เป็นอีกครั้งที่ได้มาเยือนเมืองนครศรีธรรมราช เมืองที่มีประชากรมากที่สุดในภาคใต้และมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากสุราษฏร์ธานี เป็น "เมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ ชื่นฉ่ำธรรมชาติ แร่ธาตุอุดม เครื่องถมสามกษัตริย์ มากวัดมากศิลป์ ครบสิ้นกุ้งปู" แต่ตอนนี้ต้องเพิ่มคำว่าเมืองสองธรรมไปด้วย เพราะนครศรีธรรมราชเป็นหนึ่งในเมืองต้องห้ามพลาดไปแล้ว
เมืองที่ครบเครื่องที่ต้องห้ามพลาดอีกเมือง มีธรรมชาติที่สวยงามหลากหลาย มีน้ำตก ภูเขา ทะเลหมอก วิถีชาวบ้าน ชายทะเล ปลาโลมาสีชมพู ศิลปวัฒนธรรมที่โดดเด่น ประวัติความเป็นมาที่เก่าแก่และมีความรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนา มีวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นหลักยึกเหนี่ยวจิตใจ ใครพลาดไม่รู่แต่ตัวเองไม่พลาดแล้วจ้าา ทริปนี้ลุยเดี่ยวลงไปเที่ยวคนเดียวชิลล์มาก ถนนหนทางดีขับง่าย หลงนิดหลงหน่อยพลอยได้พูดคุยถามทางกับชาวบ้าน ไม่งั้นคงไม่ได้คุยกับใครนั่งน้ำลายบูดอยู่ในรถคนเดียวแน่ๆ อิอิ
การเดินทางเริ่มต้นที่ดอนเมือง บิน นกแอร์ ไฟลท์แรกเช้ามืด เพื่อจะไปถึงเช้าที่สุดจะได้มีเวลาเที่ยวมากที่สุด ตื่นเช้าก่อน มาก่อนได้เที่ยวก่อนคุ้มกว่าใครจ้าา ดูตารางบินเลือกไฟลท์ตามสะดวกได้ที่นี่จ้า
มาถึงสนามบินก็มองหาเค้าท์เตอร์เช็คอินเส้นทางภาคใต้กันก่อนเลยจ้า เช็คอินจากมือถือผ่าน app ได้อีกต่างหาก ซึ่งอันนี้สะดวกมากถ้าเราไม่มีกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง เพราะเราใช้บาร์โต๊ดจากมือถือเป็นบอร์ดดิ้งพาสได้เลย แต่ถ้ามีกระเป๋าก็มาโหลดที่เค้าท์เตอร์ ง่ายเหมือนกัน
นกร่อนแป๊บเดียวก็มาถึงนครศรีธรรมราชแล้วจ้าาา สนามบินใหญ่โตกว่าที่คิด วันไปถึงฟ้าสวยด้วย แหม ฤกษ์ดีจริง
มาถึงก็รับรถ AVIS ก่อนเลย รถที่ได้เป็น VIOS ขนาดกำลังดี ประหยัดน้ำมัน เวลาเช่า จองอะไรทุกครั้งจะ่ถ่ายรูปข้อมูลสำคัญไว้ในมือถือเสมอแล้วแยกเก็บรูปเป็นอัลบั้ม มีอะไรจะได้หาไฟล์ได้ง่ายๆหน่อย สนใจเช่ารถสบายๆลองดูลิงค์นี้ค่ะ http://www.avisthailand.com/EN/index.php
ก่อนออกไปเที่ยวที่ไหน ต้องแวะวัดพระมหาธาตุนครศรีฯก่อนเลย
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ ที่ชาวนครเรียกว่า วัดพระธาตุ โบราณสถานสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็น มิ่งขวัญชาวเมือง นครศรีธรรมราชตลอดจนพุทธศานิกชน ทั้งหลาย สัญลักษณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่รู้จัก กันแพร่หลายก็คือ พระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เนื่องจากเป็นที่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศ จดทะเบียนวัดพระมหาธาตุเป็นโบราณสถาน นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ ซึ่งตอนนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณาให้เป็นมรดกโลกอยู่ค่ะ
