HALLSTATT …. ” เมืองในฝัน ในวันที่ใช่ "

ออสเตรีย ยังคงเป็นประเทศที่ บรรจุ ไปด้วยเมืองที่สวยงามหลากอารมณ์ หลายเมือง ทั้งอารมณ์แบบคลาสสิค อย่าง Salzburg  และเมืองน่ารักกุ๊กกิ๊ก อย่าง Innsbruck  รวมไปถึงเมืองที่สุดแสนโรแมนติค อย่าง  “  Hallstatt “

by สองเท้า – เกาโลก : https://www.facebook.com/scratchdaworld

เมืองเล็กๆ น่ารัก น่าหยิก โรแมนติก โคตรคลิก เมืองนี้มีความสวยงามในทุกฤดู ให้อารมณ์ และ mood & tone แตกต่างกันไป  หน้าหนาวก็มีหิมะปกคลุม ดูโรแมนติค หน้าร้อนก็แสงแดดจัดๆสวยงาม หรือ จะ Autumn ก็มีใบไม้เปลี่ยนสี ให้เชยชม… งามทุกอณู โดดเด่นทุกฤดูจริงๆ 

มากกว่านั้น หากว่ากันตามหลักฮวงจุ้ยความเป็นเมืองสุดยอดโรแมนติคแล้วล่ะก็ เมืองนี้มันเอาไป 10 คะแนนเต็ม เพราะมีภูเขาล้อมรอบ มีแม่น้ำอยู่ด้านหน้า …… เดินเล่นไปๆมาๆ ชมวิว ถ่ายรูป ฟิน  สักพัก ดูนาฬิกา ……เห้ยย ต้องลากลับซะแล้ว ….

ไม่ชอบอารมณ์แบบนี้เลยครับ ขัดฟีลสุดๆ …. อยากให้เวลาหยุดลงตรงนั้น  จะได้ซึมซับความสุขของเมืองในฝันให้นานขึ้นไป อีก..เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้กลับมาอีกทีมั้ย…..

เมืองนี้ผมไปช่วงวันที่ 22 ธันวาคม ปี 2013 นี่เอง โดยนั่งเครื่องไปลงเวียนนา จากนั้น นั่งรถไฟไปที่ Salzburg ก่อน นอนที่นั่น แล้วอีกวันตื่นแต่เช้าเพื่อไป Hallstatt แบบเช้ามืด กลับ บ่ายแก่ๆ เพราะเวลาไม่มาก ใช้เวลาการเดินทางขาละ 2 – 3 ชม.ครับ  … หากใครมีเวลามากพอ  ขอร้องและได้โปรดค้างสักคืนเพื่อผมด้วย  ><

โดยเราสามารถเดินทางจากเวียนนา ไปเที่ยว Hallstatt เลย หรือจะ day trip จาก Salzburg ก็ไม่เลว สำหรับคนเวลาน้อย เพราะจะได้ไม่ต้องแบกของไปมา ถ้าต้องไป Salzburg อยู่แล้ว

การเดินทางจากทั้ง 2 เมือง  
1.จาก Salzburg นั้น ถ้าไปด้วยรถไฟ ก็ขึ้นจากสถานี Salzburg แล้วไปเปลี่ยนรถไฟที่สถานี Attnang-Puchheim แล้วจะตรงยาวไปลงที่สถานี Hallstatt ได้เลย แล้วข้ามเรือข้ามฟากไปเมือง Hallstatt ครับ จริงๆ รถบัสก็มี แต่ผมแนะนำเพราะคิดว่าน่าจะสะดวกกว่า … แล้วแต่มุมมองครับ ^^

2.จาก Vienna นั้นมีรถไฟตรงจากสถานี Westbannhof ไปที่ Hallstatt เลย
โดยตาราง และเรทของรถไฟออสเตรียต้องที่  http://www.oebb.at/en/

มหกรรมวีดีโอทริปยุโรป 19 วัน กับความยาว 30 นาที ในบรรยากาศสุดฟิน ตัดเอง ถ่ายเอง ฟินเอง เลยเอามาให้ฟินไปด้วยกัน ^^

ได้เวลาเริ่มความฟิน กับ one day trip ที่ Hallstatt

เราแหกขี้ตา ตื่นนอน กันตั้งแต่ ตี 4 ครึ่ง เพื่ออาบน้ำแต่งตัว ให้ทันรถไฟรอบ 6 โมงนิดๆ …

เหนื่อยก็จริง แต่พอคิดถึงสิ่งที่รออยู่แล้ว ความเหนื่อยมันก็เบือนหน้าหนีไปสะอย่างนั้น

