Sankyodai ร้านซูชิคุณภาพพรีเมี่ยมที่นำหลากหลายเมนูเด็ดส่งตรงจากตลาดปลามาให้คุณ

Sankyodai ร้านซูชิคุณภาพพรีเมี่ยมที่นำหลากหลายเมนูเด็ดส่งตรงจากตลาดปลามาให้คุณ

Sankyodai ร้านซูชิคุณภาพพรีเมี่ยมที่นำหลากหลายเมนูเด็ดส่งตรงจากตลาดปลามาให้คุณ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้มารีวิวร้านโปรดในดวงใจคือร้าน Sankyodai ค่ะ

ร้านนี้อยู่ที่ 24th Avenue สุขุมวิท 24 เดินทางไม่ยากเท่าไร มีทีเด็ดอยู่ที่ปลาสดใหม่ มีปลาหายากหลายอย่างให้ได้ลองชิมหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาลอยู่ไม่ขาด

และที่สำคัญคือเชฟน่ารักใจดี พิถีพิถันและเอาใจใส่กับการทำซูชิอร่อยๆมาให้ลูกค้าได้ฟินทุกครั้งที่ไปอุดหนุนค่ะ

 

ซูชินอกเมนูที่คุณเชฟรังสรรค์ขึ้นมาให้ได้ลองชิมกัน
ซูชินอกเมนูที่คุณเชฟรังสรรค์ขึ้นมาให้ได้ลองชิมกัน

 

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับร้านอาหารญี่ปุ่นอันดับต้นๆ ในดวงใจก็คงจะหนีไม่พ้นคุณภาพและความสดของวัตถุดิบ รวมไปถึงความพิถีพิถันในการรังสรรค์ปั้นซูชิชนิดต่างๆ

ร้าน Sankyodai จึงได้ขึ้นแท่นเป็นอันดับแรกๆ ที่เรานึกถึงเมื่ออยากทานซูชิ เพราะนอกจากจะได้อิ่มอร่อยกับวัตถุดิบชั้นเลิศที่เชฟบรรจงทำออกมาให้ลิ้มลอง ก็ยังจะได้อิ่มอกอิ่มใจกับความรู้สึกดีๆ ที่ได้จากการบริการอันน่าประทับใจของทางร้านกลับมาด้วยเสมอ

 

ตั้งใจทำมากจริงๆค่ะ บรรจงจัดวางจนงามงดทุกจาน
ตั้งใจทำมากจริงๆค่ะ บรรจงจัดวางจนงามงดทุกจาน

 

ใครที่จะมาลองชิมร้านนี้แนะนำให้จองเป็นที่ sushi bar เพราะนอกจากจะได้พูดคุยสะสมความรู้เกี่ยวกับปลาชนิดต่างๆ จากคุณเชฟผู้ใจดี คุณยังจะได้พินิจพิจารณาเทคนิคในการรังสรรค์อาหารแต่ละจานของเชฟอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

ครั้งแรกที่เราไปคนไม่มากจึงได้ถามไถ่เชฟกันอย่างจุใจ

เริ่มจากจาน San Umi Sake Sashimi (480 บาท) เป็นซาชิมิแซลมอนชิ้นโต มีที่มาจากสามแหล่งด้วยกัน ทั้ง Norway Tasmanian และ King Salmon

 

Salmon สามแหล่งน้ำ
Salmon สามแหล่งน้ำ

 

ส่วนตัวชอบ King Salmon มากที่สุด บางครั้งเมนูนี้ก็จะเปลี่ยนแปลงตามวัตถุดิบที่มี บางทีก็จะมีโอกาสได้ชิมแซลมอนจาก Lochduart มาไกลจากทางเหนือของสก็อตแลนด์เลยทีเดียว

 

แซลมอนซูชิของที่นี่ก็มีหลายแบบ แบบดั้งเดิมก็มี แบบฟิวชันก็อีกหลายเมนู

อย่างถ้าสั่งแบบ Salmon Toro ส่วนท้องที่มีมันเยอะหน่อยก็สามารถสั่งให้เป่าไฟได้ออกมาจะหอมมันยิ่งขึ้น

 

Salmon Aburi
Salmon Aburi

 

 

หรือถ้าอยากชิมความแปลกใหม่แนะนำให้ลอง Jelly Belly (130 บาท) แซลมอนส่วนท้องที่มากับซอสพอนซึที่นำไปทำเป็นเยลลี่ รสเค็มและเปรี้ยวของพอนซึนั้นเข้ากันได้ดีกับแซลมอนอยู่แล้ว ยิ่งทำเป็นเยลลี่ก็ยิ่งให้รสสัมผัสที่พิเศษยิ่งขึ้นไปอีก

 

Jelly Belly (130 บาท)
Jelly Belly (130 บาท)

 

