ฉันนอนหลับฝันดีที่ “ทัชมาฮาล” แห่งเมืองไซง่อน Tajmasago - เวียดนาม
ฉันตกหลุมรักโรงแรมนี้ตั้งแต่แรกเห็น ถึงแม้จะเป็นการสบตาผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ ฉันก็ตั้งใจแน่วแน่ ว่าจะต้องมาพักที่นี่ให้ได้ ถึงแม้ “ทัชมาฮาล” แห่งนี้จะอยู่ห่างจากใจกลางเมืองก็ตามที …
“Tajmasago” เป็นชื่อของโรงแรมสวยแห่งนี้ค่ะ ด้วยความหมายว่าที่พักของราชาแห่งแดนภารตะ และโครงสร้างสีขาวเด่น ทำให้ฉันนิยามที่นี่ให้เป็น อนุสรณ์แห่งรัก “ทัชมาฮาล” แห่งเมืองไซง่อน โรงแรมบูติกระดับห้าดาวของกลุ่ม Khaisilk แห่งเวียดนาม
การออกแบบที่ประยุกต์ และผสมผสานโลกเก่าและโลกใหม่เข้าด้วยกัน ทำให้รายละเอียดของ Tajmasago นั่นแปลกตาและน่าชม ไม่ว่าจะเป็น พื้นตารางหมากรุกสีดำขาวของสระว่ายน้ำ แจกันดอกไม้สีแดงมโหราฬที่โถงล็อบบี้ ห้องอาหารสุดอลังการ ลานพักที่ตกแต่งดังพระราชวังของมหาราชา … ซึ่งหลังจากเดินชมทั่วโรงแรม ฉันบอกได้เลยว่า เจ้าของโรงแรมนี้ ใส่ใจทุกรายละเอียดอย่างแท้จริง และนี่คงเป็นรักแท้ของเขาเช่นกัน
Tajmasago ตั้งอยู่ใน District 7 หรือ Phu My Hung เป็นเขตที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในเวียดนาม ย่านนี้เปรียบได้ดังทองหล่อของกรุงเทพ หรือถ้าจะพูดให้เวอร์กว่านั้น ที่นี่ก็คงเหมือนดังเบเวอร์รี่ฮิลล์ของอเมริกา เพราะฉันเห็นรถยนต์หรูหราวิ่งขวักไขว่ไปมาบนท้องถนน ตึกอาคารก็ล้วนสวยทันสมัย สะอาดสะอ้าน ดูแล้วไม่เหมือนเวียดนามที่คุ้นตาเลยค่ะ
โถงล็อบบี้
บรรยากาศด้านหน้าของโรงแรม
ห้องพัก และลานพักหน้าห้อง
Tajmasago มีห้องพักทั้งหมด 19 ห้องเท่านั้นค่ะ แบ่งประเภทเป็น Deluxe, Twin, Premiere และ President Suite ฉันเข้าพักที่ห้อง 017 หรือห้อง Deluxe Room ที่หันหน้าเข้าแม่น้ำ
หน้าห้องจะมีเฉลียงขนาดเล็กให้ออกไปยืนสูดอากาศสดๆของเมือง และชมแม่น้ำที่ไหลผ่านตรงหน้าก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเลสาบปลายทาง ซึ่งฉันจะเล่าถึงทะเลสาบนี้ให้ฟังตอนในตอนหลังค่ะ
เตียงนั่งเล่นหน้าห้องพัก
โถงบันไดที่รอบผนังติดปูนพลาสเตอร์ลวดลายหรูหรา พาเราขึ้นมาที่ชั้นสองของโรงแรม
Layout ของห้องพักเป็นแนวยาวสี่เหลี่ยมผืนผ้า ... ทันทีที่เปิดประตูบานคู่ฉลุลวดลายคล้ายลูกไม้สีขาวเข้ามา เราก็จะเจอเข้ากับโถงรับแขกขนาดเล็กที่ซ้ายมือเป็นโต๊ะทำงาน และขวามือเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง
ประตูทางเข้าห้องพักบานคู่ แกะสลักสวยงาม
โถงนี้มีโต๊ะเครื่องแป้ง และโต๊ะทำงาน ตั้งพิงกำแพงไว้
การจะเดินไปสู่ห้องนอน เราต้องเดินผ่านทางแยกซ้ายและขวา ซึ่งพื้นที่ระหว่างทางเดินถูกปรับให้เป็นตู้เสื้อผ้า ตู้เย็น และที่เก็บของสัมภาระ
ชุดน้ำชาของ Versace
พื้นที่ตรงกลางห้อง เป็นที่ตั้งของห้องน้ำขนาดใหญ่ ทั้งห้องปูพื้นและกำแพงด้วยกระเบื้องสีดำขลับ ตัดกับสีขาวของอ่างน้ำและอ่างล้างหน้า พื้นที่ด้านซ้ายมือของห้องน้ำ เป็นอ่างล้างหน้าและห้องสุขา ส่วนพื้นที่ด้านขวา ถูกยกสูงและตั้งอ่างอาบน้ำหรูหรา ที่ล้วนให้ความรู้สึกเหมือนมหาราชาขึ้นมาจริงๆ
ส่วนห้องนอนนั้นตั้งอยู่ปลายสุดของเลย์เอ้าท์ ตรงกลางห้องเป็นเตียงนอนไม้สีขาว สี่เสา ประดับด้วยโต๊ะข้างเตียง และโคมไฟสีขาว ดูสะอาดตา ผ้าปูที่นอนนั้นก็นุ่มสบาย หลับสนิททั้งราตรีกาลค่ะ
