สัมผัสมนต์เสน่ห์อันรื่นรมย์กับบรรยากาศของหัวหินวันวานที่ Devasom (เทวาศรม) หัวหิน
Devasom Hua Hin Resort
1446/23 ถนเพชรเกษม กม.221 ชะอำ-หัวหิน เพชรบุรี 76120
รีสอร์ทสวยคลาสสิคเรียบหรูมีสไตล์ริมทะเลหัวหิน หนึ่งในโรงแรมที่เข้าประกวด KTC Thailand Boutique Award 2014-2015 เคยได้ยินชื่อเสียงของที่นี่มาพักใหญ่ แต่เพิ่งมีโอกาสมาพักครั้งนี้ สัมผัสแรกตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามาคือรู้สึกเงียบสงบผ่อนคลาย เหมือนหลุดเข้าไปอยู่อีกโลกแล้วทิ้งความวุ่นวายอึกทึกไว้เบื้องหลัง เทวาศรมอยู่ระหว่างชะอำและหัวหิน เลยเชอราตันมาก็เลี้ยวซ้ายตามป้ายเข้ามาในซอยลึกซักนิดเลยเงียบสงบเป็นส่วนตัวเลยค่ะ
ตัวตึกหลังใหญ่สีขาวมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามโดดเด่น มีลักษณะคล้ายบ้านเก่าทรงขนมปังขิง มีกลิ่นอายของบ้านพักตากอากาศของหัวหินวันวานอย่างชัดเจน บรรยากาศร่มรื่น เป็นระเบียบสะอาดตา
การออกแบบตกแต่งก็สวยงามกลมกลืน เรียบหรูคลาสสิคดูเป็นผู้ดีแบบคฤหาสน์คหบดีย้อนยุค การใช้สีโทนพาสเทลฟ้าอ่อน เหลือง ชมพู ขาวดูอ่อนโยนนุ่มนวล เฟอร์นิเจอร์และอ่างอาบน้ำแบบวินเทจ กระเบื้องปูผนังห้องน้ำและพื้นลายวินเทจ ไม้ลายฉลุ ผ้าคลุมเตียงลูกไม้ ดอกกล้วยไม้สีขาวและชมพูอ่อนพาสเทล ดูผ่อนคลายและมีอารมณ์ความเป็นผู้หญิง ซึ่งแนวนี้ถูกจริตตัวเองมากๆ รู้สึกตัวเองเป็นปริศนา เป็นวนิดาขึ้นมาทันที อิอิ ไหนจะกระเบื้องหลังคาแบบเก่า มีการนำข้าวของสะสมของเจ้าของมาประดับตกแต่งอยู่หลายจุด รู้สึกอบอุ่นเหมือนมาพักที่บ้านตากอากาศมากกว่าไปโรงแรมทั่วไป
Hotel Entrance and Lobby
ล็อบบี้เล็กๆโปร่งโล่งรู้สึกสบาย สะดุดตาด้วนกระเบื้องพื้นลายวินเทจสวยมาก ชอบแนวนี้อยู่แล้ว โดนเลยค่ะ ไหนจะกอดอกกล้วยไม้ที่ออกดอกง้ามงามอีก
เฟอร์นิเจอร์ทรงฝรั่งวางบนกระเบื้องลายวินเทจยิ่งดูเหมือนคฤหาสน์ของคหบดีเก่ายิ่งขึ้น หลังฉากไม้ฉลุเป็นห้องอาหาร "Deva Bristro" ค่ะ
มองออกไปที่ Devasom Courtyard จะเห็นบ้านไม้เรือนไทยประยุกต์ทรงขนมปังขิง ขนาบสระว่ายน้ำทั้งสองด้าน
การตกแต่งดูสะอาดตาโดยโทนสีขาว ฟ้าเป็นหลัก ก่อนขึ้นบันไดไปห้องพักจะมีร้านขายของที่ระลึกเล็กๆดูมีสไตล์อยู่ด้วย
