26 ภาพล่าสุดจาก " Paris " ... กับข้อความที่เธออาจจะอยากบอกกับคนทั้งโลกว่า " I'm fine .. thank you " [สองเท้า-เกาโลก]
เมื่อวันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2015 ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกลางกรุงปารีส ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด จนทำให้หลายๆ คนเป็นห่วงสถานการณ์ของปารีสและประเทศฝรั่งเศส รวมไปถึงประเทศอื่นๆ ในแถบยุโรป
ข่าวต่างๆ นั้นค่อนข้างดูน่ากลัวพอสมควรกับคนที่มีแพลนจะไปเยือนปารีสช่วงนี้ …. เช่นเดียวกับที่ผมต้องตัดสินใจว่า จะ “ หยุด “ หรือ “ ไปต่อ “ ดี
จากวันแรกของการล่าฝัน จนมาถึงวันที่ผมกำลังนั่งเขียนรีวิวนี้อยู่ที่กรุงปารีสใกล้ๆกับหอไอเฟลก็ล่วงเลยมา 70 วันแล้ว ถือว่าเป็นการเดินทางที่ยาวนานที่สุดในชีวิต และถูกจารึกลงในพงศาวดารส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อย โดยผมเพิ่งจองตั๋วเครื่องบินเข้าปารีสก่อนเหตุเการณ์ประมาณ 5 วัน ซึ่งก่อนหน้าที่จะเข้าปารีส ผมอยู่ที่สเปน ช่วงระหว่างลั่นล้าอยู่นั้นก็เปิดเนทอ่านข่าวไปเรื่อยๆ พอทราบเรื่องก็แทบช็อค ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์นี้อีกครั้งตรงนี้ครับ
ผมครุ่นคิดอยู่นานว่าจะเข้าปารีสตามแพลน หรือจะย้ายไปที่อื่นก่อนดี เพราะจริงๆ ผมก็เคยไปมาแล้วครั้งนึง แต่ไม่รู้ทำไม ผมรู้สึกว่า ผมมีความเชื่อมั่นในปารีส เชื่อมั่นในประเทศฝรั่งเศส รวมถึงคนทุกคนว่าจะสามารถรับมือกับเหตุการณ์นี้ได้ เมื่อหัวใจนำไป ร่างกายมันก็เดินตาม
เมื่อมาถึงปารีส และได้ไปสัมผัสตามจุดต่างๆ กับมุมมองของนักเดินทาง ผมก็รู้สึกว่า ปารีสกำลังสื่อสารบางอย่างให้กับคนทั้งโลกที่เป็นห่วงได้รับรู้ว่า
“ I’m fine ….thank you ^^ “
กระทู้นี้ผมขอนำ 26 ภาพสดๆ และความรู้สึกต่างๆ ที่ผมได้สัมผัสปารีสเมื่อวันที่ 18 – 19 Nov 2015 หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้รับรู้กันครับ น่าจะมีประโยชน์สำหรับใครที่จะมาช่วงนี้ … นี่คือภาพถ่ายและบทความจากมุมมองของนักเดินทางคนนึงที่กำลังหายใจอยู่ภายใต้เมืองในดวงใจของใครหลายคน … Paris
ปล.หากถูกใจ ฝากโหวต แชร์ด้วยนะครับ อยากให้ทุกคนได้เห็นภาพเมืองนี้ ในวันนี้ ในอีกมุมมองนึง ขอบคุณครับ
อุปกรณ์ที่ใช้
กล้อง Nikon D750
เลนส์ของ Nikon ทั้งหมดครับ
- เลนส์ Fix 58 , F1.4
- เลนส์ Wide 16-35 , F4
- เลนส์ Tele 70-200 , F2.8
สามารถอัพเดทติดตามเรื่องราวการเดินทางและข้อมูลดีๆ ได้ทาง Fanpage ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/scratchdaworld
------------------------------------------------------------------------------------
ก้าวแรกที่เจ้าวิหกปีกเหล็กลงจอดที่สนามบิน Paris beauvais เราก็ได้เห็นความเข้มงวดของการตรวจตรา และการรักษาความปลอดภัย ถึงแม้ที่นี่จะเป็นสนามบินเล็ก และห่างจากตัวเมืองปารีสพอสมควร แต่ก็ได้รับการคุ้มครองตั้งแต่การตรวจพาสปอร์ตกันอย่างเข้มข้น ซึ่งโดยปกติแล้ว ส่วนใหญ่เครื่องบินที่บินมาจากประเทศในกลุ่มเชงเก้น จะไม่ตรวจกันเข้มข้นแบบนี้
พาสปอร์ตชั่วคราว 1 ปีของผม ที่ออกและเขียนมือโดยกงสุลไทยในกรุงปักกิ่งได้โดนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มงวด … พอผ่านเข้าไป ก็จะเห็นทหารถือปีนรูปร่างใหญ่โตคอยดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
ชีวิตของคนเรานั้นล้วนเคยผ่านเรื่องร้ายๆ กันมาทั้งนั้น …
บางครั้งก็เหมือนกับช่วงเวลาที่ท้องฟ้าไร้แสงตะวัน แต่ก็ยังคงเต็มไปด้วยความหวังเสมอ
สถานที่ : ชั้นดาดฟ้าของ gallery lafayette ( ขึ้นฟรี ) … มีการตรวจกระเป่าและเสื้อทุกคนอย่างละเอียดก่อนเข้าห้าง
และวันใดเมื่อเราสามารถก้าวผ่านเรื่องเหล่านั้นไปได้ … มันจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น
เช่นเดียวกับท้องฟ้าที่มักจะโดนฝนสาดลงมา โดยที่ไม่มีทางรู้เวลาได้เลย ว่าเมื่อไรฝนจะร่ำลาไป …
แต่เมื่อฝนซาเมื่อไหร่ ฟ้าหลังฝนก็มักจะสดใสกว่าเดิมเสมอ
ในช่วงเวลานี้ สถานที่สำคัญได้เปิดทำการตามปกติหมดแล้ว
ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว สำนักงาน โรงเรียน ทุกอย่างเริ่มกลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง หลังจากปิดมาประมาณ 3 วัน
ชิงช้าที่เคยหยุดนิ่ง ได้กลับมาวิ่งวนบนฟ้าเป็นวงกลมอย่างที่เคย
บรรยากาศที่คุ้นเคยก็กำลังวิ่งตามมา เหมือนทุกอย่างได้วิ่งตามกัน บนเส้นขนานของคำว่า ” เวลา ”
ชิงช้าสววรคฺกับเข็มนาฬิกาเหมือนกันตรงที่เดินทางเป็นวงกลม แต่ต่างกันตรงที่อย่างนึงหยุดได้ แต่อีกอย่างไม่มีวันหยุด ….
จึงทำให้ชีวิตเราไม่เคยหยุดเดิน เพื่อที่จะวิ่งตามเข็มนาฬิกาให้ทัน
ปารีสในวันนี้ก็เช่นกัน เธอกำลังกลับมาสู่เส้นขนานของเวลาอย่างที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ดี … ความไม่ประมาทเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ไม่ว่าผมจะไปอยู่ตรงไหน ทั้งสถานที่ระดับโลกอย่าง พิพิธภัณฑ์ louvre , Eiffel
หรือแม้กระทั่งข้างถนน บ้านคนเดินดิน ก็จะพบเห็นพี่ทหารมาดูแลความปลอดภัยให้เสมอ
การเดินทางในปารีสช่วงนี้ อาจจะทำให้เราคลายกังวลเรื่องโจร หรือพวกล้วงกระเป๋าได้พอสมควร
เพราะทหาร ตำรวจอยู่กันอย่างพร้อมเพรียงในทุกจุดที่พวกมิจฉาชีพใช้ทำมาหากินอย่างทุจริต!
ยิ่งเข้าใกล้ ก็ยิ่งสบายใจ … เพราะความเป็นไปที่คุ้นตาเริ่มกลับมาเหมือนเดิม
ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตา ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคักแม้ในวันฝนพรำ
ทุกจุดมีการตรวจตรากันอย่างแข็งขันทั้งห้าง ร้านค้า
หรือแม้กระทั่งร้านอาหารหลายๆร้าน รวมไปถึงทุกจุดท่องเที่ยวสำคัญและไม่สำคัญ
สถานที่ : โบสถ์ notre dame ในวันฝนพรำ
ผมมีโอกาสได้ขึ้นไปจุดชมวิวที่ montparnasse tower เพื่อที่จะไปชมแสงสุดท้ายของวันที่กำลังจะหมดไป
หากเป็นไปได้ก็อยากให้เรื่องร้ายๆ มันหายไปพร้อมกับแสงในวันนั้น และไม่มีวันกลับมาอีก
เพราะมันคงดีกว่ามาก หากเมืองที่สวยงามแบบนี้ได้อยู่อย่างสงบสุข ไม่มีอะไรมาปลุกความทุกข์ขึ้นมา
" ช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ คือความทรงจำที่ล้ำค่าที่สุด "
และผมเชื่อว่าเธอจะกลับมายืนอย่างมั่นคงได้อีกครั้งในเร็ววัน …..
นอกจากช่วงกลางวันที่คึกคักแล้ว .. ตอนกลางคืนก็ไม่แพ้กัน
ทั้งรถราที่มากมาย บรรยากาศสองข้างทางของถนน Champ elysees ไปจนถึงประตูชัย
ได้กลับมาสดใสอีกครั้ง ร้านรวงต่างๆ พร้อมใจกันเปิดไฟสว่างไสว บ้างก็มีเพลงบรรเลง บ้างก็เริ่มเปิดเพลงคริสต์มาส
ผมอยู่ข้างนอกกันจนถึงสามทุ่มก่อนจะกลับที่พัก ก็ได้ซึมซับบรรยากาศและความมีชีวิตชีวาอย่างเต็มเปี่ยม
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใส ….
ผมเริ่มเช้าวันใหม่กับการดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ Montmartre อีกจุดชมวิวยอดนิยมในกรุงปารีส
ถึงแม้ผมจะมาแต่เช้า ยังไม่มีร้านอะไรเปิด แต่ก็มีคนที่มาก่อนเสมอ … หน่วยรักษาความปลอดภัย
รู้สึกอุ่นใจเมื่อมีพวกท่านอยู่ใกล้ๆ … ไม่ใช่แค่ผมที่ไปเร็ว
ยังมีนักท่องเที่ยว ช่างภาพอีกหลายคนที่มารอเก็บแสงแรกด้วยกัน
จุดเดียวกัน อาจจะคนละมุม แต่สิ่งหนึ่งที่เราหวังเหมือนกันคือ เราอยากเห็นปารีสยิ้มได้กว้างๆ เช่นเดียวกับท้องฟ้าในวันนี้
” เธอกำลังจะยิ้ม …. ” ( สิ่งที่คุณป้าในรูปกำลังคิดเหมือนกับผม )
เธอยิ้มได้กว้างจิงงงด้วยย !!
และเมื่อเธอยิ้ม … คนที่อยู่ตรงนั้น และคนทั้งโลก ก็จะยิ้มไปพร้อมๆ กับเธอ ” ปารีส ” ….
สวัสดีหลอดไฟของโลก
ผ่านไปอีกวัน … ทุกสิ่งเริ่มเข้าที่ ทุกอย่างเริ่มเข้าที เรื่องราวดีๆ ก็จะเกิดขึ้นตามมา
บรรยากาศถนนกลางเมืองที่แสนจะคึกคัก ความเร่งรีบในยามเช้า
ร้านกาแฟที่ไม่เงียบเหงาอีกต่อไป ทุกอย่างได้กลับมารวมใจกันอีกครั้ง เพื่อเติมเต็มความสุขให้กันและกัน ..
