24 Memorable pictures along "The Silk Road" ระหว่างทาง “ครึ่งซีกโลก”

"คนเรามีขีดจำกัดอยู่ตรงไหน
คนไทยจะทำอะไรยากๆได้บ้างรึเปล่า
มีอุปสรรคอะไรข้างหน้าที่รอเราอยู่”

นี่คือคำถามของเรา 2 คน หมอๆตะลุยโลก ที่ทำให้เกิดทริปที่ยากที่สุดในชีวิตตั้งแต่เคยออกเดินทางมา เพื่อหาคำตอบข้างต้นเลยก็ว่าได้ ที่ว่ายากที่สุด อย่างแรกเลยคือเรื่องของการขอวีซ่ากลุ่มประเทศเอเชียกลาง (กลุ่มสถานๆทั้งหลาย อาทิเช่น อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน คาซัคสถาน เป็นต้น) โดยเราตั้งโจทย์กับตัวเองว่า เราจะไม่ขอวีซ่าประเทศไหนๆเลยที่ไทย แต่จะไปขอวีซ่าเอาดาบหน้าแทน เช่น ขอวีซ่าประเทศอุซเบกิสถาน ที่ประเทศตุรกี เป็นต้น โดยมีวีซ่าบางประเทศที่ขอแบบ E-visa เช่น Azerbaijan เราก็ทำเรื่องก่อนเดินทางจริงไม่กี่วัน อย่างต่อมาก็เป็นเรื่องของสภาพอากาศ ที่เราไปเที่ยวกันช่วงหนาวสุดขั้ว หรือจะเป็นอุปสรรคในเรื่องของภาษาในกลุ่มประเทศเหล่านี้

หลังเปิดปฏิทิน กางแผนที่โลก ไม่มีเส้นทางไหนจะเหมาะสม เท่าทริป “เส้นทางสายไหม” อีกแล้ว

หมอ 2 คนที่จบมาราวๆ 2 ปีกว่า ได้วางแผนการเดินทางยาวนานนับปี ถ้าใครเป็นหมออินเทิร์น หรือ แพทย์เพิ่มพูนทักษะ จะต้องคิดถึงเรื่องเรื่องต่อเฉพาะทาง เราเองก็เช่นกัน เมื่อเราทั้งคู่ได้ที่เรียนต่อเฉพาะทางที่ใฝ่ฝันไว้ เราจึงขอใช้เวลา 4 เดือนเต็ม ก่อนจะไปเรียนต่อยาวนาน 3 หรือ 5 ปี

ทำ…ในสิ่งที่อยากลอง
ทำ…ในสิ่งที่อยากรู้
ทำ…ให้สิ่งที่อยากเห็น

ทริปนี้ ถือเป็นทริปที่ 3 ที่พวกเรา 2 คน วินและโจ้ ได้กลับมาร่วมเดินทางกันอีกครั้ง นับตั้งแต่
ทริปแรกหลังเรียนจบหมอ “ทริปในฝัน 41 วัน ครึ่งซีกโลก ด้วยรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย จากจีนไปสวิตเซอร์แลนด์”
ตามมาด้วยทริปที่สอง “17 วันตามล่าหาแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์” เมื่อเดือนมีนาคม ปีที่ผ่านมา
เนื่องจากทริปที่ 3 ในครั้งนี้ เป็นการเดินทางครึ่งซีกโลก(อีกครั้ง) จากตุรกีกลับไทย ที่จะใช้เวลายาวนานกว่าเส้นทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย ครั้งนี้คิดเอาไว้ว่าจะใช้เวลาราวๆ 114 วัน หรือ 4 เดือนโดยประมาณ ครับ
5 ม.ค.58 ถึง 28 เม.ย.58 โดยประมาณ ถือเป็นช่วงเวลาที่จะได้เห็นโลกใหม่ โลกที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

สำหรับทริปในครั้งนี้ทาง Nikon Thailand ได้ให้เรา 2 คน ยืมอุปกรณ์กล้อง และเลนส์ เพื่อใช้บันทึกความทรงจำในระหว่างการเดินทาง

แต่ 4 เดือนมันก็คงนานไป ถ้าจะเล่าเรื่องหลังกลับถึงบ้านแล้ว เราเลยขอเอาภาพมาเล่าเรื่องก่อน ในระหว่างการเดินทาง ว่าเราไปเห็นอะไร ไปได้ยินอะไร ไปสัมผัสอะไรมาบ้าง!!!

และนี่คือ 24 ภาพประทับใจ ในช่วงเวลาเดือนแรกที่ผ่านมาของเรา 2 คน ใน 4 ประเทศ : ตุรกี, จอร์เจีย, อาร์เมเนีย และอาเซอร์ไบจาน ตามลำดับ

 

ปล. 3 ประเทศหลัง เป็นกลุ่มประเทศในเทือกเขาคอเคซัส ไม่ใช่เส้นทางสายไหม หรือ The Silk Road ในอดีตจริงๆ แต่เราเห็นว่าพรมแดนมันใกล้เคียงติดกัน เราเลยถือโอกาสแวบเข้าไปดูครับ

สำหรับในรีวิวนี้ เราขอแนบรายละเอียดของภาพถ่ายแต่ละใบ ร่วมกับเรื่องราวการเดินทางไปด้วยพร้อมๆกันครับ
หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

Nikon D750
Nikon 16-35mm f4 VR
F/8, 2S
ISO 100

วันที่ 1
“Istanbul, Turkey”

วันแรกในตุรกีหรือวันแรกของการเดินทาง
ไม่มีสิ่งใดจะดีไปกว่าการไปพบปะสถานที่สำคัญอันเป็นที่สุดของประเทศนี้ก่อนครับ
น้ำพุที่ปกติเปิดแต่วันนี้ปิด หลอดไฟที่ปกติปิดแต่วันนี้เปิด
อุณหภูมิจริงในตอนนั้นติดลบไปไกลแล้ว ผมยืนถ่ายรูปได้ไม่กี่ภาพ
ร่างกายบอกว่าขอยอมแพ้แล้วครับ มันหนาวเกินไปจริงๆ

Nikon D750
Nikon 58mm f1.4G
F/4,1/2S
ISO 100

วันที่ 2
“Istanbul, Turkey”

ภาพมุมปกติของ Blue Mosque สามารถถ่ายได้ง่ายตามพื้นที่ลานกว้างโดยรอบ
แต่ถ้าต้องการมุมสูงแบบนี้ เราต้องลงทุนครับ ลงทุนอะไร? หลายคนคงมีคำถาม
คำตอบคือ ลงทุนไปนั่งกินอาหารตามภัตตาคารชั้นดาดฟ้าที่เปิดตัวกันดาษดื่นแถวนั้นนั่นเองครับ
ยิ่งมุมดี สมมาตร สวยเช๊ง แบบนี้ราคาสูงมาก ถ้าแบบมุมไม่ได้เป๊ะมากอันนี้ราคาก็จะถูกลงมาหน่อย
ผมก็เลยขอเลือกส่วนประกอบที่พอดีทั้งคุณภาพและราคา จึงได้ภาพนี้มาครับ

Nikon D810
Nikkor 14-24mm F/2.8G ED
F/2.8,1/2500S
ISO 100

วันที่ 3
“Istanbul, Turkey”

ฝูงนกนางนวล สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของอิสตันบูลเลยก็ว่าได้ ภาพที่คนถือเศษขนมปังมาให้อาหารนก ถือเป็นภาพแห่งความสุขใจทั้งผู้ให้ และผู้รับ รวมถึงผู้ถ่ายอีกด้วย

 

Nikon D810
NIKKOR 24-70mm f/2.8G ED
F/8, 5S
ISO 100

วันที่ 4
“Izmir, Turkey”

เมืองใหญ่อันดับสาม รองจากเมืองอิสตันบูล และเมืองอังการาของตุรกี ตัวเมืองตั้งอยู่รอบๆอ่าวขนาดใหญ่ พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขา เราเลือกมุมสูงสำหรับเก็บภาพยามพลบค่ำอย่าง "หอเอซานซอร์" (Asansor) ซึ่งเป็นหอลิฟท์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่จะขึ้นไปด้านบนของเนินเขา และช่วยเราไม่ให้ต้องเหนื่อยแฮ่ก ขึ้นมาถ่ายรูปด้วย ขอบคุณลิฟท์ตัวนี้จริงๆ ให้ตาย

Nikon D750
Nikon Fisheye 10mm f2.8
f/13, 1/640S
ISO 100

วันที่ 5 ของการเดินทาง
“Ephesus, Turkey”