มีหนังสือเก่าที่มีคุณค่าที่เจ้าของสะสมไว้มากมาย แม้กระทั่งสามก๊ก หนังสือพระราชนิพนธ์ไกลบ้าน หรือแม้แต่กระทั่งเอนไซโคพิเดียชุดใหญ่อีกต่างหาก
มีการนำกระเบื้องลายวินเทจลายหวานสีคลาสิคมาตกแต่งได้อย่างถูกจังหวะดูลงตัวมาก
Seaside Suite / Devasom Grand
เทวาศรมมีห้องพักบนตึกชั้น 2 และ ชั้น 3 ทั้งหมด 14 ห้อง แบ่งเป็นห้อง Seaside Deluxe 8 ห้อง Seaside suite 4 ห้องและ Devasom grand อีก 2 ห้อง
และ Beach villa 8 หลังและ Beachfront villa ติดหน้าหาดอีก 2 ห้อง
ห้องที่เราพักคืนแรกเป็นห้อง Devasom Grand ซึ่งเป็นห้องหัวมุมตึกบนชั้น 3 ห้องนี้มีขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะคือ 60 ตรม. มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
มีห้องรับแขกแยกต่างหาก เดินเข้าห้องมาเจอห้องรับแขกก่อนเลย ห้องสีหวานพาสเทล ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน โซฟาตัวใหญ่ผ้าฝ้ายสีครีม
กรอบรูปสีหวาน โคมไฟ โต๊ะทำงาน เก้าอี้ พื้นปูนขัดมันตกแต่งด้วยกระเบื้องลายวินเทจสีเหลืองเพิ่มความน่าสนใจยิ่งขึ้น เห็นแล้วรักเลยค่ะ
โทนสีพาสเเทล คอนทราสอ่อนๆ ดูนุ่มนวลอ่อนโยนชวนให้พักผ่อนมากๆ
มองกลับไปที่ห้องรับแขก ห้องน้ำจะอยู่ทางซ้ายมือ
ถึงห้องนอนแล้วค่ะ หวานได้อีกมั้ยเนี่ย? เป็นคนดูลุยๆแต่แพ้ทางห้องแบบนี้ค่ะ หวานได้ใจ เห็นแล้วหลงเลยค่ะ เตียงนอนไม้สี่เสาในฝัน
เตียงนอนหมอนขาวสะอาด ปูด้วยผ้าคุลมลายลูกไม้ มีเก้าอี้นั่งอยู่ปลายเตียงพร้อมหมอนอิงโทนสีเข้ากัน โคมไฟหัวเตียงทั้งสองด้าน
กรอบรูปหัวเตียงสีหวานเข้ากับธีมห้องมากๆ โต๊ะยาวไว้วางของ ด้านขวาเป็นห้องน้ำที่เราสามารถปิดหน้าต่างเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ค่ะ
สวยหวานละออตา
ห้องน้ำขนาดกำลังดีค่ะ มีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวรูปทรงเป็นฝรั่งดูคลาสสิคเชียวค่ะ ห้องอาบน้ำฝักบัวแยก ผนังปูกระเบื้องวินเจสีเหลืองดูเด่นเลย
ห้อง Devasom Grand โดยรวมค่ะ โทนขาว ครีม เหลือง นวลตามาก ขวามือเป็นทางเดินไปห้องรับแขกนะคะ
ห้องน้ำขนาดใหญ่ ดูสะอาดตาน่าใช้มากๆ อ่างน้ำทองเหลืองดูวินเทจเข้ากันไปหมดเลย
