ส่งความสุข ผ่านบรรยากาศ " Christmas " จากเมือง Dubrovnik ประเทศโครเอเชีย เมื่อวันที่ 6 Dec 15 !
สิ้นเดือน...อาจจะเหมือนสิ้นใจ
แต่สิ้นปีเมื่อไหร่ ... โดนใจเต็มๆ !
แน่นอนว่าส่วนผสมแห่งความสุขเหล่านั้น ส่วนหนึ่งมาจากคำสั้นๆ สามพยางค์ที่เราเรียกมันว่า " บรรยากาศ " .. ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ สีสัน แสงไฟ ที่พร้อมใจกันจัดเต็ม วันหยุดก็เยอะ วันเลอะเทอะก็มา เป็นช่วงเวลาที่ความสุขเขย่งก้าวกระโดด กระจายตัวกันไปสู่ทั่วทุกพื้นที่
เช่นเดียวกับตอนนี้ เวลานี้ วันที่ 6 เดือน 12 น้ำคะนองเต็มตลิ่ง ..... เดี๋ยวๆ นั่นลอยกระทง ! (มึงก็กล้าเล่นเนอะ) เอาเป็นว่าในตอนนี้วันที่ 6 เดือน 12 หลายๆ สถานที่ท่องเที่ยว จากทั่วทุกมุมโลก ได้ปรับโหมดตัวเองเข้าสู่บรรยากาศที่เรียกว่า " Christmas เป็นที่เรียบร้อย
รวมไปถึงที่นี่.... " Dubrovnik " ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก พะเอกมาดเท่ห์จากประเทศโครเอเชีย หลายๆ คนน่าจะรู้จักเมืองนี้ดี แต่ก็อาจจะมีหลายๆ คนที่ยังไม่เคยเห็นบรรยากาศ Christmas ของที่นี่ ว่าเป็นยังไง จัดกันตรงไหน มีอะไรมุ้งมิ้งบ้าง ... วันนี้ผมเอาภาพรวมของบรรยากาศที่นี่มาฝากครับ
by สองเท้า - เกาโลก
Fanpage : https://www.facebook.com/scratchdaworld
อุปกรณ์ที่ใช้
กล้อง Nikon D750
เลนส์ของ Nikon ทั้งหมดครับ
- เลนส์ Fix 58 , F1.4
- เลนส์ Wide 16-35 , F4
- เลนส์ Tele 70-200 , F2.8
แต่บอกไว้ก่อนน ว่านี่ไม่ใช่รีวิว ดังนั้นบรรยากาศทั้งหมดจะมีแค่จุดที่จัด Christmas นะครับ ซึ่งถือว่าเป็นบรรยากาศสิ้นปีแบบเต็มๆ ครั้งแรกของผมในทริปนี้ ความสุขที่มีมันเลยล้น จนต้องเอามาแบ่งปันให้กับทุกคน มุมเมิมอะไรอาจจะไม่ได้จัด ชิลลๆ ส่วนวิวสุดอลังการ งานสร้างที่รับประกันคุณภาพนี่รอจัดเต็มกันในรีวิวมหากาพย์ได้เลย รับรอง แน่น! 555 ..
สำหรับบรรยากาศแห่งความสุขของที่นี่จะจัดกันตรงถนนเส้นหลักในเขตเมืองเก่า ที่เรียกกันว่า " Placa (Stradun) " ซึ่งทอดยาวจากประตูหน้า มาจนสุดด้านหลังตรงประตูที่จะออกไปทางท่าเรือ
หลังสะบัดเท้า เข้าประตูมาก็จะพบกับถนนเส้นหลักที่สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านค้า ประดับประดาไปด้วยโคมไฟและชุดแต่งคริสมาสตร์พาดจากอาคารฝั่งซ้าย โยกย้ายมาถึงฝั่งขวา
สัมผัสแรกที่ผมมาเห็นบรรยากาศแบบนี้ ถึงแม้คนจะยังไม่มี แต่นาทีชีวิตตอนนั้นก็มีแต่รอยยิ้ม ผมรู้สึกได้ถึงความคึกคัก ที่กำลังจะตามมาในช่วงเย็นๆ และตอนค่ำ ซึ่งหลายๆ คนอาจจะเคยเห็นบรรยากาศ X'mas ในเมืองใหญ่ๆ กันมาบ้างแล้ว รวมไปถึงผม แต่บรรยากาศในเมืองเก่าเล็กๆ แต่ชื่อเสียงไม่เล็กนี่ มันก็คงมีความคูลในแบบของมันไม่น้อยแน่นอน
รอยยิ้มที่ซื้อไม่ได้ และคงไม่มีใครซื้อ ... แต่เราสามารถหาได้ง่ายๆ ด้วยการยื่นยิ้มให้ไป เดี๋ยวใครต่อใคร ก็ยิ้มกลับมา
ระหว่างเดินฟินกับบรรยากาศ เสียงเพลงคริสมาสต์ที่คุ้นหูก็ดังผ่านเข้ามา แล้วก็ไม่วายทิ้งความสุขที่คุ้นเคยเอาไว้... สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อมาเสมอคือ " เสียงเพลง " มันมีพลังบางอย่างที่ควบคุมความรู้สึก และอารมณ์ของคนเราได้ และเสียงเพลงคริสมาสทั้งหลาย ที่เปิดในงานเทศกาลแบบนี้ มันมักจะส่งผลกับอารมณ์บวกเป็นอย่างมาก .... วันนี้ผมก็เลยสุข ++++
ด้านท้ายของเมืองเก่า จะมีต้นคริสมาตรืขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่ ไม่เล็ก ตั้งตระหง่านสร้างบรรยากาศ รวมไปถึงนักเดินทางจากแดนสยาม ที่ยืนป่วนคนผ่านไปมาเป็นระยะๆ 555
ผ่านไปสักพัก ก็มีทีมงานรถโบราณขับรถมาจอดท่ามกลางความคึกคักของนักเดินทาง นักท่องเที่ยวทั้งหลาย พอผมลองมองไปที่คนขับดรถคันสีแดง ก็งงเล็กน้อย ว่าสรุปพี่เค้าจะเป็นลุงซานต้าหรือนักบุญกันแน่ 5555 เพราะชุดนี่นักบุญเลย แต่เป็นสีแดง และมีสีขาวคล้ายๆ ลุงซานต้า เครายาวเฟี้ยวฟ้าวได้อีก
มาจอดโชว์หล่อกันพอหอมปากหอมคอ ไม่นานก็จากไป
และแน่นอนว่ากลุ่มบุคคลหนึ่ง ที่มีความสุขกว่าใครๆ คงหนีไม่พ้น คนที่ถือลูกโป่งเด็กหญิง กับไอ้ด่างสองอันนี้
ก็อย่างว่า บรรยากาศแบบนี้จะให้ทุกข์ได้ยังไง ... จริงไหม ?
ในถนนสั้นๆ เส้นนี้ ยังคงมีสีสันมาอย่างต่อเนื่องง ... วงดุริยางค์ก็มา แต่พี่เค้าจะบรรเลงเป็นจุดๆ เดี๋ยวหยุด เดี๋ยวเล่น เหมือนมาเล่นๆ แต่ผมไม่ได้มาเล่นน้า จะฟังๆๆ ><
หลังจากพระอาทิตย์จากไป แสงไฟก็เข้ามาแทน ... ทั้งสองสิ่งให้ความสว่างเหมือนกัน สิ่งหนึ่งมาจากมนุษย์ แต่อีกสิ่งมาจากธรรมชาติ ... และภาพที่เห็นนี้ มีหิมะตก !!! แต่หิมะเหล่านี้ ก็มาจากมือมนุษย์เช่นกัน โดยกำลังของลุงสองคนที่ตั้งป้อมยิงสายฝนละอองโฟมมาจากด้านบน เพื่อสร้างความบันเทิงให้และความสนุกสนานให้กับใครบางคน ...
ใครบางคนเหล่านั้น ... คือหนูน้อยเหล่านี้ ที่แค่ได้ยืนมองความสุขของพวกเค้า ผมก็สุขตามไปแบบไม่รู้ตัว ... จะว่าไปมันก็คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว ที่เราจะกลับไปมีความรู้สึกแบบนั้น " ความสดใสที่บริสุทธ์ " ... แต่มันก็เป้นเรื่องดี ที่เรายังสามารถส่งผ่านความสุขถึงกันและกันได้
แสงไฟจากต้นคริสมาสต์ที่กำลังสว่างไสว เช่นเดียวกับแสงในหัวใจของใครหลายคน กับช่วงเวลาที่บางอย่างกำลังจะผ่านไป สิ่งใหม่ๆ กำลังจะผ่านเข้ามา .. ไม่ใช่แค่ปี ไม่ใช่แค่เดือน ... แต่มันคือการเดินทางผ่านช่วงเวลา ที่ทุกคนให้คำนิยามกับมันว่า " ปีใหม่ "
จริงๆ มันก็เป็นแค่ moment หนึ่งในชีวิต เราไม่ต้องมีความสุขแค่วันนี้ เราสามารถสุขได้ทุกวัน แต่สิ่งสำคัญและสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้คือการที่ " เราสามารถมีความสุขพร้อมๆกัน " ได้
ไม่ว่าเราจะมาจากที่ใด อายุเท่าไหร่ ชายหรือหญิงก็ไม่สำคัญอะไร .... จริงมั้ย เจ้าหนู ?
ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพื้นที่ตรงนั้น มีกี่ชาติ กี่เผ่า กี่เหล่า กี่ทัพ แต่ที่แน่ๆ .... นี่คือ " กองทัพแห่งความสุขประจำปี " ที่กำลังยกพลมาตีเมือง Dubrovnik อยู่ ณ.บัดนั้น
บริเวณรอบๆ มีทั้งร้านขายไส้กรอกขนมปัง กาแฟ เบียร์ ไวน์ ขนมต่างๆ ของคาว และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งร้านค้าพวกนี้ ผมว่าเค้าไม่ได้ขายแค่เครื่องหรือของกินนะ ... แต่มันถูกเพิ่มมูลค่าไปด้วย เพราะผู้ซื้อจะได้อารมณ์ ได้บรรยากาศมาเป็นของแถม !
และแน่นอนว่าการนั่งชิลๆ จิบเครื่องดิม กินขนมกันบริเวณโต๊ะเล็กๆ กลางถนนท่ามกลางความคึกคัก มันก็เป้นส่วนประกอบที่สำคัญของบรรยากาศแบบนี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก้ตาม โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวนี่พลาดไม่ได้เลย
การมาคนเดียวแล้วเจอบรรยากาศแบบนี้ ก็มีแอบเหงา แต่ก็ไม่ได้เศร้าอะไร เพราะแค่ได้เห็นโลก แค่ได้เห็นรอยยิ้มและซึมซับบรรยากาศรอบข้าง ผมก็มีความสุขแล้ว
เพราะความเหงา มันทำอะไรความสุขไม่ได้หรอก !