เมนูปลาดิบของทางร้านมีให้มากจนแทบเลือกไม่ถูก

เราเลือก Ika (70 บาท)

 

Ika  Sushi (70 บาท)
Ika Sushi (70 บาท)

 

Madai Ikura Sushi (190 บาท)

 

Madai Ikura Sushi (190 บาท)
Madai Ikura Sushi (190 บาท)

 

และ Kinmedai Sushi (310 บาท)

 

Kinmedai Sushi (310 บาท)
Kinmedai Sushi (310 บาท)

 

ลองแล้วอร่อยทุกอย่างจริงๆ

 

จุดเด่นของร้าน Sankyodai คือการนำเข้าวัตถุดิบพิเศษส่งตรงจากตลาดปลา tsukiji มากันเลย ดังนั้นก็จะมีปลาสดตามฤดูกาล และสามารถนำเสนอหลายๆ อย่างที่เราเองก็อาจไม่ได้ทานกันบ่อยนัก เช่นปลา Nodoguro (Blackthroat Seaperch) ที่มีน้อยร้านจริงๆที่จะมีขาย หรือ Kawahagi ปลาหน้าวัวที่จะทานคู่กับตับจึงให้ความหอมมัน และอีกมากมายซึ่งเมื่อแวะเวียนไปหลายรอบเข้าก็จะได้รู้จักได้ลองปลาใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ

อย่าง Akagai หรือหอยแครงที่นี่ก็มีให้ได้ลิ้มลอง

 

Akagai Sushi
Akagai Sushi

 

หอยแครงที่นี่สดมากเนื้อกรุบกรอบ

 

หรือบางวันก็จะมี Karsuki Hotate Sashimi (700 บาท) หรือหอยเชลล์เป็นๆ รสหวานเจี๊ยบมาให้ได้ชิม

 

Karsuki Hotate Sashimi (700 บาท)
Karsuki Hotate Sashimi (700 บาท)

 

Amaebi Sushi (140 บาท) หรือกุ้งหวานของที่นี่ก็สด

 

Amaebi Sushi (140 บาท)
Amaebi Sushi (140 บาท)

 

ที่ประทับใจมากก็คือ Kuruma Ebi (260 บาท) กุ้งคุรุมะที่เนื้อสดหวานรสแตกต่างชัดเจนจากกุ้งธรรมดาทั่วไป

 

Kuruma Ebi (260 บาท)
Kuruma Ebi (260 บาท)

 

อีกหนึ่งเมนูที่ขึ้นชื่อของร้านก็เห็นจะเป็น Otoro (460 บาท) หรือส่วนท้องของปลาทูน่า

 

Otoro (460 บาท)
Otoro (460 บาท)

 

ชิมมาหลายร้านบอกได้เลยว่า Otoro ร้านนี้คุณภาพสูงหาตัวจับยาก เนื้อนี่แทรกมันจนนุ่มละลายในปากทันทีที่สัมผัส ไม่เคยเจอเส้นใยให้ระคายใจเลยสักครั้ง

ดูจากรูปก็คงพอจะบอกได้ว่า Otoro ของที่นี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ยิ่งทานกับไข่ปลาคาเวียร์เค็มๆที่ทางร้านให้มาเคียงกัน รสชาติเข้ากันอย่าบอกใคร

 

สำหรับคนชอบทานซูชิแบบเป่าไฟ ที่นี่มีให้เลือกหลายอย่าง

ส่วนตัวคิดว่าเซต Seikai Aburi (1,450 บาท) นั้นคุ้มค่าที่เดียวเพราะมีทั้ง Otoro, Kuruma Ebi, Engawa, Matsuzaka Beef, Foie Gras และ Beef Tongue ในชุดเดียว วัตถุดิบชั้นเยี่ยมพอเป่าไฟมาก็จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ รสสัมผัสนุ่มกำลังพอดี ครีบปลาตาเดียวของที่นี่ยังไม่ค่อยหอม แต่อย่างอื่นอร่อยจนไม่รู้จะติอะไร โดยเฉพาะเนื้อและตับห่านที่เราชื่นชอบมากจนต้องสั่งเพิ่ม

 

Seikai Aburi (1,450 บาท)
Seikai Aburi (1,450 บาท)

 

โดยลองสั่งเป็น Foie gras Engawa Matsuzaka Sushi (650 บาท) ที่มีวัตถุดิบชั้นเลิศทั้งสามในคำเดียวกัน

 

Foie gras Engawa Matsuzaka Sushi (650 บาท)
Foie gras Engawa Matsuzaka Sushi (650 บาท)

 

ส่วนถ้าชอบอีกคอมโบหนึ่งก็สามารถสั่งเป็นคู่อย่างสั่งเพียง Foie gras Engawa Sushi

 

Foie gras Engawa Sushi
Foie gras Engawa Sushi

 

หรือ Foie gras Matsuzaka Sushi (550 บาท) ก็ได้

 