เมืองโบราณแห่งอาณาจักรโรมันตะวันออกที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ได้อย่างดีที่สุดแห่งหนึ่ง
เมื่อผมไปถึงที่ๆเคยเป็นเหมือนโรงละครขนาดใหญ่ (Grand Theater) เดินไปถึงที่นั่งแถวที่คิดว่าดีที่สุด ความรู้สึกตรงนั้นนี่ทำเอาสมองจินตนากรภาพเมื่อกว่าเป็นพันปีที่แล้วขึ้นมาเลยครับว่าบรรยากาศตรงนี้มันจะน่าตื่นเต้นขนาดไหน
อีกทั้งพระอาทิตย์ก็ลงมาทำมุมที่ยอดเขาพอดิบพอดี จึงเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการเก็บภาพความทรงจำที่ดีที่สุดกลับมาครับ
(เดือนมกราคมเป็นเดือนที่หนาวทรหดอย่างมาก จึงยิ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้เราได้ถ่ายภาพในมุมที่ปราศจากผู้คนได้ง่ายยิ่งขึ้นครับ)

Nikon D810
NIKKOR 24-70mm f/2.8G ED
F/16 1/50S
ISO 100
ปล. F ยิ่งเยอะ หรือรูรับแสงยิ่งแคบ ยิ่งได้แฉกดวงอาทิตย์ที่สวย

วันที่ 6
“Pamukkale, Turkey”

ปามุคคาเล่" หรือ ปราสาทปุยฝ้าย

อ่างแคลเซียมธรรมชาติ ขนาดมหึมา
ประติมากรรมธรรมชาติ ที่ดูแปลกตา

แม้ว่าในหน้าหนาว น้ำจะเหือดแห้งไปนิด
แต่ด้วยความอัศจรรย์ที่ยากจะหาที่ไหนเหมือนได้

ทำให้เราต้องพาสองตา และสองขา(แบบตีนเปล่าๆ)
มาเหยียบที่นี่ให้จงได้
พอได้มาเหยียบแล้ว
หนาวทีนใช้ได้เลยยยย

Nikon D750
Nikon 16-35mm f4 VR
F/6.3,1/15S
ISO 100

วันที่ 10
“Konya, Turkey”

ผมเลือกมาที่นี่เมืองนี้เนื่องจากเป็นทางผ่านก่อนจะกลับอิสตัลบูลพอดี
จัตุรัสที่อยู่กลางเมืองคือศูนย์รวมของประวัติศาสตร์ตลอดจนศิลปะวิทยาการต่างๆของเมืองแห่งนี้
ที่นี่เป็นหนึ่งในเมืองที่เคร่งครัดทางศาสนามากสุดเมืองหนึ่งของตุรกีเลยครับ
สังเกตได้จากสตรีเกือบทุกคนแทบจะมีผ้าคลุมศีรษะหมด ซึ่งพบได้ไม่ง่ายนักในประเทศนี้ครับ

Nikon D750
Nikon Fisheye 10mm f2.8
F/13, 1/15S, 1/40S, และ 1/320S
ISO 100
HDR Technique ถ่ายภาพมา 3 ใบ ที่สภาวะแสงต่างกัน แล้วเอามารวมกันในโปรแกรม Photoshop ครับ

วันที่ 11
“Sille, Turkey”

คือชื่อเมืองที่ไม่เคยได้ยิน ไม่ได้คาดคิด ไม่ได้ตั้งใจ และไม่ได้คาดหวังมาก่อน
ผมได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวที่นั่นว่า “มันสุดยอดมาก ถ้าไม่ไปนี่ก็ถือว่าเสียดายโคตรๆเลยละคุณ”
ผมจึงนั่งรถเมล์ไปจากตัวเมือง Konya ตามที่คนท้องถิ่นบอก
เมืองแห่งนี้มีถ้ำเล็กถ้ำน้อยมากมายที่อดีตที่เป็นที่อยู่อาศัยของนักบวชตลอดจนนักรบ
เท้าผมเองก็ซุกซนมาเดินซอกแซ่กไปมา จนสุดท้ายมาได้เสียกับถ้ำที่สุดท้ายนี่แหละครับ
ผมจึงได้แต่อุทานๆเบาว่า “ผมนี่อึ้งไปเลย”