ตอนที่ไป ฟ้าไม่สวย คนเยอะและร้อนมาก เลยไม่ได้เดินชมอะไรเท่าไหร่ เอารูปจากทริปก่อนมาฝากแทนนะคะ อิอิ
เส้นทางขับรถในวันนี้ เราจะไปแหลมตะลุมพุก ปากพนัง โครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนัง และไปคอกควายลุงไข่ ซึ่งเป็นคอกควายที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ที่อยู่ภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา ก่อนจะกลับมานอนโรงแรม @24 boutique กันในเมือง ขับเบาๆเส้นทางขับง่ายค่ะ
แหลมตะลุมพุก
ในความรู้สึก ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่ต้องไปเยือนหรอกค่ะ แต่เป็นสถานที่มันคาอยู่ในใจนานมากตั้งแต่เด็กสมัยที่รู้เรื่องมหาวาตภัยเข้าที่นี่ เลยตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสมาเที่ยวนครศรีฯก็ต้องขอไปเห็นสถานที่จริงกับตาซักครั้ง มาถึงก็ไม่มีอะไรค่ะ เป็นหมู่บ้านชาวประมงธรรมดาๆ หาดไม่สวย น้ำไม่ใส แต่มาเห็นกับตาแล้วมันหายคาใจจริงๆ
แม้ชายหาดจะไม่สวยงามเหมือนที่อื่นแต่ก็มี
ร้านอาหารไว้รองรับนัก
ท่องเที่ยวอยู่หลายร้าน แต่ยังไม่หิวเลยเลือกที่จะทานปลาหมึกบดแบบนี้ดีกว่า ได้ฟิลสมัยตอนเป็นเด็กดี แหลมตะลุมพุกในปัจจุบันเป็นชุมชนหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆที่อยู่กันอย่างพอเพียง มีร้านค้าร้านอาหารอยู่บ้างค่ะ
เส้นทางเลียบทะเลสวยงามจนต้องจอดแวะถ่ายรูปเป็นระยะ
เสร็จจากแหลมตะลุมพุกก็แวะเข้าปากพนังกันค่ะ ที่นี่ก็อีก เป็นชื่อที่ได้ยินมาตั้งแต่เด็กเพราะเป็นเมืองท่ามาตั้งแต่ครั้งอดีต เป็นศูนย์กลางทางการค้าและเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล และมีอ่าวภายในบริเวณปากแม่น้ำปากพนัง เหมาะแก่การเดินเรือและการกระจายสินค้าต่อไปยังหัวเมืองสำคัญอื่น ๆ ทำให้สภาพเศรษฐกิจในสมัยก่อนเฟื่องฟูมาก พอมาถึงแล้วต้องขอแวะกันซักหน่อย ปากพนังที่เห็นเป็นเมืองเล็กๆน่าอยู่ค่ะ มีบ้านเรือนเก่าแก่อยู่มากมาย มีปากน้ำ มีเรือข้ามฝาก มีจุดชมวิวที่แม่น้ำ และมีคอนโดนกนางแอ่นเยอะมากๆๆ แหม นกนางแอ่นที่นี่ไฮโซไม่เบา อยู่ตอนโดกันเลยทีเดียว อิอิ มองไปทางไหนเห็นคอนโดตึกสูงก็ให้เดาไว้ก่อนว่าเป็นคอนโดนกนะคะ เพราะฉะนั้นไปปากพนังแล้วเห็นตึกสูงๆแบบนี้คอนโดนกนางแอ่นทั้งหมดนะคะ
