กินสนุกที่ “ฮั่วเซ่งฮง” ต้นตำรับความอร่อยแท้จากเยาวราช l Eater ปุ๋ย (@palouis)
หนีห่าววววววว!
พูดภาษาจีนกลางได้ด้วย! พูดได้คำเดียวก็นับว่าพูดได้แล้วล่ะ *555*
บล็อกนี้เราต้องทักทายกันด้วยภาษาจีนค่ะ เพราะเราจะพามาซุยอาหารเหลาต้นตำรับ “ฮั่วเซ่งฮง”
นับเป็นข่าวดีสำหรับลาดเพราช์พีเพิ่ลอย่างเรา (ไม่ใช่ลาดพร้าวนะคะ เพื่อความชิคต้อง “ลาดเพราช์”) ถ้าอยากกินอาหารจีนรสชาติเริ่ดๆ แบบดั้งเดิม ก็ไม่ต้องถ่อไปถึงเยาวราช นั่งแท็กซี่ปร๊าดดดดดเดียว มุ่งหน้าเดอะมอลล์ บางกะปิ
เดินขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ชั้น 3 ก็เจอ “ฮั่วเซ่งฮง” สุดยอดภัตตาคารอาหารจีนในตำนาน
งงล่ะสิ อ่ะ เดี๋ยวนี้มีโซนร้านอาหารเปิดใหม่ที่เดอะมอลล์บางกะปิแล้วนะ ขอบคุณเดอะมอลล์ที่ช่วยกระจายความชิคสู่ชุมชน มีร้านอาหารใหม่ๆ เกร๋ๆ ตบเท้ามาเปิดกันเพียบ ทั้ง On the table , Genki sushi, ตำมั่ว, Tudari และ ฮั่วเซ่งฮง
งานนี้กินจริง อิ่มจริง ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน อิ่มกลับบ้านกันทุกนาง ชั้นนึกว่าท้องอ่อนๆ 5555
เอาล่ะ งานนี้เรามากัน 3 คน พนักงานที่มาต้อนรับพยายามจะเชิญเราไปนั่งที่โต๊ะขนาดย่อมๆ ไม่ใหญ่มาก…น้องจ๊ะ ประเมินพวกพี่ต่ำไปแล้ว ถึงพี่จะมากัน 3 คน แต่พี่สั่งอาหารเหมือนมากันทั้งตระกูล สั่งเผื่อบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ สั่งเผื่อผู้อดอยากหิวโหยทั้งโลก
“น้องคะ พี่ขอโต๊ะกลมหมุนได้เท่านั้นค่ะ”
และแล้วความฝันที่จะได้นั่งหมุนโต๊ะในร้านเหลาของเราก็เป็นจริง ขอบคุณน้องพนักงานฮั่วเซ่งฮงค่ะ
เริ่มกันที่อาหารเลยนะ เรื่องอื่นเอาไว้คุยกันทีหลัง เพราะเราเป็นคนตรงประเด็น มากินคือมากิน
อ่อๆ เรื่องแรกที่ต้องชมนะคะ พนักงานรับออเดอร์ทำงานเกินค่าตัวมาก นางพยายามฟังเรา 3 คนเถียงกันว่าจะกินอะไรดี แล้วก็ช่วยตบเข้าประเด็นจนได้ข้อสรุปที่ลงตัว มาดูอาหารกันค่ะ
“โหงวก๊วย”
จานที่ 2 สำหรับการวอร์มกระเพาะอาหารให้เข้าที่เข้าทางมาแล้วค่ะ
“เนื้อปูจัมโบ้ผัดผงกะหรี่”
จานนี้เห็นแล้วตกใจมาก มองหน้าพนักงานเสิร์ฟแล้วถามว่านี่ปูหรือเนื้ออกไก่ ทำไมมันอลังการแบบนี้จ๊ะหนู เฮ้ย ก็ไม่คิดว่าเนื้อปูมันจะบึ้มขนาดนี้ สะใจเหมือนนั่งกินเนื้อปูในร้านอาหารริมทะเลเลยทีเดียวเชียว…
นอกจากเนื้อปูที่กัดได้แบบเต็มๆ คำ เรายังสะใจหนักไปอีกขั้นด้วยกลิ่นหอมเครื่องเทศที่โชยแตะจมูกเบาๆ สมกับเป็นร้านอาหารจีนต้นตำรับจริงๆ
อาหารอุ่นเครื่องจานที่ 3 เรายังคงวนเวียนอยู่กับเนื้อปูค่ะ จานนี้เป็น “ปูนิ่มทอดกระเทียมพริกไทย” กรอบมาก เข้มข้นมาก มีขิงดองให้กินตัดเลี่ยนด้วย
เรื่องรสชาติคงไม่ต้องพูดเยอะ ชื่อฮั่วเซ่งฮงการันตีอยู่แล้ว
เอาละ จบการอุ่นเครื่องแต่เพียงเท่านี้ อย่าสงสัยว่านี่อุ่นเครื่องกันหนักขนาดนี้เลยเหรอ?