Nikon D810
NIKKOR 24-70mm f/2.8G ED
F/16, 10 S
ISO 100

วันที่ 13
“Istanbul, Turkey”

จุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของมหานครอย่างอิสตันบูล คงหนีไม่พ้น มุมสูงอย่าง Galata Tower ไม่ใช่แค่มุมที่สูงเท่านั้น ยังรวมไปถึงค่าขึ้นที่สูงด้วย จัดไปคนละ 25 TL (ราว 375 บาท) และไม่อนุญาตให้ผู้เข้าชมใช้ขาตั้งได้ เราเลยได้แค่วางกล้องไว้บนเสาปูน ซึ่งก็นิ่งใช้ได้อยู่นะ

Nikon D750
Nikon 16-35mm f4 VR
F/8, 1.6S
ISO 100

วันที่ 16
“Goreme, Turkey”

ภาพบ้านเรือนที่ไปสร้างกันอยู่ในถ้ำภายใต้หุบเขารูปร่างประหลาดคือเอกลักษณ์อันเป็นที่โดดเด่นของที่นี่
วันนี้ทั้งวันผมใช้เวลาไปกันการขี่มอเตอร์ไซด์ที่เช่ามาไปรอบๆเมือง
จุดประสงค์ไม่มีอะไรมากกว่าเพื่อจะไปหาจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยที่สุดของวัน
แต่เจ้ากรรม มอเตอร์ไซด์ที่เช่ามาต้องคืนก่อนหกโมงเย็น (ซึ่งพระอาทิตย์ยังไม่ตกเลย)
ณ เวลานั้น คิดไรไม่ออกว่าจะไปที่ไหนดีแล้ว เหลือบไปเห็นคนตัวเล็กๆยืนถ่ายรูปกันที่ยอดเขาที่อยู่กลางเมืองพอดี
แผนเลยเปลี่ยนมาขึ้นที่จุดชมวิวบนยอดเขาเล็กๆแห่งนี้กลางเมืองรูปทรงประหลาดแห่งนี้
ถึงจะไม่ใช่ดีที่สุดเท่าที่คิดไว้ แต่ก็ดีมากจนพอทดแทนกันได้ครับ

Nikon D810
NIKKOR 24-70mm f/2.8G ED
F/5 ,1/2000S
ISO 100

วันที่ 17
“Cappadocia, Turkey”

หลังต่อราคาค่าขึ้นบอลลูลจาก 120 ยูโร จนได้ 80 ยูโรต่อคนมา เรารอลุ้นขึ้นบอลลูนในวันรุ่งขึ้น แม้พยากรณ์อากาศจะไม่สู้ดีนักในเช้าวันนี้ แต่ฟ้าแบบนี้ วิวข้างล่างแบบนี้ ก็ได้ใจพี่ไปเต็มๆ ครับ แม้สำหรับในฤดูหนาว จำนวนบอลลูนอาจไม่มากมายนัก เหมือนเทียบกับฤดูร้อน แต่ก็เป็นข้อดีที่ให้เรามีอำนาจต่อรองราคาขึ้นบอลลูนได้ครับ เที่ยวหน้านี้ มันก็ดีตรงนี้แหละ!

Nikon D810
Nikkor 14-24mm F/2.8G ED
F/14, 1/3 S
ISO 100

วันที่ 19
“Trabzon, Turkey”

เมืองนี้มาทำไม หลักๆเลยคือ มาเพื่อทำวีซ่าอิหร่านครับ ส่วนเที่ยวชมเมืองคือเรื่องรอง ตอนก่อนมาก็ไม่รู้หรอกครับว่า เมืองนี้จะมีตึกรามบ้านช่องตั้งอยู่บนเขาด้วย เวลาเห็นภูเขาแล้ว เป็นโรคจิตครับ ต้องปีนขึ้นที่สูง เพื่อจะได้มองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองโดยรอบได้ แม้ว่าเรื่องการมาทำวีซ่าที่เมืองนี้จะทำให้เราผิดหวัง แต่วิวของเมือง Trabzon กลับไม่ได้ให้ทำให้เราผิดหวังเหมือนเรื่องทำวีซ่า เมืองนี้ถือเป็นเมืองสุดท้ายของประเทศตุรกี ก่อนที่เราจะเปลี่ยนประเทศไปยังประเทศจอร์เจียต่อไป...

