จัดอันดับ เม้าท์มอย 3 สัญชาติผู้โดยสารยอดเยี่ยม

CR. รูปภาพจาก Google

บ่อยครั้งเวลาที่เราเดินทางท่องเที่ยว ใช้บริการสายการบินต่างๆ ในฐานะ “ผู้โดยสาร” 

ก่อนเดินทางเรามักเกิดความคาดหวัง ในการใช้บริการสายการบินนั้นๆ

ว่ากันไปตั้งแต่ ก่อนการจองตั๋ว  ระบบการเช็คอิน เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก  อาหารอร่อยหรือไม่  เครื่องบินใหม่หรือไม่  อินไฟลท์เอนเตอร์เทนเม้นต์มีให้เลือกเยอะหรือไม่  ความสะอาดของเครื่องบินและห้องน้ำถูกดูแลอย่างทั่วถึงหรือไม่  และอื่นๆ อีกมากมาย  แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้โดยสารมักคาดหวังถึง 70 เปอร์เซ็นต์  นั้นสะท้อนมาจาก  ภาพลักษณ์หรือตัวแทน Brand Ambassador ก็คือพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนั่นเอง

เช่น  เป็นมิตรหรือไม่  ยิ้มหรือไม่ มารยาทการพูดเป็นอย่างไร บุคลิกท่าทาง การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะตัวฝนเองเวลาเดินทางก็จะชอบมองแอร์มากๆ เพราะรู้สึกว่าแต่ละสายการบิน เค้าคัดเลือกลูกเรือในอุดมคติเพื่อบ่งบอกถึงวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เหมือนกัน

แต่แท้ที่จริงแล้วรู้หรือไม่ว่า  ตัวพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ก็ “คาดหวัง” กับ ผู้โดยสารเช่นกัน  (Passenger Profile)  เช่น ดื่มเยอะหรือไม่  มารยาทท่าทางเป็นอย่างไร ระดับความต้องการ(บริโภค)สูงหรือไม่

 

ด้วยความเป็นอยู่ วัฒนธรรมที่ต่างกัน อาศัยกันอยู่คนละซีกโลก แน่นอนว่า ผู้โดยสารที่เรานำท่านไปสู่จุดหมายปลายทางนั้นย่อม “นิสัย ใจคอ การแสดงออก” ไม่เหมือนกัน  หลังจากที่มีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์จากผู้โดยสารหลายชาติ (หนูทดลองนั่นเอง)  เลยจะขอเม้าท์มอยด์ สรุป ออกมาเป็น 3สัญชาติผู้โดยสารยอดเยี่ยม  (ในใจฉัน)

 

3สัญชาติผู้โดยสารยอดเยี่ยม

1.       ชาติจีน / เกาหลี

แปลกใจกันหรือไม่ที่ฝนยกให้ชาติจีนเป็นผู้โดยสารในดวงใจ   ต้องลองอ่าน! แล้วจะเปลี่ยนความคิดว่าผู้โดยสารจีนนั้นน่ารักขนาดไหน  

ก่อนหน้าที่จะทำไฟลท์บินไปยังแถบประเทศ Far East (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น)  เคยจินตนาการไว้ไกลมาก ว่า ไฟลท์จีนนนนน! คงจะชลมุนวุ่นวาย   ต้องเซิ้ง เอ้ยต้องเสิร์ฟจนแทบไม่มีเวลานั่งอย่างแน่นอน  เรากล้าเอาหัวรับประกัน    ก่อนทำไฟลท์บินกว่า 9 ชม.  เลย ทั้งกินทั้งนอน  โด๊ปไปอย่างเต็มที่

 ถึง ณ เวลาต้อนรับผู้โดยสารจีน  ทั้งวัยรุ่น หนุ่มสาว จนไปถึงรุ่นใหญ่ ยิ้มแย้มแจ่มใส ตอบรับคำทักทาย พร้อมสบตาเราเป็นอย่างดี   เพราะส่วนใหญ่แล้ว เราจะชอบเจอผู้โดยสารที่เวลาทักว่า  Good Morning to you sir , How are you  (or) how was your day ?  ผู้โดยสารก็จะตอบกลับมาว่า “26 K” แอร์ก็จะหน้าเหวอไปหน่อยนึง  เพราะคาดหวังคำตอบว่า ผู้โดยสารคงตอบมาว่า ฉันสบายดี หรือยิ้มทักทายกลับนั่นเอง

 ส่วนเรื่องน่ารักๆสำหรับคนจีนเลย คือ  ไม่เรื่องมาก  มีอะไรให้ก็กิน  แต่หากช้อยด์อาหารใดอาหารหนึ่งหมด  คนจีนก็จะไม่โวยวาย บอกว่าไม่เป็นไร พร้อมหยิบ Noodle Cup ขึ้นมา!     มีอะไรก็จะไม่ค่อยกด Call Bell แต่จะเดินมาขอของเองถึงในครัว  ร้อยละ 90 เลย คือเดินถือกระติกน้ำร้อนเพื่อมาขอน้ำร้อน (คนจีนชอบดื่มชากันมากๆ)