ห้องอาบน้ำแบบ rain shower ไม่มีประตูปิดอาบแล้วน้ำกระเด็นออกมาหน่อย ห้องสวยๆเลอะน้ำหมด เสียดาย อิอิ
มุมจากห้องนอนตรงหน้าต่างที่เปิดไว้จะเห็นห้องน้ำทุกมุมเลย
โอ๊ยๆๆๆๆๆอยากได้ผ้าคลุมเตียง ต้องขอชมคนออกแบบจริงๆ ทุกอย่างสวยงามกลมกลืนไปหมดค่ะ
ขาวสะอาดเหมือนสาวน้อยบริสุทธิ์ไร้เดียงสา อ่อนโยน นุ่มนวลดูเป็นผู้ดี ชอบมากๆๆ
อยากได้ทั้งหมดเป็นเจ้าของ บอกเลย อิอิ
ที่นี่ไม่มีห้องสปานะคะ แต่เราสามารถแจ้งพนักงานได้ จะมีหมอประจำของที่นี่ขึ้นมานวดในห้องเลย ซึ่งแน่นอน เป็นนวดไทยค่ะ
สบายๆๆผ่อนคลายเป็นส่วนตัวกันนห้องเลย อ้อ คนนี้หมอนวดนะคะ ไม่ใช่มาเรีย อิอิ
พนักงานมาเทิรน์ดาวน์เรียบร้อย น่านอนมากๆเห็นแล้วอยากจะกระโจนลงเตียงเลย อิอิ
พนักงานจัดดอกไม้หวานๆน่ารักวางไว้บนหมอนด้วย มาพักทีนี่แล้วได้อารมณ์เป็นคุณหนูบอกไม่ถูก ไม่อยากกลับเลย อิอิ
ห้องรับแขกยามค่ำคืน แสงไฟสีเหลืองนวลตายิ่งทำให้ห้องดูน่าพักผ่อนยิ่งขึ้น แต่บอกตรงๆว่าแทบไม่ได้นั่งห้องนี้เลย อิอิ
Seaside Deluxe
ห้องพักแบบเริ่มต้นของเทวาศรม สวยงามหรูหราไม่ธรรมดาเลยค่ะ ขนาดห้อง 50 ตรม. เตียงคู่ ผ้าปูสีเขียวอ่อน โคมไฟทั้ง 2 ด้าน
กรอบรูปหัวเตียงลายและสีหวายโทนชมพูดูสะอาดตาหวานมาก ห้องน้ำแบบประตูบานเลื่อนสามรถเปิดได้สองด้าน เปิดเผยมาก
แต่ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวก็เลื่อนปิดได้ค่ะ ถ้าไปกับเพื่อนระวังเพืื่อนแกล้งนะคะ อิอิ ประตูสีฟ้าพาสเทล เสื่อสานวางบนพื้นดูอ่อนหวานเบรคอารมณ์ดิบ
ของปูนขัดมัน เข้ากันดีค่ะ
น่านอนไหมคะ? ตอบเองว่าน่านอนสุดๆๆ
ระเบียงห้องขนาดใหญ่ มีเตียงนอน 2 ตัวไว้นั่งนอนชมวิวรีสอร์ทในมุมกว้างและทะเลหัวหินได้เต็มตาเลยค่ะ
เปิดประตูเลื่อน ทำให้ห้องน้ำเชื่อมเป็นส่วนเดียวกับห้องนอนเลย ซึ่งคอนเซ็ปท์นี้สามารถเอามาดัดแปลงกันคอนโดห้องเล็กๆได้นะคะ
เราทำประตูเลือนหรือใช้บานเฟี้ยมกันห้องนอนเพื่อความเป็นส่วนตัว พอต้องการใช้พื้นที่ก็เปิดประตูเลื่อนออกทำให้ห้องดูกว้างขึ้น
เคยเห็นห้องแนวนี้ที่สิงคโปร์เยอะเลยค่ะ
พอเปิดประตูเลื่อออกแบบนี้ทำให้ห้องดูกว้างเชียว แต่ก็โป๊นิด ต้องยอมค่ะ อิอิ
นี่ไงคะ ปิดประตูแล้ว เป็นส่วนตัวไม่ต้องเขิลแระ อิอิ ห้องนี้โทนเขียว ครีม กระเบื้องห้องน้ำจะเป็นสีเขียวเข้ากันค่ะ