ร้านค้าบ้านเรือนเก่าแก่ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปค่ะ ดูมีเสน่ห์คลาสสิคไปอีกแบบ น่าไปเดินเล่นค่ะ
วิถีชีวิตเรียบง่ายริมแม่น้ำปากพนัง บ้านเรือนชาวบ้านริมน้ำยังคงวิถีเดิม
โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ เป็นประตูป้องกันน้ำเค็มที่เป็น 1 ในโครงการชลประทานในพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประตูระบายน้ำหลักของโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งคำว่า "อุทกวิภาชประสิทธิ" เป็นนามพระราชทานที่เป็นมงคลยิ่ง มีความหมายถึงความสามารถแบ่งแยก น้ำจืด น้ำเค็ม ได้สำเร็จ นั่นคือมีการบริหารจัดการอย่างสมดุลปิดกั้นน้ำเค็มไม่ให้รุกเข้าไปในลำน้ำ กักเก็บน้ำจืดไว้ใช้ดำรงชีพซึ่งจะเป็นบทเริ่มต้นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนและเอื้ออำนวยให้การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในลุ่มน้ำปากพนัง เป็นไปอย่างยั่งยืน
ร้านโกปี้ ร้านฮิตที่คนที่ไปเมืองคอนต้องแวะกันแทบทุกคน จริงๆรสชาติอาหารก็ถือว่าธรรมดา รสชาติชากาแฟอร่อยแต่ก็ไม่โดนเด่นอะไรมากนักแต่บรรยากาศร้านดีมาก ถือเป็นร้านรับแขกของเมืองคอนอีกร้านนึงเลยล่ะค่ะ
คอกตวายลุงไข่ คอกควายที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้อยู่ภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา
แสงเย็นที่คอกควายลุงไข่ สวยงามสะกดชัดเตอร์จริงๆ
@24 Boutique hotel ที่พักของเราในเมืองคอน เป็นครั้งที่ 2 ที่มาเมืองนี้และเป็นครั้งที่ 2 ที่พักที่นี่เช่นกัน
มานครต้องชิมโรตีป้าหนอมค่ะ ตอนนี้เห็นอยู่หลายสาขาเลย แต่แน่นอนว่าแวะสาขาที่หาง่ายที่สุดแถวๆหน้าวัดพระธาตุฯ
มาทานโรตีป้าหนอมต้องสั่งโรตีทิชชู่นะคะ แป้งบางเฉียบกรอบๆมันๆ ใช้ทิชชู่เช็ดกันมันแพร่บเลย อิอิ
กรุงชิง น้ำตกพรหมโลก คีรีวง
ทะเลหมอกกรุงชิง
ทริปนี้ได้เจ้าถิ่นที่น่ารักอย่างพี่หมอรังสิตและชาวคณะกรุงชิงไปเที่ยวด้วยกัน สนุกมาก แม้ไม่เจอหมอกเหมือนที่คาดหวังแต่ก็ได้มิตรภาพใหม่จากมิตรใหม่กลับมา จุดชมวิวทะเลหมอกกรุงชิงรถขึ้นถึงนะคะ แต่ต้องเดินขึ้นเขาไปอีกเล็กน้อย เดินไม่ยากสบายๆเลย
มาเที่ยวคีรีวง ชมทะเลหมอกกรุงชิงแล้ว อย่าลืมแวะพรหมคีรีนะคะ อำเภอที่ไม่ใช่แค่ทางผ่านไปกรุงชิงเท่านั้นแต่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง คราวนี้แวะไปเที่ยวน้ำตกพรหมโลก อุทยานแห่งชาติเขาหลวงมาด้วย ช่วงนี้น้ำน้อยแต่คนมาเล่นน้ำเยอะเชียว เป็นน้ำตกที่มีเกาะแก่งและแอ่งน้ำที่เล่นน้ำได้เป็นหลายช่วง เป็นน้ำตกที่รถเข้าถึงตัวน้ำตกเลย เที่ยวง่ายค่ะ ซึ่งน้ำตกพรหมโลกนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีจำนวนชั้นทั้งหมดถึง 50 ชั้น แต่เปิดให้ท่องเที่ยวได้แค่ 4 ชั้นคือ หนานบ่อน้ำวน หนานวังไม้ปัก หนานวังหัวบัว และหนานวังอ้ายแล