“ ที่สำคัญ และ ย้ำตัวเองเสมอ คือ …. จุดหมายปลายทาง อาจจะสำคัญ …. แต่ระหว่างทางนั้นพลาดไม่ได้เช่นเดียวกัน …. ถ่างตาที่หนักสุดๆ มองดูวิวไปเรื่อยๆ ฟังเพลงชิลๆ  …. ควมสุขบางทีก็ง่ายแบบนี้แหละ “

แสง สี หิมะขาวโพลน กับ โทนที่โด๊นโดน … ไม่มีอะไรจะฟินไปกว่านี้ …

แม้ไม่ได้สัมผัส แต่รับรู้ได้ด้วยสายตา

เก็บมาเป็นความทรงจำ …อยากจะเพิ่มหน่วยความจำในสมองจริงๆ   แค่นี้มันไม่พอแล้วนะ !  ><

นี่คือรถไฟขบวนที่เรานั่งมา … ไม่รู้ว่ามันจะไปสุดที่ไหน

แต่ตอนนี้…ผมฟินนนสุดๆ ณ.จุดที่ยืน ตรงนี้ เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนเกาโลกแล้วคร้าบ

หลังจากมาถึงแล้ว … สถานีก็ปิด เรือก็ไม่เห็น มีแค่เรากะเหรี่ยงไทยส่งเข้าประกวด ผนวกกับ คู่รักไหหลำ ตัวแทนสายโรแมนติคจากประเทศจีน  ยืนงงด้วยกันว่า เกิดไรขึ้น ?

รอนานแล้ว ก็ยังไม่มา แต่เพราะรอนานความประทับใจจึงเกิดขึ้น….. เพราะความเป็นมิตรและนิสัยที่น่ารัก ของคนจีนสองคนนี้ ที่อาสามาช่วยถ่ายรูปหมู่ให้เราตลอด เม้ามอยชื่นชมประเทศเรา  แบ่งขนมให้เรากิน ( กำลังหิวด้วย ) และยังเรียกเราตอนเรือกำลังมา เพราะมัวแต่ถ่ายรูปกันอยู่ …

รอเรือกันประมาณชั่วโมงกว่าจะมา  … แต่เราก็ได้เรียนรู้ว่ามิตรภาพและน้ำใจของคนจีน ที่เราหลายๆท่านมักมองภาพลบเมื่อเจอทัวร์จีนหรือ นักท่องเที่ยวจีน นั้น   เราไม่สามารถเหมารวมได้ อาจจะมีหนึ่งในสิบ หนึ่งในร้อย หรือมากกว่านั้นที่เป็นคนน่ารัก…

อย่างน้อยๆ ตัวแทนจากจีนสองคน  ก็สร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตากะเหรี่ยงจากไทย 6 คนนี้ ..ฉนั้นเราอย่าน้อยหน้า ไปไหนมาไหน อย่าลืมสร้างภาพลักษณ์ให้กับชาติไทยด้วยการทำตัวน่ารักน่าหยิกกันด้วยครับ ^^

เพราะหนึ่งการกระทำที่ดี มันอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของชาติเราแบบประเมินค่ามิได้ จะน้อยจะมาก แต่ไม่ยากที่จะทำครับ ^^

“ มองออกไปตรงหน้า …. ผมรู้แล้วว่า  …… ฝันกำลังจะเป็นจริง กับเมืองในฝันที่เห็นรูปมานานแสนนาน ^^

ทีสถานีขายตั๋วตอนผมไปมันปิด  … เราเลยไปชำระเงินกันบนเรือเลย

เรือลำนี้เป้นเรือขนาดพอดี ไม่ใหญ่ ไม่เล็ก …เหมาะกับเมืองเล็กๆ ไม่ใหญ่ แต่หัวใจใหญ๊ ใหญ่ แบบนี้มาก ^^

ทะเลสาบสวยๆ มีภูเขาหิมะงามโอบกอด … ก็เหมือนผู้หญิงที่สวยอยู่แล้ว มาแต่งตัวสวย มันดูดียิ่งขึ้นไปอีก..

ยิ่งถ้าทะเลสาบสวยๆ มีภูเขาหิมะงามโอบกอด … แล้วยังมีหมู่บ้านน่ารักละก็ ..แปลว่าเจ๊แกจัดเต็มทั้งเครื่องแต่งกาย เสื้อผ้าหน้าผม เรียกได้ว่าเป๊ะ !

ปล่อยใจปล่อยกาย ผ่านอ้อมกอดของขุนเขา  ในฤดูหนาว และจะเหงามาก ถ้าไม่มีคู่เช่นกระผม

ไม่นาน ก็ถึงฝั่ง…ฝัน  และได้เวลาย่ำ เมืองใน…ฝันกันแล้ว

มารู้จักกับ Hallstatt ในภาคทฤษฎีสั้นๆ กันสักนิด ก่อนจะสัมผัสเค้าแบบภาคปฏิบัติ
ฮัลล์สตัท (Hallstatt) เมืองเล็ก ๆ ริมทะเลสาบ มีประชากรอาศัยอยู่เพียง 500 กว่าคนเท่านั้น เมืองนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่แคบ ๆ ริมทะเลสาบฮัลล์สตัทเทอร์(Hallstatter See) ถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาสูงชันเนื่องจากเนื้อที่ที่จำกัดบ้านเรือนในเมืองนี้ จึงต้องสร้างลดหลั่นเป็นชั้นๆตามแนวเขาริมทะเลสาบ

และยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ประเภท Historic Cultural Landscape เมื่อปี 1997 ซึ่งจัดเป็นประเภทของชุมชนที่มีการผสมผสานกันอย่างกลมกลืนของภูมิประเทศที่ สวยงามกับวัฒนธรรมที่เก่าแก่

และนี่คือสิ่งปลูกสร้างชนิดแรก ที่คุณจะได้เห็น หลังลงจากเรือมา ….

โบสถ์คริสต์ Chiestuskurche เป็นโบสถ์ประจำเมือง และยังเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้อีกด้วยครับ

ไม่ว่าคุณจะอยู่จุดชมวิวไหน เกือบทุกจุด โบสถ์นี้จะไปยืนหายใจรดต้นคออยู่เคียงข้างคุณเสมอ …

ทั้งเมืองถนนจะมีความกว้างไม่เกินจากนี้ครับ โดยประมาณ เดินเล่นได้เพลิน … ดูบ้านเมืองน่ารัก แต่ละหลังมีการตกแต่งกันอย่างน่าสนใจ และไม่มีใครเหมือน ^^

ใช้สองเท้า เดินเกาโลก กันไปเรื่อยๆ เหนื่อยๆ ก็ไม่พัก เพราะเราหลงรักเมืองนี้ ….

To Travel is to awaken …. การเดินทางมักจุดประกายบางอย่างให้คุณเสมอ ….

บางครั้งจุดหมาย อาจไม่ใช่สถานที่ … แต่อยู่ที่ตัวเรา

ระหว่างทอดน่อง มองไปเรื่อยๆ เริ่มรู้สึกเมื่อยคอ เมื่อค้นคว้าพฤติกรรมตัวเอง …

ก็ถึงบางอ้อ  เดินหันซ้ายหันขวา เหลียวบน  ลงล่าง แฉลบข้างตลอดเวลา  …คอตรูไปหมดแล้วว …..

แต่ดูวิวสิ จะให้มองแต่ทางตรงได้ไง … ในเมื่อซ้ายและขวามันสวยแบบนี้

มองข้างหลังบ้างบางที เผื่อจะพลาดอะไรดีดี จะได้ไหวตัวทัน ><

Wowwww !

คำอุทานคำแรกเมื่อเห็นสุดยอดวิวของมุมบังคับในฝัน ที่รอมานานกว่าจะได้พบกัน

ผมนี่ยืนสตั้น ซึมซับ แทบไม่ได้ขยับไปไหนเลย ประมาณ 10 นาทีได้

พยายามสูบ ดูดด ดื่ม ช่วงเวลาทั้งหมดตรงนั้นด้วยสัมผัสทั้ง 6 ให้มันลงผ่านเนื้อหนังไปสู่อวัยภายใน

และขังมันอยู่อย่างนั้น ไม่ให้มันออกไปไหนได้อีก !

สิ่งหนึ่งที่ผมเลือกมาหน้านี้ เพราะผมชอบหน้าหนาว ผมชอบหิมะ ..

Halllstatt ที่ผมอยากเห็นของจริงต้องมีหิมะแปะอยู่บนหลังคา กับฉากหลังที่เป็นภูเขาหิมะ …

ไม่มีไรมาก แค่อยากจะบอกว่า …. ฝันเป็นจริงแล้วคร้าบ ><

หลังจากฟินกับจุดชมวิว  คณะเกาโลก จากไทย ก็เดินกลับมาที่ทาง จัตุรัสกลางเมือง เพื่อมาดู ความน่ารักน่าชังของจัตุรัสนี้

และมากกว่านั้น ได้เวลารับประทาน ของขึ้นชื่อแล้ว  นั่นนนคือ ………………………….. !??

“ ปลาทู Hallstatt ……… เอ้ย ปลาเทราต์ ครับ  ><

น้องเทราต์เสริฟมาพร้อมกับมันบด และ เครื่องเคียงบางอย่าง … ทำมาได้หอม รสชาติไปทางเค็มนิดๆ  แต่เนื้อนุ่ม ไม่มีกลิ่นคาวครับ อร่อยดี ไม่ผิดหวัง ^^

และนี่คือร้านที่เราไปทานกันมาครับ หน้าตาเป็นแบบนี้ หาไม่ยากเลย เพราะอยู่ตรงจัตุรัสกลางเมือง และ สีเหลืองสะดุดตามาก

หลังจากสะดุดตากับภัตตาคารสีเหลืองตะกี้ บริเวณจัตุรัสแล้ว …

คราวนี้เหลือบมาเห็นอาคารเหล่านี้ ขอสะดุดใจบ้างฮะ ….

ชอบมาก  สีสันสดใส มีไม้เรื้อย เพิ่มมนตร์สเน่ห์ เก๋ และเท่ห์ไม่หยอกเลยทีเดียว !

เดินออกมาทางทางจัตุรัส อย่าเพิ่งเลี้ยวซ้ายหรือขวาไปตามถนน ให้พุ่งตรงไปทางทะเลสาบ จะมีมุมเก๋ๆ ซ่อนอยู่

ไม่รู้ทำไม ผมรู้สึกฟินมาก เมื่อพาทีมงานออกนอกทางหลัก  ไปทางที่ไม่ปรกติ แล้วไปเจอวิวโดนๆ เนี่ย รู้สึก cool ไงไม่รู้ 55555 ..

แต่จริงๆ มุมนี้ก็เห็หนหลายคนมาถ่ายครับ ….

“ เพียงแต่มันไม่ได้อยู่ในจุดหมายเราในแพลน …. พอบังเอิญได้มาเจอมันฟิน…. ก็นี่แหละครับ สเน่ห์ของวิวระหว่างทาง “

ที่เดียวกับเมื่อกี้ครับ แต่คนละด้าน ><

ดึงมันเข้ามาให้ใกล้ที่สุด …. ซู้ม ซูม ซูม … สวยจริงๆ

และพลาดไม่ได้คือตัว มัสคอร์ตของที่นี่ ไม่รู้ว่า เป็ด ห่าน หรือ หงส์ กันแน่ >< ใครรู้ฝากแจ้งทีครับ ผมเข้าใจว่าห่านนะ 555

บ้านและปราสาทตรงนั้นจะเหงามั้ยนะ …. ถ้ามีคนใช้ชีวิตอยู่  เค้าจะอยู่กันแบบไหน

เรื่องการกินต้อง stock กันกี่วัน  ทำอาชีพอะไรกัน …. วันๆ ทำอะไรกันบ้าง ….. “

บางทีก็อารมณ์ อยากรู้ แต่ไมไอยากถาม หรือ ไม่ก็ อยากรู้ แต่ไม่รู้จะถามใคร …. แล้วเมื่อไหร่จะรู้ “

ผมเชื่อว่าถ้าตอนนั้นผมอยากรู้จริงๆ ผมต้องหาทางรู้ให้ได้แน่นอน …

ขอให้มี passion ในสิ่งที่ทำ ไม่ว่าอะไรก็ตาม คุณต้องได้คำตอบที่คุณต้องการ….

มุมสวยๆ โดนๆ กับเพื่อนร่วมโลกของเรา …..

ไม่ต้องรู้จักกัน แต่รู้แค่ว่าเราชอบนายนะ  เจ้ามัสคอตที่น่ารักทั้งหลาย … นายทำให้เมืองนี้เสน่เพิ่มขึ้นอีกพอสมควรเลย

มีมุมบังคับกันแล้ว … แล้วจะเป็นไปได้ยังไง ที่ไม่มีบ้านบังคับ !

นี่ครับ บ้านบังคับ ของ Hallstatt ที่ใครมาก็ต้องถ่าย … ไม้เรื้อย กับ จักรเยื้อย เอ้ย จักรยาน …

ดูกลืนกันดีจัง เมืองไทยเราจะมีบ้านหรือร้านที่ทำอารมณ์นี้มั้ยนะ ….  ถ้ามีต้องไปโดน ><

เดินตามทางไปทางอีกฝั่ง ของมุมบังคับหลัก ….

พระเจ้า นี่มันก็สวยไม่แพ้กันเลย !!!!

บ้านที่ลดหลั่นกันตามภูเขา และ background เป็นภูเขาที่มีหิมะอ่อนๆ ปกคลุม โอบอุ้มทะเลสาบ ที่ฟุ้งไปด้วยไอหมอก…. ของจริง งามยิ่งกว่าภาพถ่ายจะบรรยาย …

มุมริมทะเลสาบของที่นี่ มีอะไรให้เก็บเป็นความทรงจำเยอะมากครับ

เรียกได้ว่า ถ้าเดินเล่นเมืองนี้ ให้มองริมทะเลสาบเข้าไว้ แล้วจะมีอะไรดีดีเสมอ ..

แต่บางทีอีกข้างก็อาจจะมีความงามที่ซ่อนอยู่เช่นกัน…ฉนั้น จัดไป หันคอตลอดเวลา 360 องศา คุ้มค่าทุกวินาที !

สวยชะมัด เมืองนี้ …. แต่ถ้าให้อยู่ คงอยู่นานมากไม่ไหว เพราะไม่มีอะไรให้ทำเท่าไหร่ ….

เคยมั้ย ที่ไปเมืองใดเมืองนึงแล้วรู้สึกว่า …..

” แมร่งง สวยอ้ะ แต่ให้ไปใช้ชีวิตอยู่นานๆก็ไม่ไหวนะ ”

หรืออารมณ์แบบ ” เมืองนี้ไม่ค่อยสวยอย่างที่เห็นเลย … แต่ทำไมมันน่าอยู่จัง ”

บางทีความพอดีหรือความ perfect ก็หาไม่ง่ายนัก … แค่มีความสุขกับทุกนาที ที่เราได้สัมผัสกับมันก็พอ

อีกแล้ว …. เก้าอี้สุดจะฟินอีกแห่งงงในประเทศนี้

ไปลองนั่งมา แทบไม่อยากลุกเลย  เพราะเมื่อยขาชะมัด  เอ้ยยยเพราะบรรยากาศดีมากครับ perfect view อีกที่ในประเทศนี้เลย ^^

อีกมุมนึงที่ผมชอบมาก …

โคมไฟส้ม หรือไม่ก็อะไรสักอย่าง มันดูตัดกับบรรยากาศแบบกลมกลืนกันอย่างลงตัว !

ถ้าเป็นบางที่เค้าอาจจะเอาดคมไฟสีขาว สีฟ้า ที่ดูกลมกลืนกับเมืองมาใส่ แต่ที่นี่จัดไปส้มๆ แต่โดนใจสุดๆ ครับ

ย้อนกลับมาฝั่งจุดชมวิวหลัก คราวนี้ พระอาทิตย์ไปแอบหลังภูเขาแล้วครับ  แสงอ่อนหมดๆไป แต่ความงามไม่มีวันจางหายไปไหน ….

หนาวจับจิต จนดัดจริตม่ายออก ><

แน่ะ …เจ้าดบสถ์นี้ ยังคงตามมาหลอกหลอน  ในตอนสุดท้าย ของเรื่อง ^^

เสียดายครับ ทริปนี้เวลาผมน้อย เก็บบรรยากาศยังไม่ครบ หลายจุดที่ตั้งใจไว้ T_T

ถ้าทุกอย่างเป็นใจ ขอให้ได้กลับไปอีกสักครั้งงงด้วยเทอญ

ขอบคุณทุกท่านที่รับชมครับ …

หลายคนอาจจะได้เห็นได้ไปมาแล้ว … ทุกคนมีภาพและความทรงจำเป็นของตัวเอง

คุณมี Hallstatt ของคุณ  ผมมี Hallstatt ของผม …. Hallstatt ของเรานั้นมีสิ่งหนึ่งเหมือนกัน …. คือ มันสวยงามในใจของเราเสมอ

ไม่ว่าจะเห็นรูปถ่ายของใครกี่ครั้ง … แต่ไม่เท่ารูปที่ถูกบันทึกผ่านสายตา อารมณ์และชัตเตอร์ของตัวเราเองแน่นอน

บางคนแค่ถ่ายออกมาแบบธรรมดาในมือถือด้วยตัวเค้าเอง … แต่ถ้าเปรียบเทียบกับอีกรูปที่งามยังกับโปสการ์ดที่ใครถ่ายก็ไม่รู้ … ผมเชื่อว่าคนคนนั้นจะฟินกับรูปธรรมดาของเค้า มากกว่ารูปไหนๆ บนโลกใบนี้ …

Let’s explore the world !   ป่ะ …ออกไปเกาโลกกันเถอะครับ  ! ^^

สองเท้า – เกาโลก : https://www.facebook.com/scratchdaworld

youtube channels : https://www.youtube.com/channel/UCza3CAqJyecM2AGjxiV_pSQ