ดูกันชัดๆ เก๋มั้ยล้าาาาา
amenity kits พร้อมค่ะ
เก็บภาพมาให้เห็นกันทุกมุมเลย
Beach Villa and Beach Front Villa
Beach villa มากจากห้องบนตึกค่ะจะเห็นเป็นบ้านไม้เรือนไทยประยุกต์ โทนขาวฟ้าสะอาดตา หลังคาหน้าจั่ว อารมณ์หัวหินวันวานจริงๆ
ทุกห้องมีระเบียง โต๊ะเก้าอี้ชุดเล็กเอาไว้นั่งเล่นค่ะ
เราพักห้อง Beach Front Villa ในคืนที่ 2 ค่ะ ได้สัมผัสบรรยากศริมทะเลอย่างใกล้ชิดเลย ห้องนอนโทนสีขาวเหมือนกัน
ห้อง Beach Front Villa เป็นห้องขนาด 90 ตรม. มีอยู่ 2 ห้องซึ่งอยู่ด้านหน้าสุดติดหาด ด้านนอกมีระเบียงด้านข้าง มีเดย์เบดขนาดใหญ่ไว้นอนเล่น
แต่ช่วงเราไปเจอฝนหน่อยเลยไม่ได้ใช้งานส่วนนั้นเลย ภายในออกแบบสวยงามลงตัว ห้องนี้โทนขาวเลยค่ะ มีเตียงสี่เสาเหมือนกัน กระเบื้องวินเทจลายสวย
โต๊ะทำงานสีขาว เดินไปด้านหลังเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำแยกส่วนกันด้านหน้ามีเบย์วินโดว์ไว้นั่งเล่น ชิลล์ค่ะ
ที่นี่ใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ ขนาดซองใส่คีย์การ์ดและกระดาษบอกข้อมูลที่จำเป็นของโรงแรมยังใส่ซองปิดอย่างสวยงามเลยค่ะ
เบย์วินโดว์ขนาดใหญ่ หมอนอิงเยอะ มีม่านกรองแสง LCD TV ขนาด 32" มีร่มและโต๊ะเล็กๆวางจานผลไม้ต้อนรับอยู่ข้างๆ
ห้องสะอาดสะอ้านเนี๊ยบหรูหราน่าพักผ่อนมากๆ
โต๊ะทำงานเป็นอะไรที่เป็นส่วนเกินมากๆ เพราะใครก็ตามที่มาพักผ่อนในรีสอร์ทที่สวยขนาดนี้จะไปนั่งทำงานอยู่ได้เนอะ อิอิ
ห้องน้ำขนาดใหญ่เลยค่ะ อ่างอาบน้ำแบบลอยตัว อ่างฝรั่งแบบนี้แคบแต่ลึก นอนแช่คนเดียวสบายใจเฉิบ ด้านหลังเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำฝักบัว
มีตะกร้าหวายไว้ใส่ผ้าเปื้อนด้วย
Amenity kits เหมือนกันทุกห้องค่ะ
ห้องอาบน้ำด้านหลัง ยาวและแคบแต่ก็ใช้งานได้สะดวกค่ะ ประตูไม้สีขาวเลื่อนปิดได้ ห้องน้ำจะอยู่ฝั่งที่ยืนถ่ายรูปค่ะ
ห้อง Beach Front Villa ในมุมกว้าง จะเห็นทุกอย่างในห้องเลย เปิดประตูไปเจอทะล เพราะห้องสร้างในมุมทะแยง ด้านข้างทั้ง 2 ด้านเหน้าต่างกระจกใส
รับวิวรับแสงเต็มๆค่ะ
ส่วนตัวชอบบรรยากาศห้องนี้แต่ชอบเลย์เอ้าท์ห้อง Devasom Grand มากกว่า เพราะดูเป็นสัดส่วนและดูอบอุ่นเป็นบ้านมากกว่า ห้องนี้จะได้ฟิลเป็นรีสอร์ท