เที่ยวน้ำตกแบบไทยๆต้องมาปิคนิคกันแบบนี้จ้าา
ทริปนี้นั่งเครื่องมานครเลยเอาขาตั้งกล้องตัวเล็กเบาๆง่อยๆมาซึ่งใช้งานแทบไม่ได้ ลมพัดทีขาตั้งปลิว เลยเก็บภาพขำๆเบาๆมาฝากกันเป็นน้ำจิ้มก่อนนะคะ มีโอกาสกลับมานครศรีในช่วงน้ำอีก รับประกันจะกลับไปเก็บภาพน้ำเต็มลานหินมาฝากกันอีกแน่นอนค่ะ ตอนที่ไปน้ำไม่มากนักแต่ก็สวยงามทีเดียวค่ะ
วัดเขาขุนพนม อ.พรหมคีรี
ถ้ำเขาขุนพนม มีตำนานของชาวนครศรีธรรมราชเล่าว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมิได้ถูกสำเร็จโทษ แต่ทรงผนวชและลงเรือเสด็จไปประทับที่ถ้ำวัดเขาขุนพนม เมืองนครศรีธรรมราชดังที่เคยตั้งพระทัยไว้ ใครสนใจเรื่องนี้ลองหาข้อมูลอ่านกันดูนะคะ น่าสนใจมากเลยทีเดียว
พระตำหนักเมืองนคร
ตั้งอยู่ในบริเวณสวนผลไม้เก่าแก่ของตระกูลทองสมัครซึ่งเป็นผู้สร้างเรือนรับรองถวายในนามของชาวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเป็นที่ประทับทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ ในคราวที่เสด็จมาทรงงานที่เมืองนครศรีธรรมราช บริเวณโดยรอบแวดล้อมร่มรื่นด้วยไม้ผลและไม้ประดับ เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันเวลา 08.00–17.00 น. เว้นวันพุธและเวลาที่พระราชวงศ์เสด็จประทับ
คีรีวง หมู่บ้านที่เขาว่ามีอากาศดีที่สุดในประเทศ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่อยากมานานแล้วแต่เพิ่งมีโอกาสได้มาครั้งนี้เอง
จุดชมวิวแลนด์มาร์คของคีรีวง
กลุ่มหัตถกรรมของกลุ่มอาชีพต่างๆของคีรีวง น่าสนใจไปทุกสิ่งทั้งกลุ่มมัดย้อมสีธรรมชาติ กลุ่มสมุนไพร กลุ่มจักสาน ลูกปัด ผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าว กลุ่มแปรรูปน้ำผลไม้ กลุ่มทุเรียนกวน มังคุดกวน ถ้ามีเวลาก็เช่าจักรยานนายทั่งวันละ 50 บาท ปั่นชมได้ทั่วหมู่บ้านเลยค่ะ
วิถีชีวิต วิถีสายน้ำ วิถีเรือเหนือ
โชคดีจริงที่ไปคีรีวงตรงกับงานเรือเหนือพอดี เลยได้อยู่ร่วมแชร์ประสบการณ์วิถีพื้นบ้านที่น่าสนใจของที่นี่ สมัยก่อนบ้านคีรีวงซึ่งถือเป็นบ้านเหนือ จะนำพืชผักผลไม้ในหมู่บ้านล่องเรือไปแลกข้าวปลาอาหารกับทางปลายน้ำพื้นราบ เป็นประเพณีเก่าแก่ดั้งเดิมที่ปัจจุบันชาวคีรีวงได้จำลองเหตุการณ์สมัยปู่ย่าตาทวดไว้ให้ลูกหลานได้ชมกันประจำทุกปี เป็นประเพณีที่น่ารักมากคือชาวบ้านทุกครัวเรือนเอาข้าวของผลไม้อาหารแห้งมาให้ที่วัด ทุกคนหอบหิ้วถุงใส่ของมาบริจาคกันทุกคน ดูแล้วน่ารักอบอุ่นจัง จากนั้นก็มีพิธีแห่เรือลงแม่น้ำให้ได้ชมกัน สนุกสนานกันทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่จริงๆ