Nikon D750
Nikon 70-200mm f4 VR
F/10, 30S
ISO 100

วันที่ 20
“Batumi, Georgia”

ทันทีที่ผมมาถึงประเทศจอร์เจีย ผมก็รู้ตัวว่าประเทศนี้ไม่ได้จอแจอย่างที่คิดไว้
ระหว่างทางที่กำลังนั่งรถมินิบัสเพื่อไปซื้อตัวรถไฟของวันถัดไป เวลานั้นเป็นเวลาประมาณหกโมงเย็นได้พอดีครับ
เมื่อรถบัสนี้วิ่งผ่านทิวต้นไม้ใหญ่ทันใดนั้นเอง ภาพของเมืองที่ตั้งอยู่ริมน้ำก็ปรากฎขึ้นสู่สายตา
“โอ้ว แม่เจ้า” ผมอุทานเป็นภาษาไทยที่ไม่ใครเข้าใจ เนื่องจากที่นี่คือจอร์เจีย
ผมไม่คิดอะไรไปมากกว่านี้ รีบยกกระเป๋าเดินไปด้านหน้ารถพร้อมกับคนขับว่า “สต็อบ”
แกเบรกรถทันทีทันใดจนเกิดเสียงดังปรี๊ด ผมรีบวิ่งพรวดออกมาพร้อมพาขาตั้งกล้องคู่ใจที่โคตรจะหนักแสนหนักไปด้วย
ชายหาดที่มีแต่โขดหินเลยกลายเป็นชัยภูมิที่ดีสุดของวันนั้นไปเลยครับ ฟ้าระเบิดอยู่ตรงหน้าเลยละ

Nikon D810
NIKKOR 24-70mm f/2.8G ED
F10, 1/200 S
ISO 64

วันที่ 23
“Khor Virup, Armenia”

หนึ่งในโบสถ์ที่สวยที่สุดของประเทศอาร์เมเนียเลยก็ว่าได้ ถ้า ถ้า ถ้า เราเห็นยอดเขา Ararat เป็นฉากหลัง แต่พอเรามายืน ณ จุดเดียวกันนี้ นี่เข้าขั้น “เงิบ” เลยก็ว่าได้ ที่นี่มาไม่อยากเลยครับ จะนั่ง Minivan หรือ เหมา Taxi จากเยเรวานมาก็ได้ พวกเราเลือกนั่ง Minivan หรือ ภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “มาร์ชูสก้า” ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ไป-กลับ ถ้าใครจะมาอาร์เมเนียในเวลาอันใกล้นี้ พวกเราฝากล้างแค้นแทนด้วยนะครับบบ!!!

Nikon D750
Nikon 58mm f1.4G
F/9, 3S
ISO 100

วันที่ 23
“Yerevan, Armenia”

ผมคิดว่าทุกคนต้องมีความทรงจำที่เคยได้เห็นภาพประทับใจที่ถูกส่งต่อกันมามากมายแล้วเกิดอยากจะไป ณ สถานที่แห่งนั้น ใช่ไหมครับ?
แบบว่าแรงบันดาลใจพุ่งพรวด ผมเองก็เหมือนกันได้เก็บเจ้าแรงดึงดูดอันแรงกล้านี้ไว้มาเต็มเปี่ยม
ผมใช้เวลา 3 วันในเมืองหลวงแห่งนี้เพื่อรอวันที่ผมจะได้เห็นแรงบันดาลใจที่พาผมมาไกลถึงที่นี่
แต่ผลปรากฏว่าหมอกปกคลุมเมืองตลอดทั้งวัน มีเพียงแค่เสี้ยวเวลาเดียวที่สายหมอกบางลงพอจะเห็นสิ่งที่ผมอยากจะเห็นที่สุดในเวลานั้นคือ
“ยอดเขาอารารัท” (Mount Ararat) ยอดเขาตามพระคัมภีร์ที่เป็นที่จอดเรืออาร์คของโนอาห์ภายหลังมหาอุทกภัยล้างโลกนั่นเอง

Nikon D810
NIKKOR 24-70mm f/2.8G ED
F/9, 1/160S
ISO 100

วันที่ 24
“Garni, Armenia”

