เที่ยวชมความสวยงาม.."นาขั้นบันได" ที่ "แม่แจ่ม" by มาเรีย ณ ไกลบ้าน
สวัสดีค่ะ หน้าฝนแบบนี้คิดถึงไอดินกลิ่นหญ้า สายฝนพรำ สายหมอกจางๆที่ต่างจังหวัด ใครเบื่อเมืองกรุงหรือกำลังอ่อนล้ากับอะไรก็ตามอยู่ตอนนี้ ไปบำบัดกับธรรมชาติด้วยความสดชื่นเขียวขจีของทุ่งนาขั้นบันไดที่เชียงใหม่ด้วยกันค่ะ จขกท.ไปมาเมื่อปลายเดือนตค.นะคะ ปีที่แล้วทุ่งนาเหลืองประมาณกลางเดือนพย. ใครที่สนใจจะไปชมในปีนี้ก็ต้องอัพ้เดทข่าวสารกันใหม่ สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงทุกปี จะได้ไม่พลาดชมกันค่ะ
22-27 ตค.
ทริปนี้เป็นทริปที่ลงทุนนั่งรถทัวร์ไปเชียงใหม่คนเดียวเพื่อจะขึ้นไปชมทุ่งนาขั้นบันไดโดยเฉพาะ แต่ไปเจอพี่ที่เชียงใหม่เลยชวนไปเที่ยวทุ่งนากันแถมใจดีขับรถให้อีกต่างหาก ขอบคุณพี่ปูมากค่ะ
สองสามวันที่ออกนอกเมืองก็เก็บได้ค่อนข้างมากทั้งแม่กลางหลวง แม่แจ่ม บ้านผาหมอน บ้านกองกาน บ้านตีนผาและป่าปงเปียง โดยที่นอนค้างที่แม่แจ่ม 2 คืน ใครที่มีเวลาน้อยก็สามารถพอจะจัดกันได้นะคะ แต่ช่วงที่ไปฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจเท่าที่ควร ทุ่งนาเขียวแซมเหลืองยังไม่เหลืองทองสะพรั่งอย่างที่คาดหวัง แต่ก็ได้สูดอากาศดีๆมาเต็มปอดและเสพบรรยากาศสดชื่นสมใจที่ดั้งด้นไปค่ะ
ทุ่งนาทุกที่เดินทางไม่ลำบากมากค่ะ ยกเว้นป่าปงเปียงที่ต้องใช้รถ 4WD หรือไม่ก็รถกำลังแรง กะบะ หรือคนขับชำนาญทางก็จะขับรถขึ้นไปได้ แต่เราเช่ามอเตอร์ไซด์ไปกับน้องไกด์จากแม่แจ่ม แต่ได้ข่าวว่าตอนนี้เส้นทางดีขึ้นแล้ว จริงหรือปล่าวน๊าาา เพราะไปมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
ภาพชุดนี้ใช้ Nikon D7100 กับเลนส์ 18-105, 55-300, 10-20 ค่ะ ถ่ายง่ายๆไม่ต้องประดิดประดอยอะไรมาก บรรยากาศเป็นใจถ่ายง่ายจริงๆ ♥ และสำหรับคนที่สนใจติดตามทริปก็ไปอัพเดทกันได้ที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/MariaNaKlaibaanTrip นะคะ
บ้านแม่กลางหลวง
บ้านผาหมอน
แม่แจ่ม
บ้านกองกาน
บ้านตีนผา
บ้านป่าปงเปียง
บ้านแม่กลางหลวง ตั้งอยู่ในหุบเขานาขั้นบันไดริมทางระหว่างขึ้นดอยอินทนนท์ มีการทำนาขั้นบันไดและการปลูกพืชเมืองหนาวตามฤดูกาล กิจกรรมการทำนาจะอยู่ระหว่างเดือนมิถุนายน – เดือนพฤศจิกายน แต่สิงหาคมจนถึงราวกลางเดือน ตุลาคม เป็นช่วงฤดูฝนที่เริ่มปลูกข้าว ชุ่มช่ำด้วยฝน และสีเขียวของต้นข้าว และช่วงปลายเดือนตุลาคม -เดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงที่นาข้าวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทอง และเป็นช่วงการเกี่ยวข้าว ใครที่ต้องการไปชมทุ่งนาสีเขียวขจีหรือไปชมทุ่งรวงทองก็สามารถเลือกเวลาไปเที่ยวชมได้ตามใจเลยค่ะ แต่ปีที่แล้วทุ่งรวงทองจะอยู่ราวกลางเดือนพย.นะคะ หรือใครสนใจไปชมไร่กาแฟอินทรีย์ ซึ่งเป็นการทำไร่กาแฟแบบผสมผสาน ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง และมีกาแฟสดให้ชิมฟรี ก็ไปชมได้ที่บ้านพี่สมศักดิ์ค่ะ (ถามชาวบ้านได้ค่ะ รู้จักกันทุกคน)
สำหรับการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จากตัวเมืองเชียงใหม่ เส้นทางเชียงใหม่-ฮอด ผ่านอำเภอหางดง สันป่าตอง มาถึงอำเภอจอมทอง แล้วขับต่อไปยังดอยอินทนนท์ ประมาณกิโลเมตรที่ 26 จะถึงแม่กลางหลวง
หรือถ้าเดินทางโดยรถขนส่ง ให้ขึ้นรถที่หมอชิต เส้นหมอชิต-จอมทอง สามารถจองตั๋วรถออนไลน์ได้ที่ www.busticket.in.th
เมื่อลงที่จอมทองแล้วก็ต่อรถประจำทาง จอมทอง-แม่แจ่ม (สีเหลือง) คิวรถแม่แจ่มใกล้กับจุดลงรถกรุงเทพจอมทอง มาที่แม่กลางหลวง และเราสามารถเดินลงไปเที่ยวชมได้สะดวกเลยค่ะ
ถ่ายวิดิโอมาฝากให้เห็นภาพโดยรวมกันค่ะ
บ้านผาหมอน เป็นหมู่บ้านขนาดกลางตั้งอยู่กลางหุบเขาล้อมรอบ ซึ่งตั้งอยู่ก่อนถึงบ้านแม่กลางหลวง ดอยอินทนนท์ ที่น่าสนใจของที่นี่คือเป็นทุ่งนาในหุบเขาที่เป็นเวิ้ง อยู่ในหุบเขา ที่เราสามารถชมทุ่งนาได้โดยรอบและมีบ้านพักแบมบู พิงค์ (Bamboo Pink House) ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่บนเนินมองเห็นทิวทัศน์สวยงามตกแต่งได้อย่างลงตัว ติดนาขั้นบันไดเลยค่ะ ส่วนตัวชอบที่นี่มากๆเงียบสงบและนักท่องเที่ยวยังไม่พลุกพล่านมากนัก
การเดินทาง เป็นเส้นทางเดียวที่ขึ้นดอยอินทนนท์ ก่อนถึงบ้านแม่กลางหลวงจะมีทางแยกให้เลี้ยวขวาเข้าไป ถนนเป็นดินแดงสลับกับคอนกรีตเป็นบางช่วง ช่วงหน้าฝนคนเที่ยวน้อย เปลี่ยวหน่อย ถนนก็เละเป็นหลุมร่องลึกบางช่วง รถท้องเตี้ยต้องขับด้วยความระมัดระวังนะคะ ส่วนฤดูอื่นก็น่าจะเข้าไปได้สะดวกหน่อย
เก็บภาพบรรยากาศเป็นวิดิโอง่อยๆมาฝากค่ะ อิอิ
ข้อมูลติดต่อ
นายสุรสิทธิ์ ดลใจไพรวัลย์ (ฝ่ายประสานและติดตามงาน.CBT.ชุมชน)
บ้านเลขที่ 29/1 ม.8 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 50160
E-mail: surasitd@hotmail.com
นายติ๊ดี พนากำเนิดสกุล (ผู้จัดการ การท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านผาหมอน)
บ้านเลขที่ 98/1 ม.8 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 50160
โทร. 082-191-7895
(ขอบคุณที่มาข้อมูลติดต่อ : สถานบันการท่องเที่ยวโดยชุมชน www.cbt-i.org)
ตอนไปไม่เจอใครซักคน เลยไม่ได้คุยอะไรเกี่ยวกับบ้านชมพู รอนำรายละเอียดจากเวบไปด้วยกันมาฝากเผื่อคนที่สนใจนะคะ
บ้านพัก Bamboo Pink House รองรับคนได้ 6 แบบสบายๆ - 10 คนแบบแน่นนิดๆ
ราคาบ้านพัก 1-2 คน 1,700 บาท/คืน ราคาบ้านพัก 3-5 คน 2,500 บาท/คืน
ราคาบ้านพัก 6-10 คน 3,500บาท/คืน
ค่าธรรมเนียมชุมชน 20 บาท/คนค่าบริการคนดูแลและอำนวยความสะดวก 1,000 บาท สำหรับการมาพักที่บามบูฯที่ต้องมีค่าบริการ 1000 บาท คือบ้านพักดังกล่าวมิใช่เป็นธุระกิจส่วนบุคคล แต่ชุมชนร่วมกันเป็นเจ้าของดังนั้นเวลามีผู้มาพักก็ต้องหาคนมาดูแล เลยมีค่าใช้จ่ายตรงนี้เพิ่มและ บ้านพักที่ผาหมอนจะเป็นบ้านพักแบบส่วนตัว หากใครจองแล้วไม่ว่าจะมากันกี่คนแม้บ้านจะว่าอีกกี่ห้องทางชุมชนจะไม่รับนักท่องเที่ยวเพิ่มอีก จะสงวนสิทธิ์ให้ท่านที่จองเท่านั้น และจะไม่มัดรับจำใดๆ หากท่านที่จองและต้องการยกเลิกต้องโทรมายกเลิกก่อนสองอาทิตย์หรือมากกว่านั้น
ค่าอาหาร (สำหรับพี่น้องคนไทย) จ่ายตามจริงบิล หรือเราจะเลือกจ่ายแบบต่างชาติ 120บาท/มื้อ
ค่าบริการหากมากี่คนให้เอามาบวกกับ ราคาบ้าน+ค่าธรรมเนียมชุมชน+ค่าบริการคนดูแลอำนวยความสะดวก + ค่าอาหาร
หมายเหตุ : หากมามากว่าสิบคนทางที่พักไม่สามารถรับผิดชอบได้ และขอไม่รับเพราะไม่สามารถรองรับได้ตามขีดความสามารถของที่พักรองรับได้
สามารถติดต่อบ้านพักได้ที่ คุณสุรสิทธิ์ 081-1664344
(ขอบคุณที่มา: http://www.paiduaykan.com )
แม่แจ่ม เป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ในอ้อมกอดของภูเขา ที่ยังคงธรรมชาติที่สวยงามและมีวัฒนธรรมที่ดีงาม มีวัดวาสวยๆมากมายที่มีชื่อเสียงมากคือวัดยางหลวง วัดพุทธเอ้น วัดกองกาน และวัดป่าแดดที่มีทุ่งนาอยู่ด้านหลังวัดอย่างสวยงาม จขกท.เคยเห็นรูปตามกระทู้และสื่อต่างๆมากมาย และขึ้นไปเที่ยวดอยอินทนนท์หลายครั้งแต่คราวนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ไปเยือนเมืองเล็กๆที่มีเสน่ห์แห่งนี้
สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวแม่แจ่มในช่วงทำนา ที่จะพบทุ่งนาเขียวขจีเต็มไปทั้งหุบเขาให้มาในช่วงเดือนกย.ถึงตค. ลักษณะเป็นทุ่งนาขั้นบันไดลดหลั่นเล่นระดับอย่างสวยงาม ทุ่งนาสีทองก็จะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนตค.ไปจนถึงกลางเดือนพย. แหล่งชมทุ่งนาที่สวยงามคือจุดแม่ปาน และบ้านกองกานซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7 กม.