คุณเชฟร้านนี้เอาใจลูกค้ายืดหยุ่นให้เราขอจับคู่ในแบบที่เราต้องการได้

เช่นคู่ง่ายๆ อย่าง Unagi Avocado(90 บาท) ที่ไม่มีในเมนูแต่เชฟก็ทำให้ตามคำขอ

 

Unagi Avocado(90 บาท)
Unagi Avocado(90 บาท)

 

หรือ Special Nigiri (350 บาท) ที่เราบอกให้เชฟลองเดาใจทำมาเซอร์ไพรส์ เชฟจึงจัดพิเศษเป็น Madai, Foie gras, Quail egg & Caviar ในคำเดียวกัน ออกมาได้รสชาติแปลกใหม่ ไข่นกกระทาช่วยหลอมรวมให้วัตถุดิบอื่นเข้ากันอย่างดีเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งไอเดียเก๋ๆ ที่เราต้องกลับมาสั่งให้เชฟทำให้อีกเกือบทุกครั้งที่มา

 

Special Nigiri (350 บาท)
Special Nigiri (350 บาท)

 

ที่ถูกใจสุดๆ คือเคยขอซื้อ Uni ยกกล่อง (6,000 บาท)

 

Uni ยกกล่อง (6,000 บาท)
Uni ยกกล่อง (6,000 บาท)

 

และคุณเชฟก็คิดเมนูที่ใช้ไข่หอยเม่นออกมาให้เราชิมสองเมนูด้วยกัน

มีทั้ง Uni กับปลาหมึกฝานเส้นบางพร้อมสาหร่ายเส้นๆ โปะด้วยไข่นกกะทาที่จัดมาในแก้วเล็กใสวางบนน้ำแข็งในถ้วยทรงสูงอีกชั้น

 

Uni & Ika
Uni & Ika

 

จานนี้รสชาติละมุนยอดเยี่ยมไม่แพ้การจัดวาง

 

Uni & Ika + Quail Egg
Uni & Ika + Quail Egg

 

คือเชฟตั้งใจมาก

 

San Kyo Dai_collage2

 

อีกเมนูนั้นวางไขหอยเม่นบนสาหร่ายหอมกรอบกับข้าวซูชิ

 

Uni Ikura Special
Uni Ikura Special

 

แล้วโปะไข่ปลาแซลมอนและคาเวียร์ด้านบน

 

Uni Ikura Special
Uni Ikura Special

 

ไข่สามอย่างเข้ากันได้ดีสุดๆ Uni เน้นๆ สองเมนูนี้ ด้วยวัตถุดิบที่ยอดเยี่ยมและการจับคู่ที่เข้าใจรสชาติขององค์ประกอบต่างๆ อันเหนือชั้นของคุณเชฟเรียกได้ว่าทำให้ฝันของคนรัก Uni เป็นจริงกันเลย

 

สุดท้ายเราสั่งไข่หวานของที่นี่มาลอง โดยลองทั้ง Tamago Sashimi (130 บาท)

 

Tamago Sashimi (130 บาท)
Tamago Sashimi (130 บาท)

 

และ Tamago Sponge (120 บาท) อันเลื่องชื่อ

 

Tamago Sponge (120 บาท)
Tamago Sponge (120 บาท)

 

ทานแล้วติดใจกับไข่สปันจ์สุดๆ เพราะเนื้อนุ่มฟู รสสัมผัสละมุนละไม ที่หอมอร่อยเพราะใช้ปลา Madaiและกุ้งคุรุมะบดละเอียดในการทำ ทานแล้วถึงกับเคลิ้ม ไม่เสียแรงที่เป็นสูตรลับตำรับเด็ดของทางร้านที่เลือกสรรมาให้เราได้ลอง

 

ปิดท้ายด้วยพุดดิ้งเนื้อนวลหวานอร่อย

 

Pudding
Pudding

 

ด้วยความที่ทุกอย่างทำออกมาได้เหมาะเจาะลงตัว ร้านนี้จึงเป็นร้านที่เราแวะเวียนไปอยู่เสมอไม่ได้ขาดจนกลายเป็นขาประจำไป จึงมั่นใจที่จะแนะนำร้านนี้ให้คุณลองเพราะคุณจะได้พบกับปลาดิบคุณภาพเยี่ยมและบริการประทับใจในราคาที่สูงแบบสมเหตุสมผลค่ะ

 

 

ติดตามชมอาหารเมนูเด็ดและสถานที่ท่องเที่ยวแปลกตาจากประสบการณ์ของผู้เขียนได้ที่ IG : FoodiesJournie

ผลงานรีวิวอาหารและท่องเที่ยวสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.mevblog.com

หรือติดตามได้ที่เพจ www.facebook.com/mevblog

และ IG, Twitter & Pinterest : “MEVBLOG” นะคะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook