[Review] Angsana Ihuru Resort & Spa กับวันที่แบนราบในมัลดีฟส์
ฉันเดินทางมาประเทศ “แบนราบ” ที่สุดของโลกครั้งแรก ก็เกือบ 9 ปีที่แล้ว ครั้งนั้นฉันพักที่ Angsana Ihuru รีสอรต์ที่ตั้งอยู่ห่างจากมาเล่ เมืองหลวงของมัลดีฟส์เพียง 30 นาทีเท่านั้น
มัลดีฟส์ในวันนั้น … ทำให้ฉันแทบไม่อยากขยับตัวไปไหน อยากนอนเรียบๆที่หาดทราย ไม่กระดิกกาย แช่น้ำ และชมฟ้าตลอดเวลาที่อยู่ในประเทนแบนราบแห่งนี้
ทริปนั้น พวกเรา 4 สาว (ยังสาวจริงๆตอนนั้นค่ะ 555) ตัดสินใจไปมัลดีฟส์แบบกะทันหัน จัดการจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบินแล้วเสร็จภายใน 2 อาทิตย์ และ Angsana Ihuru ก็ถูกเลือกให้เป็นที่พักของวันพักผ่อนแบบเรียบแบนครั้งนี้
ในช่วงฤดูฝนของเดือนกรกฏาคม ซึ่งเป็นโลว์ซีซั่น โปรโมชั่นที่พักจึงยวนใจเป็นพิเศษ พัก 3 คืนแถม 1 คืน รวมอาหาร 2 มื้อ (มื้อเช้า และมื้อเย็น) …. แล้วเราจะพลาดได้ยังไงหล่ะค่ะ
Ihuru เป็นชื่อของเกาะที่ Agsana ตั้งอยู่ เกาะนี้เขย่งตัวสุดๆ ก็อยู่เหนือพื้นน้ำได้เพียงระดับเอวของเรา จะว่าไปแล้ว ความแบนราบของมัลดีฟส์ส่อเค้าให้เห็นตั้งแต่วินาทีที่เครื่องบินกำลังร่อนตัวลงจอดเลยค่ะ ใครกล้าหาญก็ลองดูรันเวย์ที่แบนราบระนาบเดียวกับผิวน้ำทะเล เสียจน … ฉันแอบคิดอยู่ในใจว่ากัปตันของเราจะแลนดดิ้งบนพื้นดิน หรือพื้นน้ำกันแน่!!
หลังจากรับกระเป๋า และผ่านกองตรวจคนเข้าเมือง เรือเร็วของโรงแรมก็มาจอดรออยู่ที่ท่าน้ำด้านนอก สปีดโบ็ตพาเรามาถึงโรงแรมภายใน 30 นาที ของเวลาตีหนึ่งครึ่ง แต่ถึงแม้จะง่วงสักปานใด วิวอะไรก็ไม่มีให้เห็น แต่เราก็ขอชักภาพประวัติศาสตร์สลึมสลื้อรูปนี้ไว้จนได้
Angsana Ihuru เป็นรีสอรต์เพียงแห่งเดียวที่ครอบครองเกาะขนาดจิ๋วแห่งนี้ บริหารงานภายใต้กลุ่มโรงแรม Banyan Tree ดีกรีการบริการจึงเลิศไม่แพ้กัน
“Ihuru” มีความหมายในภาษาท้องถิ่นว่า ต้นปาลม์ (Old Palm Trees) เดาได้ว่าคงมาจากจำนวนต้นปาลม์น้อยใหญ่ที่ปลูกไว้บนเกาะแห่งนี้ค่ะ
ห้องพักเกือบทุกห้องของ Angsana ตั้งอยู่ติดชายทะเล แบบที่เรียกว่า Beachfront ที่นี่ไม่มีบังกะโลในน้ำ เพราะต้องการรักษาปะการัง และธรรมชาติของทะเลให้มากที่สุด
ลักษณะของห้องคล้ายรีสอรต์บ้านเดี่ยวชั้นเดียว หน้าห้องเป็นเฉลียงไม้ มีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งรับลมทะเล ภายในห้องพักแบ่งห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องน้ำออกจากกัน การตกแต่งเรียบง่ายเน้นงานไม้และสีสันสดใสของเครื่องใช้เพื่อให้เกิดความทันสมัย
ส่วนห้องน้ำก็เปิดโล่งแบบ Outdoor ให้อาบน้ำกันภายใต้แสงจันทร์และเงาไม้ใหญ่ อาบครั้งใดก็ยังไม่คุ้นเคย เหมือนยืนเปลือยกายอาบน้ำในที่โล่ง เซ็กซี่แต่ก็ระคนตื่นเต้นไปพร้อมๆกันค่ะ
หน้าห้องพักมีเซ็ตโต๊ะนั่งเล่นบนระเบียงไม้ ไว้ทานอาหาร หรือเม้าท์มอยกับเพื่อนสาว ส่วนทางเดินลงไปหาดทราย ก็ยังมีชิงช้าสีขาวขนาดควีนไซส์สบายๆ แกว่งได้ลมเย็นๆประดับไว้ทุกห้อง
ฉันเดินลงไปเล่นน้ำทะเลที่ตื้นเขิน แต่หนาแน่นด้วยปะการัง และทรายเนื้อเนียนได้เมื่อใจอยาก …