ชาวบ้านมากมายขนาดไหน ดูกันเลยได้ ของบริจาคเต็มวัดไปหมด
ขบวนแห่เรือลงน้ำ
ล่องเรือกันแล้วจ้า เด็กๆสนุกกันใหญ๋
วันนี้เป็นวันที่ทานของอร่อยถูกปากเบากระเป๋าจริงๆ ตั้งแต่เช้าทานหมี่กะทิผัดร้อนๆจากกะทะ 10 บาท เส้นเหนียวนุ่ม รสชาติเข้มข้นทานกับมะม่วงซอย พริกสดอร่อยมากๆเป็นหมี่กะทิที่อร่อยถูกปากที่สุดตั้งแต่ทานมาเลยล่ะ เหนียวไก่ทอด 20 จากตลาดสดคีรีวง อร่อยฟินที่สุดโดยเฉพาะหมี่กะทิ ปลื้มมากๆๆ
เป็นครั้งแรกที่นอนโฮมสเตย์ คุ้มเกินคุ้มในราคา 150 บาทต่อคน ที่เพชรคีรีโฮมสเตย์ ที่บ้านคีรีวง ที่เค้าว่าอากาศดีที่สุดในประเทศ อยากจะกรี๊ดดดมาก เป็นครั้งแรกที่นอนโฮมสเตย์และมันดีมาก เป็นบ้านไม้ 2 ชั้นสะอาดสะอ้าน นอนชั้นสอง ห้องเตียงเดี่ยว (แอบเห็นมีแอร์ด้วยน่ะแต่หารีโมทไม่เจอ อิอิ) มีห้องนอนเล่นดูทีวีอยู่นอกห้อง (เนื่องจากเป็นแขกคนเดียว ทุกอย่างเลยตกเป็นของแอดมิน ว่ะฮ่ะฮ่าาา อิอิ)ชุดโต๊ะเก้าอี้ที่ระเบียง ห้องน้ำสะอาดสะอ้าน (แยกอยู่ชั้นล่าง) และมี WiFi กรี๊ดดดดดมาก ห้องชั้นล่างเป็นห้องหลายเตียงสำหรับมาเป็นหมู่คณะ น่าจะรับได้เป็นสิบคนเลยน่ะ
heart emoticon และโชคดีมากที่มาตอนที่คีรีวงมีงานบุญประจำปีพอดี ค่ำๆก็ออกไปเที่ยวงานวัด มีดนตรี อาหารของกินเพียบเลย น่าสนุกอีกแล้วว ^^ ที่นี่อยู่ฝั่งตรงข้ามวัด ข้ามสะพาน เลี้ยวขวา เลยกลุ่มลูกไม้มานิดเดียวเลี้ยวซ้ายตามป้ายเลยจ้า
ปล.. ราคานี้เป็นราคาต่อคนไม่รวมอาหาร ถ้าต้องการอาหารเย็นเค้าคิดเพิ่มอีก 120 บาทเป็น 270 และอาหารเช้าคิดอีก 80 บาท สนใจลองโทรถามกันดูได้ที่เบอร์ 0980416690 คุณเพ็ญจ้า .... คุ้มเฟ่อร์ๆๆๆ บอกเลย
จากคีรีวง สู่สิชล
วิ่งมาทานขนมจีนหม้อดิน บ้านดั้งเดิม ร้านโปรดที่ท่าศาลา แกงไก่อร่อยมากกก 30 กับสาคูน้ำกะทิถ้วยโปรด 10 บาท หมดนี่อยู่กรุงเทพยังไม่ได้กาแฟแก้วนึงเลย
ขับรถเล่นสิชล ลัลล้าาาา
แสงสวยๆยามเย็นที่ปากน้ำสิชล
มาถึงสิชลตั้งแต่เที่ยงๆ นอนสลบจนบ่าย ยังไม่ได้ไปไหนในสิชลเลย แค่แว๊บไปเขาพลายดำกับละเลียดริมทะเลแถวๆนี้ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน คืนนี้นอน สิชล คาบาน่า บีช รีสอร์ท ที่พักเก๋ๆเล็กๆริมหาดหินงามจ้า ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงมรสุม คลื่นลมยังแรงอยู่ กำลังนั่งทานข้าวฟังเสียงคลื่นเพลินเลย แต่ได้ข่าวว่าช่วงกลางปีทะเลแถวนี้จะสวยไม่เบา สงสัยได้กลับมาแก้ตัวอีกรอบแน่ๆ