มากกว่าทุกห้องในเทวาศรมเลย
สวยทุกมุม ของตกแต่งสวยเข้ากันได้ดีมาก ชอบกรอบรูปทุกอันเลย ทั้งลวดลายและโทนสีโดนใจไปหมด
ด้านหน้าของ Beach Front Villa เป็นสระว่ายน้ำส่วนกลางและสนามหญ้าวางเตียงนอนอาบแดด ชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือนอนชมดาวฟังเสียงคลื่น ฟินสุดๆ
หน้าห้องพักเลย ชิลล์สุดๆ พระอาทิตย์ขึ้นที่ 2 นาฬิกาค่ะ ถ้าเปิดประตูห้องก็นอนดูพระอาทิตย์ขึ้นจากบนเตียงเลย
'Deva Bristro' restaurant and Bar
ห้องอาหารที่ออกแบบได้สวยงามผ่อนคลาย อบอุ่น รู้สึกเหมือนทานข้าวอยู่ที่บ้าน มีทั้งในห้องปรับอากาศและด้านนอกแบบเปิดโล่ง
ห้องอาหารด้านในโทนขาวสวยงามสะอาดตาค่ะ ตกแต่งด้วยต้นไม้และกล้วยไม้ช่อเล็กๆวางไว้ทุกโต๊ะเลยค่ะ
ที่นี่มีเมนูหลากหลายทั้งไทยและฝรั่งเดี๋ยวมีเมนูที่ชอบที่สุดมาแนะนำด้วย รออีกนิดนะคะ
เป็นห้องอาหารที่มีบรรรยากาศฝรั่งนิดๆ แต่นั่งสบายค่ะ รีแล็กซ์ดี
ทอดมัันกุ้ง 240- แกงส้มผักรวม 260- ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าทะเลสูตรพิเศษ 280-
กล้วยหอมทอดกับไอศครีมวนิลา 160-
เครปชูเซทเฟรมเบ้กับอัลมอนด์กับไอศครีมวนิลา 180-
เครื่องดื่มหลากหลาย
เน้นตัวโตๆๆๆเลย ซุปเนื้อปู 180- เป็นเมนูที่หลงรักเลย สั่งทานแทบทุกมื้อ อิอิ อร่อยเข้มข้นมากกกทานกับขนมปังกระเทียมฟินที่สุดในโลก !!
ข้าวตังหน้าตั้ง ซ๊อสถั่วเข้มข้นอร่อยมาก 200-
หน่อไม้ฝรั่งผัดกุ้งสด 260- น้ำพริกปลาย่าง 220- ต้มข่าปลาสลิดทอด 280-
Deva Bristro ยามค่ำคืนก็โรแมนติคสวยไปอีกอารมณ์ค่ะ
ข้าวผัดน้ำพริกกุ้งสด 240- อร่อยสุดๆ
ทูน่านิซัวร์สลัด 260- หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบเครื่องเทศ 200- กุ้งใหญ่ลายเสือย่างซ๊อสเนยมะนาว 650- สเต็คปลาแซลมอนคู่กับปลากระพงซ๊อสพริกหวาน 450-
อาหารเช้า ค่อนข้างหลากหลายค่ะ แต่ไม่ค่อยสนอย่างอื่นเพราะทุกที่ถ้ามีปาท่องโก่ และนูเทลล่า ก็จะพุ่งเป้ามาแนวนี้มากกว่า อิอิ
Function room
ห้องนี้สามารถดัดแปลงเป็นห้องประชุม จัดเลี้ยงสำหรับแขก 10-50 คนได้ค่ะ แต่ตอนไปไม่มีงานเราเลยได้เพลินเพลินและชื่นชมของสะสมของ