แต่บางทีมองผู้คน ก็เจอแต่คนมีคู่ ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่
ก็เลยหันไปมองสิ่งรอบข้างมั่งดีกว่าา .... หลายๆ ร้านมีการนำสินค้าของเทศกาลมาตั้งโชว์บ้าง ขายบ้าง ส่วนผมก็ชอปจนเพลิน ... " ชอปด้วยสายตา ซื้อด้วยหัวใจ " window shopping ต่อไปจ้า ทริปนี้งบบานปลายแล้ว 5555
บรรยากาศคึกคักกันไปเรื่อยๆ ... ความน่ารักของเทศกาลแบบนี้คือทุกคนเหมือนครอบครัวเดียวกัน แม้แต่เจ้าของที่พักผม ยังเอาไวน์มาให้ดื่มตั้งสามแก้ววว มึนไปเบาๆ 555
ตามร้านอาหารบางร้าน คนจะไม่เยอะ เพราะพวกเค้าจะไปเดินเล่น ไม่ก็ไปนั่งตามร้านแผงลอยเสียมากกว่า อารมณ์แบบเอาบรรยากาศอะไรแบบนี้
ท่ามกลางความคึกคัก ก็ยังมีบางมุมที่เงียบเหงา ... คล้ายๆ กับชีวิตหรือโลกของเรา ที่ไม่ได้มีแค่ด้านเดียว ขึ้นอยู่กับเราว่าจะมองมันแบบไหน เช่นภาพนี้ ถึงจะดูเหงา แต่ก็เต็มไปด้วยความสุข
นี่ก็เหงาแต่สุข .....
ไม่ใช่แค่คนนะที่มีคู่ ...
อีกมุมที่เหงาแต่สวย ข้างๆ ถนนเส้นหลัก
และในขณะที่หลายๆ คนกำลังอิ่มเอมกับบรรยากาศด้านนอก ก็มีบางคนที่ยังคงดำเนินชีวิตหาเลี้ยงตัวเองต่อไป
ว่าแต่ กระทู้นี้ มันเป็นวันคริสมาสต์ที่ไหนกันนะ ลืมมมมละ ><
ระหว่างที่เดินอยู่นั้น ผมก็เห็นป้ายโฆษณาว่า จะมีคอนเสิร์ตวงออเครสต้าให้ชมกันฟรีๆ ภายในโบสถ์ ด้วยอารมณ์ตอนนั้น กำลังอิ่มเอม หากปิดวันด้วยเสียงเพลงดีๆ ก็คงดีไม่น้อย
แต่มานึกย้อนดู .. ถึงแม้ผมจะเล่นดนตรี ฟังเพลงมาแยะ แต่ไม่ยักกะเคยสนใจที่จะอยากดูวงออเครสต้ากับเค้าเลย จนกระทั่งวันนี้ ที่อยากดู ก็เลยเข้าไปดู .... แวบแรกที่เข้าไป ผมรู้สึกขนลุกกับเสียงเครื่องดนตรีหลายชิ้นที่ก้องกังวาลและไพเราะมาก ยิ่งพอได้มองสีหน้า ท่าทางและอารมณ์ของทั้ง conductor และนักดนตรีด้วยแล้ว มันเหมือนผมกำลังถูกดูดด !!
จากที่ไม่เคยสนใจ ... วันนี้ได้ลองเปิดใจ ผมก็ถูกดูดด้วยเสียงเพลงของวงออเครสต้าไปถึงหนึ่งชั่วโมงแบบลืมดูเวลา !
ในการใช้ชีวิตหลายๆ เรื่อง บางครั้ง แค่เรา " เปิด " โลกก็ " เปลี่ยน " ประโยคอันทรงพลังที่ไม่รู้ใครเป้นผู้บัญญัติไว้ก็ได้เข้าเวรมาในหัวผมทันที หลังจากฟังวงดนตรีวงนี้เสร็จ ... ชอบครับ
ขอบคุณที่ทุกท่าน ที่เปิดโลกอีกอย่างหนึ่งให้ผม ... ประทับใจ ปิดท้ายเมือง Dubrovnik อย่างสวยงามม
และผมก็ปิดท้ายค่ำคืนนี้ ไปด้วยของกินสายแมสสส " ไส้กรอกขนมปัง " เหงือกแทบพัง เพราะมันแข็งโป๊ก !! แล้วเจอกับมหากาพย์รีวิวของเมืองนี้กันอีกครั้ง จัดเต็มแน่นอน ^^
ขอบคุณทุกคนคร้าบบ แล้วพบกันใหม่ .. สวัสดี
by สองเท้า - เกาโลก
Fanpage : https://www.facebook.com/scratchdaworld