การเดินทางมาแม่แจ่มสามารถทำได้ 2 เส้นทางคือ เส้นอำเภอจอมทอง ไปดอยอินทนนท์ หลังจากผ่านด่านที่ 2 ก็จะมีป้ายให้เลี้ยวซ้าย ขับไปเรื่อยๆจนถึงอ.แม่แจ่ม เส้นทางนี้ราดยางตลอดแต่อาจจะคดเคี้ยวและชันเป็นช่วงๆ อย่าขับไปชมวิวไปนะคะ ^^
เส้นทางที่ 2 ให้ใช้เส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียง ผ่านออบหลวง และขับตามเส้นไปเรื่อยๆจนถึงป้ายทางแยกเลี้ยวขวาไปอ.แม่แจ่ม เส้นทางนี้เหมาะสำหรับคนที่อาจจะขับมาจากแม่สะเรียงแล้วแวะเที่ยวได้ก่อนจะเข้าเมืองเชียงใหม่ โดยไม่ต้องผ่านฮอด
ถ้าเป็นรถสาธารณะจากกทม. ให้นั่งรถสายกรุงเทพ-จอมทอง จากนั้นก็ต่อรถสองแถวที่อ.จอมทอง ไปแม่แจ่ม เป็นรถสองแถวสีเหลือง คิวรถอยู่ที่ข้างวัดพระธาตุศรีจอมทองค่ะ หรือจะขึ้นรถแดงจากประตูเชียงใหม่ ไปจอมทอง แล้วต่อรถไปแม่แจ่มก็ได้ค่ะ
แผนที่ท่องเที่ยวในอ.แม่แจ่ม
ตอนแรกแวะหาที่พัก เพื่อนแนะนำให้ไปพักที่มนต์เมืองแจ่ม ก็แวะไปดูบรรยากาศกัน จริงๆก็ชอบมากค่ะ เพราะเป็นที่พักที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงที่สามารถชมวิวของแม่แจ่มได้ทั้งเมืองเลย แต่ตอนนั้นไม่ม่ีแขกอื่นพักเลย เรื่องอาหารการกินไม่ค่อยสะดวกนักเพราะมนต์เมืองแจ่มอยู่ไกลจากตัวเมืองพอสมควร เลยตัดสินใจกลับลงไปหาที่พักในเมืองกันจะสะดวกกว่า
แม่แจ่มยามเย็น ฟ้าสวยมากๆ
แม่แจ่ม
แม่แจ่ม
บ้านกองกาน แม่แจ่ม เป็นจุดชมทุ่งนาขั้นบันไดที่สวยมากอีกแห่งหนึ่งของแม่แจ่ม ให้ใช้เส้นไปทางวัดพุทธเอ้นแล้วใช้ถนนเส้นหลักขับต่อไปเรื่อยๆจนถึงวัดกองกานค่ะ
บ้านตีนผา แม่แจ่ม เป็นหมู่บ้านเล็กๆระหว่างไปขึ้นไปบ้านป่าปงเปียง ซึ่งเราเช่ามอเตอร์ไซด์พร้อมไกด์นำเที่ยวของแม่แจ่มพาไป ซ้อนมอเตอร์ไซด์ขึ้นเขาทางวิบาก สนุกตื่นเต้นมากๆ เส้นทางนี้ไม่เหมาะสำหรับรถเก๋งนะคะ ต้องขึ้นด้วยกะบะแรงดีๆที่คนขับชำนาญทางหรือรถ 4WD เท่านั้นค่ะ
ถ้าใครสนใจจะซ้อนท้ายน้องไกด์ขึ้นไปเที่ยวป่าปงเปียงก็ลองติดต่อน้องหนึ่งได้ที่เฟสบุ๊คนี้ค่ะ https://www.facebook.com/pipat.boontiam เบอร์โทร 0850413446 น้องเป็นสารวัตกำนันอยู่ที่แม่แจ่ม เพราะฉะนั้นไว้ใจได้แน่นอนค่ะ แถมยังรู้จุดถ่ายรูป จุดชมวิวที่สวยงามด้วยนะคะ
เป็นสก๊อยเลย อิอิ
เส้นทางไปป่าปงเปียงจากแม่แจ่มสวยงามค่ะ ซ้อนมอเตอร์ไซด์สัมผัสลมเย็น ผมปลิวสะบัด ชมวิวไปพลาง ลุ้นกล้องตกไปพลาง สนุกมากกกค่ะ
ทุ่งนาระหว่างทางขึ้นป่าปงเปียง เขียวชะอุ่มสดชื่นไปหมด
น้องไกด์ 2 คนกับพี่ปูที่ไปด้วยกันจากเชียงใหม่
บ้านป่าปงเปียง เป็นจุดชมทุ่งนาขั้นบันไดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย ของสวยๆแบบนี้ก็ต้องดั้นด้นกันหน่อย ซึ่งการเดินทางมาที่นี่ค่อนข้างลำบากค่ะ รถเก๋งมาไม่ได้ ต้องใช้มอเตอร์ไซด์หรือรถกะบะแรงดีพร้อมคนขับชำนาญทางเท่านั้น และยังไม่มีที่พักให้บริการมากนัก ยกเว้นเห็นกระท่อมที่พักอยู่หลังเดียว (ช่วงเดือนตค.ปีที่แล้ว) และมีจุดกางเต็นท์ได้นิดหน่อย นักท่องเที่ยวที่จะมาชมความงามของทุ่งนาสีเขียวขจีหรือทุ่งนาสีเหลืองทองก็ต้องแปลนการเดินทางและช่วงเวลาให้ดีๆนะคะ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดก็คือช่วงเดือนตค.ถึงกลางพย. เพราะฝนเริ่มน้อย เส้นทางไม่เละไม่วิบากจนเกินไป และเป็นช่วงที่ทุ่งนากำลังสวยเชียวค่ะ
สำหรับการเดินทางมาที่บ้านป่าปงเปียงสามารถทำได้ 2 เส้นทางคือเส้นแรก ขึ้นทางดอยอินทนนท์ แล้วแยกเข้าแม่แจ่มที่ด่านเก็บเงินที่ 2 หลังจากนั้นก็ขับไปประมาณ 12 กม. จะเห็นป้ายน้ำตกแม่ปาน ระหว่างจะผ่าน น้ำตกห้วยทรายเหลือง, น้ำตกแม่ปาน, และน้ำตกผาสำราญ ขับเรื่อยไปอีกประมาณ 8 กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านป่าปงเปียง หากไม่มีรถส่วนตัวสามารถใช้ บริการรถสองแถวนำเที่ยวสีเหลืองจากจอมทอง หรือรถกระบะนำเที่ยวพี่สีทอง บ้านแม่กลางหลวง 085 723 4957 ราคา 1500 บาท (ข้อมูลส่วนนี้จากเวบ paiduaykan.com ค่ะ)
และเส้นที่ 2 จากตัวเมืองแม่แจ่มซึ่งจะใกล้กว่า น้องไกด์พาซิ่งใช้เส้นทางจากตัว อ. ไปป่าบงเปียงวิ่งเส่นแม่แจ่ม-ขุนยวม ผ่านหมู่บ้านต่อเรื่อ ผ่านน้ำออกอู เข้าที่สามแยกวัดบ้านทุ่งยาว ที่วัดจะเป็นสามแยกให้ไปทางช้ายไปทางหลังวัดตามเส้นนั้นไป ผ่านหมู่บ้านป่าตึ้งจากชุ้มประตูไปอีกชักไม่เกิน 200 เมตรทางโค้งเลี้ยวช้าย (ในหมู่บ้าน) วิ่งตามเส้นจากนั้นก้อวิ่งตามทางไปเรื่อยๆ ผ่านหน่วยอนุรักษ์ต้นน้ำแม่อวม ไปเรื่อยๆจนเจอหมู่บ้านแม่มิ้งหรือแม่หมิง สังเกตชุ้มประตูจะเขียนว่าหมู่บ้านคาทอลิกตรงหน้าป้ายจะเป็นสามแยกให้เลียวช้ายขึ้นไปเรือยๆ จะถึงบ้านตีนผา และวิ่งไปเรื่อยๆจนถึงบ้านป่าปงเปียงค่ะ
ดูออกแนววิตกจริตไปซักนิด แต่โดนขู่มาให้ระวังงูเงี้ยวในคันนาและกลัวตัวคุ่น เลยถอยบู๊ทปร้าดาจากตลาดแม่แจ่มมาใส่เพื่อการนี้โดยเฉพาะ อิอิ
เพราะฉะนั้นใครที่อยากจะไปเดินลุยทุ่งนาจนติดช่วงเย็นค่ำและเป็นคนแพ้มดแมลง แนะนำให้แต่งตัวให้รัดกุมซักนิดนะคะ เพราะตัวคุ่นจะออกมาช่วงค่ำๆตอนอากาศเย็น เคยโดยกัดแล้วแพ้มาก คันเกาเป็นเดือนเป็นแผลเป็นเลยค่ะ
ไปคราวนี้เลยแวะซื้อรองเท้าบู๊ทจากตลาด 160 บาท เพราะใส่กางเกง 5 ส่วนไปกลัวจะอยู่ที่ปงเปียงจนมืดค่ำ ใส่เสื้อแขนยาว ใช้ผ้าพันคอปิดมิดชิดเหมือนหนาวซัก 10 องศา อิอิ ชุดรัดกุม (ออกดูระแวงไปซักนิดด้วยซ้ำ อิอิ) เข้าไว้ดีที่สุดแถมได้ป้องกันจากงูเงี้ยวที่รองับได้อีกต่างหาก
รูปนี้ทำ HDR จากกล้องในคลิกเดียวค่ะ ไม่ต้องรวมภาพด้วย ใช้ภาพเดียวแล้วตั้งค่าจากกล้องก็เสร็จเลย