ขอเชิญพบกับเมนูไฮไลท์ของโต๊ะเราค่ะ
ถัดมา “เป็ดปักกิ่ง”
ส่วนที่มาก่อนจะเป็นหนังเป็ดกรอบๆ มีแป้งกับเครื่องเคียงและน้ำจิ้มมาให้กินรองท้องก่อนที่เนื้อเป็ดจะมาเสิร์ฟ
รอบนี้เราเลือกเอาเนื้อเป็ดไปผัดพริกไทดำค่ะ ระหว่างนี้กินหนังเป็ดห่อแป้งรอไปก่อน
ดูจากรูปก็คงรู้สึกได้ถึงความบางกรอบใช่มั้ยล่ะ ยิ่งเอามากินกับเครื่องเคียง ทาน้ำจิ้ม ยิ่งเด็ดดวง ความนุ่มของแป้งช่วยให้รสชาติกลมกล่อมมากขึ้น ลืมไปเลยว่ากำลังกินอาหารจานหลัก ได้ฟีลเหมือนกินออเดิร์ฟเลย เพลินมาก
เวลากินหนังเป็ดแบบนี้เรามักจะกังวลเรื่องกลิ่นสาบนะคะ แต่สำหรับที่นี่ ลืมไปได้เลย ทำมาดีมาก ไม่มีกลิ่นสาบมากวนจมูกหรือลำคอ กินได้สบายๆ เรื่อยๆ เพลินๆ
และแล้วเนื้อเป็ดผัดพริกไทดำที่เรารอคอยก็มาแล้วค่ะ ดูจากรูปก็คงไม่ต้องบรรยายอะไรมาก ความแน่นของเนื้อคือชนะเลิศ
เป็ดนุ่มๆ แน่นๆ มาเจอกับเครื่องเทศที่ผ่านการปรุงสุกใหม่ๆ วางไว้บนกระทะร้อนฉ่า
อะไรจะฟินไปกว่านี้ อาาาาาาาห์ อร่อยสมกับที่เป็นจานเด็ดของเราในวันนี้
ยังไม่หมดๆ เมนูไฮไลท์ของเรายังมี “สายรุ้งหม้อไฟ” ด้วย ช่วงนี้มีโปรโมชั่น สั่งสายรุ้งหม้อไฟ แถมเกี๊ยวกุ้งไต้หวันด้วย
เอาจริงๆ แค่อยากรู้ว่าเกี๊ยวกุ้งไต้หวันมันเป็นยังไง ไม่ได้อยากกินหม้อฟงหม้อไฟอะไรหร๊อกกกกก เแค่อยากรู้อยากเห็นเฉยๆ (เหรอ)
วัตถุดิบหม้อไฟก็ดีงามตามท้องเรื่องค่ะ เป็นของที่ดูพรีเมียมตามสูตร ปลากะพง หอยเชลล์ กุ้งตัวโตๆ เห็ด ผักสด มากับน้ำจิ้มแซ่บๆ ที่ช่วยให้เราเจริญอาหารมากขึ้น ไม่ใช่คนกินเก่งค่ะ เป็นความผิดของน้ำจิ้ม
ถึงเวลาก็ลวกเลยค่ะ ความสนุกของมื้อนี้อยู่ตรงที่เราได้หมุนโต๊ะเฮฮา เม้าท์แตก ลวกหม้อไฟ ถ่ายรูปอาหาร เซลฟี่ เป็ด และปู
อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวนะคะ ร้านนี้เหมาะมากสำหรับการสังสรรค์แบบครื้นเครง ด้วยความที่บรรยากาศของร้านมันอนุญาตให้เราล้งเล้งได้บ้าง ไม่ต้องนั่งกินสงบๆ มีโซนส่วนตัวเล็กๆ พอให้เราลุกขึ้นมาเต้นแร้งเต้นกากับเพื่อนชะนีโดยไม่ต้องอายสายตาคนอื่นๆ ในร้าน (จริงๆ ก็ควรจะอายนะ)
บรรยากาศแบบนี้มันทำให้อาหารอร่อยขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยค่ะ
ค่าใช้จ่ายของมื้อนี้อยู่ที่ 2,585 บาทถ้วน คุ้มค่ามากกับความพรีเมียมของอาหารในแบบฉบับฮั่วเซ่งฮง ราคานี้หาร 3 แล้วเหลือคนละ 800 กว่าๆ
นานๆ ทีได้กินอะไรแบบนี้ก็ถือเป็นรางวัลชีวิตนะคะ กินของอร่อยๆ ในวันสุดสัปดาห์จะได้มีแรงไฟท์กับงานในวันจันทร์ ^^
ช่วงนี้เขามีโปรโมชั่นอยู่นะ กินครบ 700 บาท เอาไปแลกกระปุกน้ำสีแซ่บ Drink & Share Bottle ได้ด้วย ป่ะๆ อย่าให้เสียสิทธิ์ เดินลงไปแลกที่เคาท์เตอร์ Information ด้านล่างค่ะ
ปิดท้ายกันด้วยรูปของ eater ปุ๋ย @palouis กับแอคชั่นพริตตี้กระปุกน้ำ
แถมอีกนิดๆ ใครเป็นสมาชิก M card หรือใช้บัตรเครดิต Citibank หรือเป็นลูกค้า dtac กินแค่ 500 บาทก็เอาไปแลกกระปุกน้ำได้แล้วนะ อยากให้ทุกคนมีกระปุกน้ำสีแซ่บไว้ในครอบครองกันถ้วนหน้า เพราะเอาไปใช้ได้ตลอด ทุกวันนี้กลายเป็นพรอพติดมือไปแล้ว
ชอบเรื่องที่ปุ๋ยเขียน #ฝาก Like ด้วยนะคะ จะได้มีกำลังใจเขียนต่อไป <3
Facebook:
https://www.facebook.com/palouis
Co-Founder บล็อคอาหารสุดสนุก กินให้สุดอย่าหยุดกิน
https://www.facebook.com/merryeater