ปล...อาหารที่ครัวป๋อย ของรีสอร์ทอร่อยมาก ใครแวะมาแถวนี้แนะนำยำไอ้เท่ง (ลาบปลาดุกทอดกรอบ) เลย รสชาติดีแซ่บมากจ้า
อาหารอร่อย จานใหญ่ราคาไม่แพงมาก บรรยากาศดี น่ามานั่งทานช่วงแดดร่มลมตก ช่วงเย็นมากๆ
บรรยากาศโดยรวมสวยสะอาด สบายชิลล์มากๆค่ะ ได้คุยกับเจ้าของเห็นว่าจะปรับปรุงสถานที่และสร้างห้องพักเพิ่มซึ่งจะทำให้ที่นี่สวยและพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นแน่นอน พูดไปก็อยากเห็นตอนเสร็จแล้วจัง อาคารห้องประขุมและห้องอาหาร เป็นปูนและไม้ดูโปร่งโล่งสวยงามกลมกลืน
เส้นทางขับรถวันสุดท้ายค่ะ
ช่วงที่ไปคลื่นลมค่อนข้างแรง เลยไม่ได้ออกเรือไปชมปลาโลมาสีชมพู เพราะถามคนในพื้นที่เค้าไม่แนะนำค่ะ เสียดายเหมือนกันแต่ก็ไม่เป็นไรเพราะตั้งใจอยากกลับมานครศรีอยู่แล้ว เอาไว้จังหวะเหมสาะค่อยจัดก็ยังไม่สายเกินไป วันนี้ขับรถเล่นเบาๆที่สิชลและเลื้อยไปขนอม 2 อำเภอเล็กๆอันเงียบสงบที่ตั้งอยู่บนปากแม่น้ำริมทะเลแทน ชายหาดตอนนี้ไม่ค่อยสวยนัก ยังอยู่ในช่วงมรสุม คลื่นลมแรงทีเดียวค่ะ แต่หน้าไฮกลางปีน่าจะสวย น้ำนิ่งใส หาดกว้าง ถ้าไม่ติดอะไรอยากจะกลับมาอีกครั้ง
จบทริปตะลุยนครสองธรรม นครศรีดี๊ดีแล้วค่าา คืนรถ AVIS ทีสนามบินเรียบร้อย เติมน้ำมันคืนเต็มถัง 1200 นั่งตบยุง (จริงๆนั่งทานเค๊กรอ อิอิ ) รอไฟลท์ดีเลย์ทุ่มครึ่ง ฟิลเหมือนบินไปอลาสก้าเลย มาเร็วเกิ้น อิอิ อ้อ ตอนนี้นกแอร์เพิ่มไฟลท์ ดอนเมือง-นคร อีกวันล่ะไฟลท์ บินถี่ขึ้นเราสะดวกขึ้น มาเที่ยวกันนะคะ เมืองไทยเที่ยวยังไงก็ไม่หมดซักที นครศรีมีอะไรดี๊ดีมากมาย ยังไม่ได้ไปอีกตั้งเยอะ แหน่ะ
นครศรีธรรมราช เมืองใหญ่ที่มีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ยาวนาน ย้ำกันอีกครั้งว่าเมืองคอนเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นชัดเจนทั้งความรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาและความสวยงามครบทุกองศาทางธรรมชาติ มีภูเขา น้ำตก ทะเลหมอก ชายหาดยาวเหยียด เป็นนครที่รวมเอาธรรมะและธรรมชาติมาอยู่ที่เดียวกันอย่างกลมกลืน เป็นเมืองที่มีวัฒนธรรม วิถีชีวิตที่น่าสนใจ น่าศึกษา ผู้คนเป็นน่ารักมิตร เป็นเมืองที่สามารถท่องเที่ยววิถีไทยได้ง่ายๆในราคาเบาๆ เพียงแค่เราเปิดใจเปิดตามองแล้วออกมาสัมผัส เชื่อแน่ว่าพวกเราจะตกหลุมรักเมืองคอนได้ไม่ยากค่ะ
เวลา 4 วันผ่านไปรวดเร็วแบบคิดตามไม่ทัน ถ้ามีเวลามากกว่านี้ก็คงหมดแบบไม่รู้ตัวอีกเช่นกัน สัญญาแล้วจะกลับมาเมืองคอน เมืองต้องห้ามพลาดเมืองนี้อีกแน่นอนจ๊ะ
มานก กลับนก ฟรีน้ำหนักกระเป๋า ฟรีอาหารว่างน้ำดื้ม ฟรีระบุที่นั่ง บินง่ายๆสบ้ายสบาย จุ๊ฟๆๆ