กิจกรรมแบนราบที่ตั้งปณิธานไว้ตั้งแต่แรก เริ่มด้วยการฝังร่างลงบนชิงช้าตัวนี้ ไม่ขยับเขยื้อนกายไปไหน อ่านหนังสือเล่มโปรดอย่างสุขใจ
หากเมื่อยนักก็ยกกายลงไปแช่ร่างในน้ำทะเลสีฟ้าใส ดูปลาน้อยใหญ่ ที่ว่ายผ่านอย่างไม่เกรงกลัวคนแปลกหน้าเลยสักนิด
ยามเที่ยง…หลังจากมื้อกลางวันที่อิ่มแปร้ สะพานไม้ของโรงแรม (jetty) กลายเป็นจุดหย่อนใจที่ไว้ย่อยอาหาร ฉันมักแวะมานั่งแกว่งขาดูปลาสีสันสวยงามว่ายน้ำลอดใต้ศาลาพักใจแห่งนี้ เป็นความสงบที่นึกถึงทีไร ก็มีสุขใจได้ทุกครั้ง
ก่อนมื้อเย็น ฉันมักออกกำลังกายเดินเล่นรอบเกาะ ชมวิว ทิวทัศน์ ดูเส้นขอบฟ้าและขอบน้ำ ที่รู้สึกว่าใกล้กว่าที่เคยเห็น การออกกำลังกายครั้งนี้ไม่เคยสัมฤิทธิ์ผล ไม่มีเหงื่อออกแต่อย่างไร เพราะเพียง 15 นาที เราก็จะเดินวนกลับมาที่จุดเริ่มต้น “ครบรอบแล้ว” สำหรับเกาะจิ๋วเกาะนี้
ในบางวันที่เหงาๆ เราเลือกกิจกรรมตื่นเต้นกระตุ้นหัวใจด้วยการนั่งเรือสปีดโบ๊ตไปชมปลาโลมา จิบแชมเปญเย็นๆยามพระอาทิตย์ตกดิน คลายเหงาและบิวด์อารมณ์สังสรรค์ได้พอสมควร
ยามค่ำคืนเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย….เราจะเดินเรียงตัวเลียบริมหาด สองเท้าแข่งกันเหยียบลงบนทรายชื้นๆ ที่เผยให้เห็นเกล็ดสีเขียวของฟอสฟอรัสเรืองแสง เป็นภาพที่งดงามและยังตรึงอยู่ในความทรงจำจวบจนทุกวันนี้ค่ะ
อีกกิจกรรมไฮไลท์ที่น่าชม เป็นการให้อาหารปลากระเบน กิจกรรมนี้ต้องนั่งเรือไปดูที่ Banyan Tree โรงแรมพี่ที่ตั้งอยุ่ใกล้ๆกัน
ประมาณ 4-5 โมงเย็นของทุกๆวัน เจ้าปลากระเบนแสนรู้ จะทยอยมาเกยตื้นตามเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่จะเดินลงไปทักทายเหล่าปลากระเบนด้วยการลูบตัวเหมือนจะบอกว่า พวกเรามาอย่างเป็นมิตรนะ…
ฉันประหลาดใจกับการทักทายแบบสนิทสนมนี้ เพราะคิดเสมอว่าปลากระเบนนั้นเป็นสัตว์อันตราย หางยาวชี้นั้นพร้อมที่จะใช้ทิ่มแทงศัตรูให้ตายได้ทุกเมื่อ
อีกความเข้าใจผิดที่คิดมาตลอดว่า ปากของปลากระเบนนั้นคงใกล้กับตา และจมูกเหมือนมนุษย์เรา ใครจะนึกว่าพระเจ้าจะเล่นตลกสร้างให้ปากของปลานั้นอยู่ใต้ตัวปลา ห่างจากอวัยวะอื่นตั้งไกล เวลากินอะไร จะเห็นได้ยังไงละนี่
ดังนั้นทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่จะป้อนอาหารให้กับปลากระเบน เค้าจะยกตัวปลาขึ้น และสอดแขน เข้าไปใต้ร่างเพื่อป้อนอาหารให้ถึงปากของปลา เป็นกิจกรรมง่ายๆ เหมือนภูมิปัญญาชาวบ้าน ไม่ต้องมีอัฐจันทร์ใหญ่โตให้นั่งชม แต่กลับสนุกและระทึกใจไม่ต่างกัน
บทสรุปของ Angsana Ihuru ฉันได้คะแนน 3.5/5 ดาวค่ะ ข้อดีของที่นี่ คือ ความสมูบรณ์ของโลกใต้ท้องทะเล ปลาฉลาม ปลากระเบน ปลาเล็กปลาน้อย ที่เต็มไปหมดเลยค่ะ แต่ข้อที่ควรปรับปรุงของที่นี่ เป็นกิจกรรมที่มีให้คลายเหงาน้อย กิจกรรมหลายอย่างต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 50-100 เหรียญ และร้านอาหารที่มีตัวเลือกไม่กี่ร้าน ส่วนรสชาติอาหารคาบเส้นค่ะ … แต่โดยรวม ก็เป็นโรงแรมที่เหมาะสมกับราคา ยิ่งไปในช่วงโปรโมชั่น ให้อาหาร half board และแถมห้องพักอีกคือ ก็เรียกว่าคุ้มสุดคุ้มค่ะ
จูน ศศิวิมล : Thaifootprint.com
ราคาเฉลี่ยคืนละ 18,000-22,000 บาท