หลังผิดหวังจาก Mt.Ararat ที่ไม่โผล่มาให้เราได้ยลโฉมกันบ้างเลย ไม่รู้จะอายคนไทยไปไห แปลกมากนะครับ พยากรณ์อากาศที่เมืองเยเรวานคือ ฟ้าใสทั้งอาทิตย์ แต่ดันมีหมอกทึบ ทัศนวิสัยแค่ราวๆ 2-10 กิโลเมตร เป็นอย่างงี้ทุกวันตั้งแต่มาวันแรก ด้วยความที่ Mt.Ararat อยู่ไกลจากเมืองหลวงอย่างเยเรวานมาก ราวๆ 40-50 กิโลเมตร ก็เลยออกตามหาภูเขาลูกอื่นๆแทน ก็มาเจอที่นี่แหละ Garni พอได้เห็นภูเขาแล้ว ปากก็หุบยิ้มไม่ได้ ไม่รู้ใครเป็นแบบผมบ้างงง...

Nikon D750
Nikon 16-35mm f4 VR
F/9, 1/400S
ISO 100

วันที่ 24
“Garni temple, Armenia”

หนึ่งในวิหารของชาวโรมันที่สร้างถวายเทพเจ้าแห่งพระอาทิตย์
ทันที่ไปถึงผมก็พบบริเวณโดยรอบวิหารเต็มไปด้วยหิมะราวกับพึ่งผ่านสมรภูมิพายุหิมะมาไม่นานนี้
ผมเดินไป เดินมา เงยหน้าขึ้น ก้มหน้าลง อยู่หลายรอบ เพื่อจะสร้างภาพในมุมที่มันดูแปลกตาออกไป
จนสุดท้ายก็มาจบกันที่มุมนี้ ซึ่งผมตั้งได้แรงบันดาลใจมาจากหนังการ์ตูนเรื่อง เซ็นต์ เซย่า เลยนะครับนั่น

Nikon D810
NIKKOR 24-70mm f/2.8G ED
F/6.3, 1/640S
ISO 100

วันที่ 26
“Kazbegi, Georgia”

หนึ่งในแรงบันดาลใจ ที่ต้องมาเห็นด้วยตาให้ได้ซักครั้งในประเทศจอร์เจีย นั่นคือโบสถ์มุมซ้ายบนของภาพที่อยู่บนเขา (อันเล็กๆนั่นแหละครับ) วันนี้เรานั่งรถมาร์ชูสก้า หรือมินิแวน จากเมืองทบิลิซี่กันมา จนมาถึงที่ Kazbegi แต่เนื่องจากตอนเรามาถึงมันก็เย็นแล้ว เราจึงทำได้แค่ยืนมองแล้วท่องเอาไว้ในใจว่า “พรุ่งนี้เอ็งเสร็จข้าแน่ ภูเขาลูกนั้น”
สำหรับสภาพอากาศไม่ต้องถาม หนาวสุดขั้ว จนอยากจะแนะนำคนที่จะมาที่นี่ว่า อย่ามาหน้านี้เลยครับ หนาวเกิ๊นนนน

Nikon D750
Nikon 70-200mm f4 VR
F/8, 1/125S
ISO 100

วันที่ 27
“Tsminda Sameba, Georgia”

ที่นี่คือสถานที่ๆเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจอร์เจีย ที่จะเห็นได้จากรูปโปสการ์ดทุกใบต้องเป็นรูปประกอบจากที่นี่
เรามากันในฤดูหนาวอันหฤโหดที่มีหิมะที่มีความหนาเป็นเมตรๆแถมนุ่มราวกับปุยนุ่นคอยต้อนรับอยู่ตลอดทางการเดินขึ้นเขาระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร  ยิ่งเดินยิ่งเหนื่อย ยิ่งเดินยิ่งลื่น ยิ่งเดินยิ่งยวบ หิมะตอนกำลังละลายนี่มันไม่ได้น่ารักและน่าเล่นอย่างที่คนไทยเราคิดกันหรอก
แต่พอขึ้นไปถึงจุดหมายปลายทางเท่านั้นแหละ
ผมแทบจะตะโกนออกไปบนฟ้า “คุ้มค่าจริงๆเว้ยยยยยยย”

Nikon D810
NIKKOR 24-70mm f/2.8G ED
f/8, 1/3s
ISO 100

วันที่ 28
“Tbilisi, Georgia”