 เเล้วหากครั้งไหนที่ทำไฟลท์กลางคืน ระหว่างที่ Cabin เปิดไฟพอสลัวๆ   ก็ไม่ต้องตกใจถ้าหันไปเห็นคนนอนมาร์กหน้า ประหนึ่งผีตามมาหลอกหลอน ณ ระดับความสูง 43,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล    ไม่ต้องตกใจ … เพราะคนจีน เกาหลีเค้ามี Mask Collection เยอะมากค่ะ ทั้งมาร์กหน้า มาร์กปาก มาร์กเท้า  มาร์กทิ้งไว้แล้วหลับไปเลย

 

 2.       ชาติเยอรมัน

อันดับสองคือชาติเยอรมัน  ที่ยกให้อันดับสองเพราะว่า ผู้โดยสารหน้าตาดี!  แต่ถึงอย่างนั้นหรือจะสู้  มารยาทดีงามสไตล์ยูโรเปียน  (ที่จริงชาติยูโรเปี้ยนก็น่ารักกันทั้งนั้นนะคะ เว้นแต่เสียอย่าไปทำอะไรผิดพลาด กระตุกหนวดเสือเข้าให้   ชาตินี้เค้ามาหน้านิ่งๆ แต่ Complain โหดมาก )

เวลาทำไฟลท์เยอรมันทีไร เครื่องบินจากที่โหลดหนักๆ ด้วยแอลกอฮอลท้ายเครื่อง  ก่อนเครื่องแลนด์นี่ท้ายเครื่องเบาหวิวเลยค่ะ  ปิดบาร์เครื่องดื่มแอลกอฮอลง่ายมาก  เพราะ  เสิร์ฟเครื่องดื่มแทบจะหมดเลย ชาตินี้เค้าดื่มเบียร์กันหนักจริงๆ  แต่เวลาขอคือ ขอแบบสุภาพมากๆ  เช่น จะเริ่มต้นด้วยคำว่า Would you mind if I ask for …. Please ?   หรือ  If it possible  may I have a can of beer please ?   พูดจาดี ไม่เร่งเร้า และขอบคุณ (แบบซาบซึ้ง)

 

3.       ชาติบังกลาเทศ / เนปาล

ที่จริงควรจัดอยู่ในไฟลท์ยอดแย่   เพราะเวลาทำไฟลท์ไปบังกลาเทศทีไร ต้องปวดหัวตั้งแต่เครื่องยังไม่ Take off  ไปกับกระเป๋าและถุงดิวตี้ฟรี ที่ผู้โดยสาร “แบก” กันขึ้นมาบนเครื่อง จนไม่มีพื้นที่ว่างให้เก็บกระเป๋าสัมภาระ  และการสับเปลี่ยนที่นั่งเองของผู้โดยสาร  รวมไปถึงการคุยโทรศัพท์จนกระทั่งเครื่องอยู่บนรันเวย์กำลังจะทะยานขึ้นฟ้าในอีกไม่ช้า (พอลูกเรือให้ปิด ผู้โดยสารก็จะทำท่าว่าปิด พอเราเดินหันหลังไปเท่านั้นล่ะ!!  หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยต่อ .. ) ไหนจะชอบยืนขึ้นก่อนเครื่องบินจอดสนิทเวลาถึง Gate   ไหนจะชอบทำธุระหนักในห้องน้ำแล้วไม่กดชักโครกเพราะกดไม่เป็น   ไหนจะด้วยท่าทางทีเรียกเราเหมือนหมา ทำเสียง “ชู่ว ชู่ว” พร้อมดีดนิ้วแล้วเรียกเรา (ที่จริงเป็นวัฒนธรรมบ้านเค้า)

แต่สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้ในความน่ารักของคนชาตินี้ คือ ความน้อมนอบ  เพราะจะชอบคิดว่า  เหล้าและอาหารบนเครื่องต้องจ่ายเงิน   เหมือนบางคนเค้าลำบากค่ะ เก็บเงินมาทั้งชีวิตเพื่อนั่งเครื่องบิน  หรือแม้กระทั่ง ค่าเหล้าแก้วนึง คือ เงินทำงานทั้งวันของเค้า   เวลาที่ผู้โดยสารชาตินี้ขอเครื่องดื่มสุดโปรด  (วิสกี้)  ก็จะค่อยๆ เหร่ลูกเรือก่อน แล้วเรียกแบบเนียนๆ ทำหน้าอ้อนๆ  “วิสกี้ !? วันเป๊ก วันเป๊ก”  ลูกเรือเห็นแล้วก็จะแจกดริ้งให้ไม่อั้น (ตราบใดที่มั่นใจว่า ผู้โดยสารจะไม่เมา)

หรือแม้กระทั่งบางคนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ก็พยายามสื่อสาร พร้อมรอยยิ้มที่จริงใจ

 

ไม่ว่าจะผู้โดยสารชาติไหน  ก็พร้อมยินดีให้บริการเสมอ  สุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญ คือ การปรับตัว เรียนรู้วัฒนธรรม และ ทัศนคติที่ดีต่อให้ไม่ว่าจะเจอผู้โดยสารแย่หรือดี  ก็อาจจะกลายเป็นผู้โดยสารยอดเยี่ยมในใจได้ไม่ยากค่ะ ^^