ไอร์แลนด์เหนือ ... แฟนหนัง Game of Thrones พลาดได้ไง : เบลฟาสท์ (ตอนที่1)
สวัสดีเพื่อนๆชาวสนุกดอทคอมค่ะ วันนี้จะขอเปลี่ยนบรรยากาศจากพาเที่ยวในเมืองไทยไปต่างประเทศกันบ้าง ประเทศที่เราจะลัดฟ้าพาไปในวันนี้คือไอร์แลนด์เหนือ หรือ Northern Ireland ค่ะ ^^
สำหรับประเทศนี้ ถ้าใครเป็นแฟนหนัง Game of Thrones ไม่ควรพลาดไปสัมผัสซักครั้งในชีวิตนะคะ เพราะที่นี่ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหลักของหนังเรื่องนี้เลยส่วนตัวเราไม่ได้เป็นแฟนหนังตัวยง แต่ว่าได้มีโอกาสไปก่อนที่จะบินกลับไทยสมัยตอนเรียนปริญญาโทอยู่ที่กลาสโกว์ ประเทศสก็อตแลนด์ค่ะ
ทำความรู้จักไอร์แลนด์เหนือกันซะหน่อย
หลายๆคนอาจจะเคยสับสนระหว่างประเทศไอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ และไอร์แลนเหนือนะคะ ทั้งสามสิ่งนี้เป็นคนละประเทศกันเลยค่ะ ไอซ์แลนด์ ( Iceland ) เป็นเกาะอยู่แถวๆยุโรปตอนเหนือแถบสแกนดิเนเวีย ส่วน ไอร์แลนด์ (Ireland) คือประเทศที่เป็นเกาะข้างๆเกาะอังกฤษ เรียกได้อีกอย่างว่า ไอร์แลนด์ใต้ (ตามแผนที่ด้านบน) ส่วนประเทศที่เรากำลังพูดถึงในบทความนี้คือไอร์แลนด์เหนือ (Northern Ireland) อยู่เหนือประเทศไอร์แลนด์ และเป็นหนึ่งในเขตการปกครองของสหราชอาณาจักรค่ะ
เกาะไอร์แลนด์นี้ ในสมัยก่อนเคยรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีเหนือมีใต้ค่ะ แต่ด้วยความขัดแย้งทางการเมืองและศาสนาภายใน ทำให้ไอร์แลนด์แบ่งออกเป็นสองส่วน ไอร์แลนด์ใต้ เป็นประเทศอิสระ ใช้สกุลเงินยูโร ตามกลุ่มประเทศในยุโรป มีเมืองหลวงคือเมืองดับลิน ส่วนไอร์แลนด์เหนือเป็นส่วนหนึ่งในเขตปกครอง 4 เขตของสหราชอาณาจักร (อังกฤษ สก็อตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนเหนือ) มีเมืองหลวงคือเบลฟาสท์ และใช้สกุลเงินเดียวกับอังกฤษคือเงินปอนด์ค่ะ
ถ้างั้น ... มาเที่ยวไอร์แลนด์เหนือ ใช้ธนบัตรแบบอังกฤษหรือสก็อตแลนด์ได้ไหม ?