ไม่มีการแบ่งชนชั้น สีผิว หรือฐานะ ในการร่วมกันสร้างความสุขให้กลับมาสู่เมือง ….
กลางจตุรัส place de la concorde ก็มีนักท่องเที่ยวทั้งคู่รัก เพื่อนฝูง คนแก่หรือเด็ก
ทัวร์จีน ทัวร์เกาหลีแวะเวียนมาสร้างความสุขและความคึกคักให้กับที่นี่อย่างต่อเนื่อง
หากทุกคนรวมใจกันเหมือนบรรดาแม่กุญแจที่พร้อมใจกันมาร้อยเรียงแน่นเอี้ยดบนสะพานแบบนี้ มันก็จะมีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้น …
นอกจากกุญแจคูรักแล้ว ก็น่าจะมีกุญแจแห่งความสงบสุขที่ทุกคนบนโลกเอามาคล้องในจุดๆเดียว ที่มีเป้าหมายเดียวกันบ้างก็คงดีไม่น้อย
ฟ้าหลังฝนเริ่มกลับมาสดใส …
เช่นเดียวกับปารีสในวันนี้ ชีวิตทุกคนยังคงต้องดำเนินไป
ทุกเพศทุกวัยได้ออกมาใช้ชีวิตกันตามปกติ พร้อมกับแนบรอยยิ้มและความสนุกติดตัวกันมาจากที่บ้าน
เด็กกลุ่มนี้เล่นกันอย่างสนุกแบบสุดขีดบริเวณสนามหญ้าใกล้ๆ กับหอไอเฟล
สวยงามตามท้องเรื่อง กับหอไอเฟลในวันฟ้าใส แสงสวย
และอบอวลไปด้วยความสุขของบรรยากาศรอบข้าง …
” ไม่ว่าเธอจะเจ็บบ้างในบางที ก้ยังมีคนที่ห่วงใยเธอเสมอ ” … ภาพนี้อาจจะกำลังบอกอย่างนั้น
และบางครั้ง ก็อาจจะไม่ใช่แค่มนุษย์ … แต่รวมไปถึงเพื่อนร่วมโลกของเราด้วยเช่นกัน
หากมันพูดได้ เข้าใจความเป็นไป ก็คงมีความรู้สึกรู้ใจไม่ต่างกัน
และยังไงก็ตาม … เธอจะไม่มีวันเดินลำพัง
เพราะเราจะวิ่งขนานไปด้วยกัน …. คอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ
พลังใจ .. บางทีก็สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด หากใครทำอะไรได้ ก็ช่วยกันทำ
เดียวกับร้านดังร้านนี้ ที่เปิดไฟเป็นสีของธงชาติฝรั่งเศส
และอีกหลายๆ ร้านก็ร่วมใจทำเพื่อสร้างพลังใจให้กับผู้คนในกรุงปารีส
จุดศูนย์กลางของเมืองอย่างหอไอเฟลก็ได้มีการฉายไฟเป็นธงชาติฝรั่งเศสเช่นกัน …
สวยงามมากครับ ทั้งสิ่งที่เห็น และคุณค่าทางใจ ในช่วงที่ผมไปนั้น คนเยอะมาก ทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น
บรรยากาศในตอนนั้น ผมรับรู้ได้ถึงความสุข และความมีชีวิตชีวาของมหานครแห่งนี้
ที่กลับมาส่องแสงสว่างอีกครั้ง และพร้อมจะตะโกนบอกกับโลกดังๆ ว่า
” I’m fine … thank you ”
ซึงปารีสอาจจะไม่ได้กล่าวไว้
แต่มันคือความรู้สึกของผมจากที่ได้เห็นว่า ตอนนี้เธอสบายดี และกำลังจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
ขอให้โลกสงบสุข …. ดีใจที่ได้เจอกันอีก ” Paris , je t’aime ”
ขอบคุณครับ
สามารถอัพเดทติดตามเรื่องราวการเดินทางและข้อมูลดีๆ ได้ทาง Fanpage ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/scratchdaworld