ครอบครัวเจ้าของ ล้วนแต่น่าชื่นชมค่ะ มีหนังสือดีๆเยอะเลย ห้องนี้จะออกแบบตกแต่งด้วยโทนสีที่เขร่งขรึมดูเป็นทางการ ดูแมนๆเป็นผู้ใหญ่มากกว่า
ส่วนอื่นที่คุมโทนให้อ่อนหวานเป็นผู้หญิงโซฟาหนัง กระเบื้องวางเป็นลายหมากรุก ห้องสีเทาเข้ม ผ้าม่านสีเข้มอีกอารมณ์นึงค่ะ
ห้องนี้เก็บของเก่า ของสะสมของเจ้าของ รวมทั้งเปียโนหลังนี้ด้วย ซึ่งวันดีคืนดีเจ้าของมานั่งเล่นให้เราเซอร์ไพร้ส์อีกต่างหาก โรแมนติคมากๆค่ะ
หีบเพลง เครื่องเล่นแผ่นเสียงโบราณ ปากแตรแบบไขลานเครื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นพระเอกของห้องนะคะ สะดุดตาตั้งแต่เห็นเลย
หนังสือเก่าทรงคุณค่า พระราชนิพนธ์เรื่องไกลบ้านซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ลายพระราชหัตถเลขาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2450 พระราชทาน แก่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี หรือสมเด็จหญิงน้อย รวมจำนวน 43 ฉบับ ขณะที่เสด็จประพาสยุโรปเป็นระยะเวลา 225 วัน
บ่ายวันหนึ่งระหว่างกำลังเดินเล่นในรีสอร์ทเพลิน จู่ๆก็ได้ยินเสียงเปียโนเล่นสดดังขึ้นอย่างไพเราะ เดินมาดูปรากฏว่าเป็นฝีมือของคุณราศรี อติรักษ์ เจ้าของที่นี่นี่เองค่ะ
ส่วนตัวชื่นชมคุณราศรีมากค่ะ หลังจากได้พูดคุยกันก็เห็นว่าเป็นผู้หญิงที่มีความเพียบพร้อมจริงๆ เก๋บุคคลิคดี อ่อนโยน มีความเป็นศิลปินสูง
ทั้งร้อง ทั้งรำ การแสดง วาดรูป เขียนกลอน เล่นเปียโน ทำให้เราคิดไปว่าการตกแต่ง การออกแบบหลายๆอย่างที่เราประทับใจในเทวาศรม
มันสะท้อนออกมาจากบุคคลิกของผู้หญิงเก่งคนนี้แน่นอน
Swimming Pool and beach
เทวาศรม อยู่ติดหาดหน้ากว้างเลยค่ะ มีเขื่อนหินเอาไว้กันน้ำเซาะ
สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ความลึกหลายระดับเลือกเล่นได้ตามใจเลยค่ะ
มุมพักผ่อนที่สระว่ายน้ำ มีเมนูเครื่องดื่ม เมนูอาหาร ตะกร้าผ้าที่ใช้แล้วและโทรศัพท์ เอาไว้โทรสั่งอาหารกับพนักงานได้เลย ละเอียดใส่ใจทุกจุดจริงๆ
ขอออมผิวเอาไว้นอนเตียงตอนเช้า ตอนดูพระอาทิตย์ขึ้นดีกว่า ช่วงกลางวันนอนแช่แอร์ในห้องสบายๆๆ อิอิ
หัวหินหลังฝนตกฟ้าใสสวยมาก
แดดดีจริง ยอมแพ้ค่ะ อิอิ
ช่วงเย็นก็ชิลล์ค่ะ น้ำนิ่งสะอาดเล่นได้ไม่เคอะเขิน