คำตอบก็คือสามารถใช้ได้ค่ะ ธนบัตรแบบอังกฤษ (ที่หน้าแบงค์เป็นรูปพระพักตร์อันงดงามของควีนอลิซาเบธสมัยยังสาว) สามารถใช้ได้หมดทั้งในสก็อตแลนด์ หรือไอซ์แลนด์เหนือ พูดง่ายๆคือธนบัตรอังกฤษไปที่ไหนในยูเคใครๆก็รับ
และแบงค์สก็อตแลนด์ล่ะ ใช้ในไอร์แลนด์เหนือได้ไหม? ... คำตอบคือก็ยังได้อยู่ค่ะ แต่ในไอร์แลนด์เหนือ เค้าก็มีแบงค์หน้าตาสวยงามของเค้าใช้เองเหมือนกัน (คือถึงแม้จะใช้สกุลเงินปอนด์ร่วมกัน แต่ขอสวยงามตามแบบฉบับของตัวเองว่างั้นเถอะ)
ข้อควรระวังเรื่องแบงค์ของไอร์แลนด์เหนือก็คือ ธนบัตรไอร์แลนด์เหนือไม่สามารถนำมาใช้ในสก็อตแลนด์หรืออังกฤษได้ค่ะ คือบางร้านอาจจะรับ แต่ส่วนมากไม่รับกัน ในส่วนของแบงค์สก็อตแลนด์ก็คล้ายๆกันค่ะ คือที่สก็อตแลนด์ใช้ธนบัตรอังกฤษได้สบายมาก แต่พอเอาลงมาใช้ที่อังกฤษ ร้านบางร้านก็ไม่รับ แต่จากประสบการณ์ของเรา เคยใช้แบงค์สก็อตแลนด์ในลอนดอน ยังไม่เคยถูกปฏิเสธนะคะ แต่เคยได้ยินมาจากเพื่อนอีกที ว่าบางร้านไม่รับค่ะ
ควรไปเที่ยวช่วงไหน สภาพอากาศเป็นยังไง
สภาพอากาศที่นี่ไม่ต่างกับเกาะอังกฤษมาก คือหนึ่งวันมี 4 ฤดูเลย ช่วงที่เราไปตอนนั้นเป็นช่วงปลายหน้าร้อน ประมาณเดือนสิงหาคม อากาศก็ไม่หนาวมากค่ะ แต่อากาศสะพัดมาก คือฝนตก ซักพักแดดออก ซักพักลมแรง อารมณ์เดียวกับที่สก็อตแลนด์และอังกฤษนั่นแหละค่ะ
ดังนั้น เสื้อกันหนาวมีฮู้ด เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเที่ยวในประเทศแถบนี้มากๆ แนะนำว่าถ้าไม่ชอบหนาวมาก ไม่ควรไปช่วงปลายปีเพราะจะหนาวจนทนไม่ไหว หลีกมาเที่ยวช่วงกลางๆปี ราวเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมน่าจะดีที่สุดค่ะ
นั่งสายการบินไหนได้บ้าง
สายการบินที่บินระหว่างกรุงเทพและเบลฟาสท์ ส่วนมากต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่อังกฤษไม่ก็สก็อตแลนด์ก่อนค่ะ สายการบินที่นิยมกันก็จะเป็น British Airway กับ Emirate airline แต่เนื่องจากวีซ่าที่ใช้เที่ยวไอร์แลนด์เหนือก็คือวีซ่าในเครือสหราชอาณาจักร (วีซ่าเข้าอังกฤษ) ดังนั้นเลยแนะนำว่า ไหนๆได้วีซ่ามาแล้วก็อาจจะแวะเที่ยวอังกฤษหรือสก็อตแลนด์ก่อน และค่อยไปไอร์แลนด์เหนือก็ได้ค่ะ
ซื้อตั๋วแบบบินไปกลับอังกฤษกรุงเทพ และค่อยหาตั๋วราคาประหยัด (low cost airline) ในยุโรป บินต่อไปก็ได้ ของเราตอนนั้นบิน easy jet จากกลาสโกว์ไป ใช้เวลาแค่ห้าสิบนาที ราคาคิดเป็นเงินไทยแค่พันนิดๆเองค่ะ
ที่พักในเบลฟาสท์
สำหรับทริปนี้ เราจองที่พักผ่าน Hostelworld เว็บไซต์ขาประจำที่ใช้มองหาที่พักในยุโรปค่ะ ที่พักที่ใช้บริการในครั้งนี้คือ International Youth Hostel Belfast หรือบ้านพักเยาวชนที่มีอยู่ตามเมืองใหญ่ๆทั่วโลก
ห้องพักจะมีตั้งแต่ห้องส่วนตัวพักสองคน ห้องนอนรวม (dorm) แบบ 4 คน 6 คน มีทั้งแบบแยกหญิงชายและมิกซ์ดอม ราคาที่พักสำหรับห้อง dorm 4 คนจะอยู่ที่คนละ 13.5 ปอนด์ หรือราว700บาทต่อคืน (ข้อมูลอัพเดตล่าสุด เดือนตุลาคม ปี 2015 )