ก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน เราไปเดินสำรวจป้อมปราการเก่าที่อยู่ในรูปว่า ถ้าเราอยากได้มุมป้อมปราการนี้ไว้ในภาพยามเย็นของเรา เราควรไปอยู่ตรงไหนดี แม้เมืองนี้จะมี cable car แต่ก็พาขึ้นไปยังจุดที่ไม่สามารถเก็บภาพมุมนี้ไว้ได้ ถ้าอยากได้ ต้องปีนขึ้นเขาอีกลูกที่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าจะไปยังไง แต่ใจมันบอกว่าให้ไป เดินถามทางเค้าเรื่อยมา จนขึ้นมาถึงโบสถ์ที่อยู่บนเขาแบบพอเหนื่อยหอบแล้วหันกลับมา มุมภาพที่ตั้งใจไว้ก็ปรากฎขึ้นมาอยู่ตรงหน้า มุมนี้นี่เองครับ ได้ทั้งเมืองเก่า ป้อมปราการ แม่น้ำ และสะพาน (Bridge of Peace)

Nikon D750
Nikon 58mm f1.4G
F/8, 1/4S
ISO 100

วันที่ 28
“Tbilisi, Georgia”

หนึ่งในเมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุดของโลก เมืองนี้มีมุมให้ถ่ายรูปมากจนไม่รู้จะไปอยู่ตรงไหนดีเลยครับ
ผมอยากได้ภาพเมืองที่อยู่บนหน้าผา แล้วโบสถ์สีทองตั้งตะหง่านอยู่กลางเมือง
ไม่มีทางเลือกใดๆนอกเหนือจากการเดินไปยังยอดเขาอีกฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกันเพื่อที่จะให้ได้ภาพมุมนี้

Nikon D750
Nikon 16-35mm f4 VR
F/14,15S
ISO 100
ND 10 stop

วันที่ 31
“Baku, Azerbaijan”

พิพิธภัณฑ์ที่มีไอเดียมาจากรูปทรงของเหลวที่สามารถไหลไปมาได้
ที่นี่สามารถเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในความภูมิใจของชาวอาเซอร์ไบจานเลยก็ว่าได้
วันนั้นลมแรงมาก แรงจนพัดเมฆที่อยู่บนฟ้านี่ลอยผ่านหน้าไปทุกๆวินาที
การถ่ายรูปในวันนี้จึงเป็นการจะทำยังไงก็ได้ให้เมฆที่อยู่บนฟ้าดูอ่อนช้อยให้มากที่สุดนั่นเองครับ

Nikon D810
NIKKOR 24-70mm f/2.8G ED
F8, 30S
ISO 100
ND 10 stop Filter

วันที่ 32
“Baku, Azerbaijan”

Flame Towers ตึกที่สูงและสวยที่สุดของเมืองหลวงอย่างบากู ตึกที่เป็นทั้งอพาร์ทเมนต์ โรงแรม และสำนักงาน ที่ใช้เวลา 5 ปีในการสร้าง จนแล้วเสร็จในปี 2012 ที่ผ่านมา เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของเราทั้งสองคน ที่อยากมาเห็นสถาปัตยกรรมแปลกตา ยิ่งช่วงฟ้ามืด ตึกนี่จะยิ่งแปลกตาไปด้วยการแสดงโชว์ด้วยหลอดไฟ LED มากกว่า 10,000 ดวง จนแทบอ้าปากค้างด้วยความเจ๋ง

Nikon D810
NIKKOR 24-70mm f/2.8G ED
F8, 1/500S
ISO 100

วันที่ 35 (ใบสุดท้าย)
“Jvari Monastery, Georgia”

ไม่ไกลจากเมืองหลวง ยังมีเมืองเก่าและวัดเก่าแก่ ผมไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนมาสำรวจทำเลในการสร้างวัดแห่งนี้ มันช่างเป็นชัยภูมิที่สุดยอดของสุดยอด เพราะได้วิวโค้งแม่น้ำ ได้วิวเมืองเก่าแก่ที่สุดของจอร์เจียอย่าง Mtkheta ได้วิวภูเขา และนี่ถือเป็นวิววันส่งท้ายที่ดินแดนคอเคซัสอย่างฟินที่สุดเลยก็ว่าได้

ติดตามรีวิวการเดินทางของเราสองคนต่อไปกันนะครับ

“หนทางยังอีกยาวไกล…ไม่เหมือนชีวิตคนที่แสนสั้น”