึกเหมือนถูกเร่งไปนิด ระหว่างทางก็จะมีซุปมิโซร้อนๆมาให้ซดกันด้วย
กลับมาที่ซูชิที่เชฟปั้นมารัวๆ ก็จะทั้ง Kanpachi
![Kanpachi](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053634-9ee1b10.jpg)
ปลากะพงแดง
![ปลากะพงแดง](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053634-ad5e5c4.jpg)
หอยเชลล์ สดมากๆ หวานเจี๊ยบ
![Hotate Sushi](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053635-b5b41df.jpg)
จนมาปิดท้ายที่ Kohada
![Kohada](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053635-77f77e4.jpg)
ต่อมาด้วยไข่หวาน
![ไข่หวาน](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053635-4b8e474.jpg)
ปิดท้ายชุดด้วยโรลชิ้นโตที่มี Negi toro, Uni & Ikura ที่โปะมาจนล้นแบบไม่มีหวงของ
![Negi toro, Uni & Ikura](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053635-3301699.jpg)
เนื่องจากโคฮาดะรสชาติดีมาก เราเลยสั่งซ้ำ รอบนี้เชฟถักมาเป็นเปียสวยงามเลยทีเดียว และแน่นอนว่ารสชาติก็ยังอร่อยคงเส้นคงวา
![Kohada](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053635-f8d89da.jpg)
บอกเลยว่าซูชิที่นี่ปลาสดสุดๆ ทุกคำ
มาถึงจุดนี้อิ่มกันพอใช้แต่บางคนก็ยังไม่จุใจ เลยสั่ง Natto maki มาทานด้วย
ถ้าใครที่เคยได้ยินกิตติศัพท์ของถั่วหมักแบบญี่ปุ่นที่กลิ่นรุนแรงจนเรียกอีกอย่างว่าถั่วเน่าก็คงจะสยองกันเล็กๆ แต่สำหรับคนที่ชอบทานนัตโตะอยู่แล้วจะต้องรักเมนูนี้ของที่นี่เลยเพราะทำออกมาได้อร่อยจริงๆ
![Natto maki](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053635-aaa20fc.jpg)
คุยกับเชฟได้ยินว่าที่นี่มีต้นอ่อนของต้นหอมหรือ Menegi ด้วย
อันนี้หาทานยากพอตัวเหมือนกัน ไม่ได้มีกันทุกร้าน เราจึงไม่รอช้าที่จะสั่งมาลองกัน
อันนี้ก็เป็นอีกจานที่ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของผู้ทาน คือถ้าใครที่ชอบต้นหอมเป็นทุนเดิมก็จะประทับใจยิ่งขึ้นไปอีกเพราะมันหอมสดชื่น
ส่วนตัวผู้เขียนเองที่ปกติไม่ค่อยทานต้นหอมก็ตัดใจทานซูชิคำที่เป็นต้นหอมทั้งคำอย่างเมนูนี้ไม่ลงจริงๆ เลยได้แต่เก็บคำบอกเล่าของเพื่อนๆ มาบอกต่ออีกที
![Menegi](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053636-e6d4e2f.jpg)
ปิดท้ายด้วยของหวานในชุดคือเต้าหู้ทีรามิสุที่ใช้เต้าหู้ญี่ปุ่นปั่นกับครีมแล้วโรยผงกาแฟผงโกโก้ด้านบน เต้าหู้นั้นนวลเนียนหอมอ่อนๆในตัว
อร่อยจนเราทนไม่ได้ต้องขอสั่งเพิ่มอีกซึ่งทางร้านก็จัดเพิ่มพิเศษให้ได้ในราคาช้อนละ 50 บาท ปิดฉากประสบการณ์มื้ออาหารสุดประทับใจมื้อนี้ลงอย่างสวยงาม
![เต้าหู้ทีรามิสุ](http://s.isanook.com/tr/0/ud/281/1408009/1408009-20180207053636-4199615.jpg)
โดยรวมแล้วร้านนี้เป็นร้านญี่ปุ่นที่ authentic มากๆ เรียกได้ว่ามาตรฐานเทียบเท่าร้านดีๆ ที่ญี่ปุ่น
ส่วนตัววางอันดับไว้ให้เป็นหนึ่งในสามร้านที่ดีที่สุดที่เคยทานในกรุงเทพ
สนนราคานั้นสูงตามคุณภาพแต่ถ้าคิดเสียว่าประหยัดค่าเครื่องบินที่จะต้องบินไปทานถึงญี่ปุ่นเพื่อที่จะได้ประสบการณ์การชิมเหมือนต้นตำรับและวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมแบบนี้ก็ถือว่ายังคุ้ม ค
วามสดของปลานั้นสุดยอดจริงๆ และเชฟก็เป็นเชฟที่มากฝีมือผู้เคยเป็นเชฟในย่านกินซ่ามาแล้วก่อนจะมาแสดงฝีมือให้เราทานกันที่นี่
จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ลูกค้าของที่นี่มีชาวญี่ปุ่นอยู่ก็มากจนเราคิดว่ากลุ่มลูกค้าหลักน่าจะเป็นชาวญี่ปุ่นที่โหยหารสชาติและคุณภาพระดับที่คุ้นเคยยามอยู่บ้านเกิดเมืองนอน
ร้านนี้จึงเป็นร้านซูชิอีกร้านที่เราแนะนำให้ทุกๆ ท่านไปลองได้อย่างเต็มปากเต็มคำ
ติดตามผู้เขียนได้ที่ IG : FoodiesJournie ที่ผู้เขียนบันทึกอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวจากเรื่องราวประจำวัน
และชมผลงานรีวิวอาหารได้ที่ www.mevblog.com หรือ IG, Facebook, Twitter และ Pinterest ในนาม "MEVBLOG" นะคะ