สำหรับราคานี้ ถือว่าไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ ที่พักสะอาด เจ้าหน้าที่เป็นมิตร ในห้องนอนจะมีอ่างล้างหน้าให้ แต่สำหรับอาบน้ำต้องออกไปใช้ห้องอาบน้ำรวม ซึ่งก็สะอาดมากเช่นกัน ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของที่นี่คือตัวที่พักค่อนข้างไกลจากใจกลางเมือง ทำให้เวลาหาของกินแอบมีตัวเลือกน้อย ถ้าเดินจากย่านกลางเมืองใช้เวลาประมาณ 30 นาทีถึงจะถึงค่ะ
บรรยากาศในตัวมืองเบสฟาสท์
สำหรับบรรยากาศเมืองเบลฟาสท์ ถ้าเทียบเมืองใหญ่ๆในสก็อตแลนด์หรืออังกฤษ ต้องบอกว่ายังอาจจะเจริญไม่เท่าค่ะ ตึกรามบ้านช่องส่วนมากจะยังเป็นสไตล์โบราณ ไม่ค่อยมีตึกทันสมัยเท่าไหร่ เว้นแต่ละแวกใจกลางเมืองหรือย่านช็อปปิ้ง ที่พอจะมีตึกโมเดิลให้เห็น แต่ส่วนมากจะเป็นตึกสไตล์โบราณ อารมณ์เมืองเหมือนย้อนอดีตกลับไปประมาณสิบปี ซึ่งจุดนี้เป็นอะไรที่ถูกใจคนชอบสรรพสิ่งโบราณอย่างเรามากจริงๆ ^^
ย่านช็อปปิ้งใจกลางเมืองเบลฟาสท์
The Queen's University of Belfast มหาลัยเก่าแก่ อายุกว่า 160 ปี
University's Motto : For so much, what shall we give back?
Belfast City Hall
บรรยากาศ City Hall ยามใกล้ค่ำ ... สวยไปอีกแบบ
ภายใน City Hall ... เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าเข้า
สำหรับตัวเมืองเบลฟาสท์ เราคิดว่าใช้เวลาเที่ยวเองแค่ 1-2 วันก็พอค่ะ สามารถเดินเที่ยวเองได้ (สไตล์ walking tour ) หรือถ้าเมื่อยก็กระโดดขึ้นรถ Hop On Hop Off เป็นรถบัสสองชั้นสีแดงที่จะผ่านจุดท่องเที่ยวสำคัญ สามารถติดต่อขอซื้อตั๋วได้ที่จุดบริการนักท่องเที่ยวในเมือง หรือจองตั๋วล่วงหน้าทางอินเทอร์เน็ตก็ได้ ราคาตั๋วสำหรับผู้ใหญ่แค่ 10 ปอนด์ต่อวันเท่านั้น จะขึ้นลงกี่เที่ยวก็ได้
จริงๆแล้วรอบนอกเมืองของเบสฟาสท์ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกหลายที่เลยนะคะ เช่น พิพิธภัณฑ์ไททานิค (เบสฟาสท์เป็นสถานที่ต่อเรือไททานิคอันเลื่องชื่อค่ะ) มีปราสาทและสวนสาธารณะสวยๆมากมาย แต่ตอนที่เราไป เราใช้เวลาแค่วันครึ่งกับตัวเมืองเบสฟาสท์และเลือกไปเที่ยวเมืองอื่นๆแทน เลยไม่ได้ตามเก็บทุกที่ที่ได้อ่านจากในเว็บมาค่ะ
ส่วนครั้งหน้า เราจะยังคงอยู่ที่ไอร์แลนด์เหนือค่ะ จะพาไปเที่ยวเมืองเล็กๆที่มีเสน่ห์อย่าง Londonderry และพาไปดูธรรมชาติชายฝั่งทะเลที่น่าอัศจรรย์อย่าง Giant's causeway จะสวยและสนุกยังไง อย่าลืมติดตามกันต่อนะคะ ^^*
ข้อมูลเพิ่มเติม :
International Youth Hostel Belfast >>>> http://belfastcitysightseeing.com/belfast-city-sightseeing-tour/
Belfast City Sightseeing Tour >>>>>> http://belfastcitysightseeing.com/belfast-city-sightseeing-tour/
More information about Belfast >>>>> http://visit-belfast.com/things-to-do/category/attractions