Welcome Drink สดชื่นสบายใจ
กระจกบานใหญ่ของห้อง เปิดไปสู่เฉลียงขนาดเล็กให้ยืนชมวิวของสระว่ายน้ำ และแนวป่าริมแม่น้ำด้านหน้า
วิวสระว่ายน้ำจากเฉลียงห้อง
วิวของแม้น้ำ และแนวไม้เขียวขจี
ห้อง Presidential Suite
ห้องนี้มีข้อติอยู่ 3 ประการ
- สัญญานไวไฟช้า ซึ่งอาจเกิดขึ้นเพราะห้องพักตั้งอยู่ริมสุดของอาคาร สัญญานคลืบคลานมาไม่ถึง
- เมื่อมีพนักงานมาให้บริการที่หน้าห้อง ฉันแทบไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูหรือเสียงเรียก เพราะระยะทางระหว่างประตูและห้องนอนนั้นไกลกัน แถมยังมีห้องน้ำคั้นทำให้เสียงเรียกเบามากจนแทบไม่ได้ยิน
- แอร์ที่เย็นช้า และไม่เย็นฉ่ำ คงเพราะเพดานของห้องที่สูงกว่า 3.5 เมตร จึงทำให้ต้องรอเกือบชั่วโมงกว่าจะได้ไอเย็นดังที่ต้องการ
สระว่ายน้ำ และบริเวณรอบๆ
สระว่ายน้ำสีฟ้าใส และพื้นตารางหมากรุก เป็นดีไซน์ที่ตัดกันกับอาคารอย่างเห็นได้ชัด ฉันไม่ได้ลงว่าย แต่ได้ไปเดินเล่นอยู่ริมสระ ชมการตกแต่งรอบๆ และถ่ายรูปที่ละนิดๆ
ห้องอาหาร และบาร์
บาร์
รอบๆโรงแรม
อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ต้นว่า Tajmasago ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมือง หรือ District 1 พอสมควร กิจกรรมรอบๆโรงแรมจึงช่วยให้คลายเบื่อไปได้บ้าง และกิจกรรมแรกเป็นการนวดฉบับเวียดนาม ซึ่งข้างๆโรงแรมเป็นที่ตั้งของร้านนวด Anna ที่สะอาดสะอ้าน ห้องหับระดับสี่ดาว บริการดี และนวดได้เยี่ยมไม่ต่างจากเวอร์ชั่นของไทยเลยค่ะ
กิจกรรมที่สองเป็นการแกว่งแขนเดินเล่นริมทะเลสาบขนาดใหญ่ ที่จะคราคร่ำไปด้วยชาวเวียดนามยามค่ำคืน สะพานโค้งรูปทรงทันสมัยที่ข้ามทะเลสาบ กลายเป็นจุดถ่ายรูปของหนุ่มสาว และครอบครัวชาวเวียดนาม
และกิจกรรมอันดับสาม เป็นการช้อปปิ้งที่ศูนย์การค้า The Crescent Mall ซึ่งมีร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ที่วางขายขนมปังบาเก็ตอร่อย และเบียร์เวียดนามหลากชนิดให้ลอง
Cham Cham ร้านอาหารสวยข้างๆโรงแรม
การบริการ
พนักงานที่นี่ตั้งใจให้บริการกันทุกคนค่ะ แต่ฝีมือยังไม่ชำนาญเหมือนมืออาชีพดังโรงแรมห้าดาว ภาษาอังกฤษสื่อสารกันได้ในขั้นพื้นฐาน แต่ถ้าขอบริการที่สับส้อนขึ้นมานิด เช่นมีปอกผลไม้ หรือคำแนะนำร้านอาหาร ก็ต้องใช้ภาษาใบ้สื่อสารประกอบด้วยค่ะ^^
บทสรุป
ฉันให้คะแนนโรงแรมนี้ 3.5/5 ดาวค่ะ โรงแรมสวย อยู่สบาย และให้อารมณ์ต่างจากโรงแรมทั่วไป เหมาะกับการถ่ายรูปและความทรงจำดีๆ แต่การบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย ยังไม่พร้อมนัก ซึ่งถ้าโรงแรมปรับปรุงได้ในจุดนี้ ฉันมั่นใจว่า 5/5 คงไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ
จูน ศศิวิมล : Thaifootprint.com
ที่ตั้ง 06 Phan Van Chuong, Phu My Hung, District 7
การเดินทางเข้าเมืองใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ค่าแท็กซี่ประมาณ 130,000-150,000 ดองต่อเที่ยว โรงแรมนี้เป็นบูติกขนาดเล็ก แท็กซี่อาจไม่รู้ที่ตั้งชัดเจน จึงควรติดนามบัตรของโรงแรมไปด้วยทุก ครั้งค่ะ
ทิปจองห้องพัก แนะนำให้เน้นกับโรงแรมว่า ขอห้องที่หันหน้าเข้าแม่น้ำ เพราะหากได้ห้องที่หันเข้าถนน จะได้ยินเสียงรถดังตลอดทั้งคืนค่ะ
โทรศัพท์ 08-5411-6789
ราคาห้องพัก 5,000-7,000 บาท