สระว่ายน้ำมองกลับไปที่ตึกใหญ่
มานอนโรงแรมริมทะเล ก็ต้องตื่นเช้ากันหน่อย เช้าวันแรกฟ้าสีสวยแต่พระอาทิตย์ไม่ขึ้นจากทะเล สวยคนล่ะแบบค่ะ
เช้าวันแรกท้องฟ้าอมม่วง สวยแปลกตาไปอีกแบบ
เช้าวันที่ 2 ฟินมากกกก เพราะฟ้าเคลียร์ใส แสงฉาบท้องฟ้าสีรุ้งก่อนพระอาทิตย์ไข่เค็มจะโผล่ขึ้นจากน้ำ
ตื่นตีห้ามานั่งเฝ้าพระอาทิตย์ วันนี้ฟินเลยค่ะ คุยกับฝรั่งที่มาพักหลายอาทิตย์ เค้าบอกว่ามีฝน ฟ้าขมุกขมัวตลอด มีวันนี้แหล่ะที่ฟ้าเปิดตอนเช้าและสวยที่สุด โชคดีจัง
ซักพักฟ้าจะค่อยๆเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีรุ้งหลากสีสวยงามมากๆ
มาทะเลใครนอนตะวันโด่งขาดทุนนะคะ
ท้องฟ้าแรกแย้ม สีสวยเหลือเกิน
ตื่นมาทำคลอดพระอาทิตย์ เห็นแบบนี้ต้องถือว่าคุ้มมาก
ค่อยๆโผล่
ความโรแมนติคกับแสงงามยามเช้า เป็นของคู่กันเสมอ
Devasom Courtyard
ความสวยงามหลายมุมมอง หลายมิติและหลายช่วงเวลาของ Devasom Courtyard
ศาลาไม้แบบวิคตอเรียนเด่นเป็นสง่า
What I like
สถาปัตยกรรมร่วมสมัยของตึกหลังใหญ่สีขาว โดดเด่นสวยงามมีกลิ่นอายของหัวหินวันวานอย่างชัดเจน
ชอบแนวคิดและการออกแบบและการตกแต่งที่สะท้อนความเป็นหัวหินวันวานออกมาดีมาก สวยคลาสสิค เรียบหรูมีเทสต์
สะอาด เป็นระเบียบ ใส่ใจรายละเอียดทุกจุด ขนาดเพลงที่เปิดยังเป็นธีม เพลงไทยย้อนยุคช่วงกลางวัน เพลงฝรั่งคลาสสิคช่วงเย็น มันสร้างมู๊ดต่างกันจริงๆ
ออกแบบธีมและโทนสีห้องพักได้สวยหวานถูกจริตและคุมโทนสีได้ดีมาก ชอบห้องพักสีพาสเทลแบบนี้ รู้สึกนุ่มนวลละออตา
เป็นที่พักแนวคอนทราสต่ำรู้สึกผ่อนคลายเบาๆๆ เข้าไปพักในห้องแล้วรู้สึกเหมือนลอยอยู่บนครีมนุ่มๆ ทุกอย่างนวลตากลมกลืนไปหมด
เมนูอาหารเยอะ รสชาติกลมกล่อม ชอบซุปปูที่สุด ใครไปไม่สั่งถือว่าผิด อิอิ
เงียบสงบเหมาะที่จะมาพักผ่อนชาร์ตแบตที่สุด
ทั้งรีสอร์ทเหมือนเป็นสปาขนาดใหญ่ รู้สึกเย็น สงบนิ่ง ผ่อนคลาย
เหมาะสำหรับคู่รักมาฮันนีมูน เป็นส่วนตัวมาก ห้องพักทุกห้องสามารถเห็นทะเลได้
สนามหญ้า ดอกไม้ สวนสวยดูแลถึงมาก
Remarks
ไม่มีสปา แอบลุ้นให้เปิดห้องซักมุม เพราะบรรยากาศได้มาก
เข้ามาในซอยลึกซักหน่อย ไม่มีรถอาจเดินทางลำบากแต่มีรถ Shuttle รับส่งไปที่หอนาฬิกาเป็นเวลาค่ะ