"มาราธอน" | จุดสูงสุดของนักวิ่ง ที่ให้อะไรมากกว่าคุณคิด
เคยไหม...??? ตั้งเป้าหมายอะไรไว้ แล้วสักวันหนึ่งเราต้องทำมันให้ได้ และกว่าจะผ่านมาได้ มันก็มีอุปสรรคมากมายเช่นกัน แรงบันดาลใจก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เป้าหมายของเราประสบความสำเร็จเช่นกัน
ครั้งนี้ญิ๋งยิ้มขอเล่าถึงกิจกรรมที่ได้ทำอยู่เป็นประจำอีกอย่างหนึ่งนอกเหนือจากการเดินทางท่องเที่ยว นั่นคือ "การวิ่ง" การวิ่งของหลาย ๆ คนอาจจะมีเป้าหมายต่างกัน เช่น ลดน้ำหนัก คลายเครียด สร้างสุขภาพที่แข็งแรง เพื่อนชวน หรือจะวิ่งเป็นอาชีพ
ก่อนอื่นญิ๋งยิ้มเองก็ไม่ได้เก่งอะไรนะคะ กว่าจะเริ่มวิ่งได้ก็มีอุปสรรคหลายอย่าง อ้างโน่นนี่สารพัด กลัวเหนื่อย ปวดขา งานเลิกดึก บ้านไกล มีโรคประจำตัว ไม่มีเพื่อนไป ลืมรองเท้า ชุดไม่พร้อม บลา ๆ จนวันนึงเพื่อนที่ทำงานชวนไปวิ่งกันหลังเลิกงาน ด้วยรองเท้าเพียงคู่เดียว กับ 2 ขาของเราเองนี่แหละที่เราจะต้องเอาชนะมันเป็นด่านแรก จากนั้นก็ลงสมัครวิ่งตามงานวิ่งต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง (ได้สุขภาพที่ดี แถมยังได้ทำบุญด้วย) ตั้งแต่ระยะมินิมาราธอน ฮาร์ฟมาราธอน ซุปเปอร์ฮาร์ฟมาราธอน และสถานที่ ที่ไปวิ่งแต่ละงานก็แตกต่างกันไป ถือได้ว่าเราได้เปลี่ยนบรรยากาศไปด้วย
และหนึ่งในสถานที่ ที่ไปวิ่งและประทับใจทุกครั้งที่ได้ไปนั่นก็คือ "จอมบึงมาราธอน"
จอมบึงมาราธอน "งานวิ่งชาวบ้าน มาตรฐานสากล” เป็นสนามวิ่งอันดับต้น ที่นักวิ่งแทบทุกคนต้องมาสัมผัสให้ได้สักครั้งหนึ่ง หรือมากกว่านั้น นักวิ่งหลายคนเลือกที่จะมาราธอนแรกที่นี่ ด้วยสนาม อากาศ บรรยากาศ ทำให้ทุกคนประทับใจกันเรื่อยมา
เอกลักษณ์ที่นี่ก็ต้อง "ลิง" สิคะ
คงตกใจว่า วันนี้คนมาทำไมเยอะจัง
เตรียมความพร้อมของงานกันอย่างขะมักเขม้น
จอมบึงมาราธอนเป็นสนามวิ่งที่จัดกันมายาวนานมาก ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 31 ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมา ญิ๋งยิ้มเองได้วิ่งระยะมินิมาราธอน ฮาร์ฟมาราธอน ที่นี่ด้วยเช่นกัน
และปีนี้ญิ๋งยิ้มเองก็ตั้งใจมาวิ่งในระยะ "มาราธอน 42.195 กิโลเมตร" ด้วยเช่นกัน
มารับเบอร์วิ่งกันคึกคักเลยค่ะ งานนี้คุณทนงศักดิ์ก็ไม่พลาดเช่นกันค่ะ
คุณโอ อนุชิต ก็มาในระยะฮาร์ฟมาราธอนเช่นกันค่ะ
นักวิ่งแฟนซีก็เช่นกันค่ะ คุณยายบ้วย เราพบกันที่งานอยุธยามาราธอนค่ะ (ถ้ายายไม่แต่งมาแบบนี้ญิ๋งยิ้มก็จำไม่ได้นะคะ)
บ่ายคล้อยนักวิ่งมากหน้าหลายตา ต่างมารับเบอร์วิ่งกันคึกคักเลยค่ะ
วันนี้น้อง ๆ ทางมหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง ต่างต้อนรับเป็นอย่างดี และเป็นกันเองมาก
(ต้อนรับกันทั้งอาเซี่ยนเลย)
คุณลุงเชียร์ เชียร์ให้กำลังใจกันตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ
นี่สินะที่เรียกว่า "อยู่บ้านดี ๆ ไม่ชอบ"
และหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ทำให้ญิ๋งยิ้มวิ่งได้ทุกวันนี้ก็คือ คุณลุงอู๊ดค่ะ คุณลุงวิ่งตั้งแต่ใช้ไม้เท้า จนวันนี้คุณลุงสามารถประคองตัวเองในระยะฮาร์ฟมาราธอนได้อย่างสบายเลย
เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของงานจอมบึงอีกอย่างก็คือ มื้อเย็นนักวิ่งทุกคนต้องทานข้าวนะคะ พวกเราก็ไม่พลาดสิคะ (ซุ้มอาหารคาว)
ของหวานก็มีนะคะ (ปีนี้มาแบบไทย ๆ)
นั่งรวมกลุ่มกินข้าวกันตามประสานักวิ่งด้วยกัน
ตื่นเต้นเล็กน้อย เนื่องจากปีนี้นักวิ่งมาราธอนเยอะมากค่ะ 3,000 กว่าคนเลย และปีนี้ระยะมาราธอนเป็นระยะที่จองกันเพียง 2 วันก็เต็มแล้วค่ะ (ยิ่งกว่าขายบัตรคอนเสิร์ตมารูนไฟท์อีกนะคะ) จนต้องเปิดรับสมัครเพิ่มเลยทีเดียว
ระยะมาราธอนปล่อยตัวเวลาตี 4 ค่ะ นักวิ่งคึกคักมาก นักวิ่งหน้าเก่า นักวิ่งหน้าใหม่ นักวิ่งแฟนซี ต่างตบเท้ากันมาวิ่งในระยะนี้มากมายเลยค่ะ ซึ่งระหว่างทางนั้นหลาย ๆ คนมีทั้งรอยยิ้ม เสียงทักทายกันเป็นระยะ
ระยะฮาร์ฟมาราธอน และระยะมาราธอน หลวงพ่อมาประพรหมน้ำมนต์เป็นสิริมงคลให้แก่นักวิ่ง แต่เช้าตรู่่เลย
ขอทักทายโงกุนหน่อยนะคะ
สไปเดอร์แมนก็ปล่อยไยตลอดทางเลยทีเดียว
รอยยิ้มและกำลังใจมีให้ตลอดทางเช่นกันค่ะ (มิตรภาพมีตลอดเส้นทาง)
และสีสันที่นี่อีกอย่างก็คือ กองเชียร์จากน้อง ๆ ที่น่ารัก ตื่นมาเชียร์กันแต่เช้ามืดเลยค่ะ
เด็ก ๆ น่ารัก คึกคักกันเช้าตรู่ ของคุณกองเชียร์ตัวน้อย ๆ นะคะ (ป้าญิ๋งยิ้มเองค่ะ)
ปลดปล่อยกันสุด ๆ (ขอบคุณน้องหนุ่ม วิ่งมินิมาราธอนเสร็จก็แว่บมาเก็บภาพพี่สาวต่อ) #ไม่เจียมสังขารกันเลย .>__<.
กว่า 30 กิโลเมตร แดดก็เริ่มร้อนแล้ว ขาเราก็เริ่มล้าแล้วเช่นกัน และ 10 กิโลเมตรสุดท้ายตั้งใจว่าจะวิ่ง 2 กิโลเมตร เดิน 400 เมตร แต่สิ่งที่ได้ก็คือวิ่ง 4 เสาไฟ เดิน 5 เสาไฟสิจ๊ะ (^__^)
และที่ขาดไม่ได้ก็อาหารระหว่างทางไว้เติมพลัง วิ่งมาร้อน ๆ ได้แตงโมเย็น ๆ อร่อยมากกกกกกก
น้ำดื่ม เกลือแร่ มีไม่ขาดสายเลยค่ะ
หลายคนเริ่มเดินสลับวิ่ง รวมถึงญิ๋งยิ้มด้วยเช่นกันค่ะ (10 กิโลเมตรสุดท้าย นี่มันต้องใจล้วน ๆ เลยนะ)
โค้งสุดท้ายแร๊ะ (ฮึ๊บ ฮึ๊บ.......อีกนิดเดียววววว.....เส้นชัย เดี๋ยวฉันจะไปหาเธอ)
พอใกล้เส้นชัย งานกล้องก็เพียบเลย (^__^) #ขายกแทบไม่ขึ้น ยิ้มอ่อน ๆ (+_+)
กองเชียร์ที่นี่ เชียร์กันไม่ถอยเลยเช่นกันค่ะ "เชียร์...ไม่ถอย คอยคนสุดท้าย" จริง ๆ ค่ะ
เวลากว่า 6 ชั่วโมงบนเส้นทางมาราธอน (เวลาของญิ๋งยิ้มเองค่ะ) เมื่อถึงเส้นชัย น้ำตาถึงกับซึมออกมาแบบไม่รู้ตัวเหมือนกัน ดีใจนะ เราชนะตัวเองแล้ว #เคยกล่าวไว้กับพี่ชายที่วิ่งมาราธอนไว้เหมือนกันค่ะ วิ่งเยอะ ๆ ทำไมทรมานตัวเอง ไงหล่ะคะ.........วันนี้เรามาทรมานตัวเองซะเองเลย ^__^
หากจะถามว่าเราได้อะไรจากการการวิ่งมาราธอนบ้าง เราได้รอยยิ้มที่มอบให้กัน ได้เพื่อนใหม่ ได้มิตรภาพ มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทุกคนแข่งกับตัวเอง เราไม่ได้มาแข่งขันกับใคร แม้มันจะเป็นระยะที่ยาวนานและทรมาน แต่มันเป็นระยะที่สนุกและมีความสุขนะคะ
ขอบคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ กลุ่มนักวิ่งด้วยกันนะคะ ที่แบ่งปันข้อคิดดี ๆ เสมอมา
พี่ป๊อก Itthipol Samutthong กลุ่ม 42.195 K Club...เราจะไปมาราธอนด้วยกัน สำหรับกำลังใจ เทคนิคการวิ่ง ทุกการใส่ใจต่อเพื่อนนักวิ่งทุกคนเลยค่ะ
วิ่งเสร็จแล้วมาเจอคุณลุงอู๊ดที่เส้นชัย หายเหนื่อยเลยค่ะ
คุณยาบ้วยเข้าเส้นชัยอย่างสวยงานเช่นกัน (เดี๋ยวนี้นักวิ่งแฟนซีเขาวิ่งกันระยะมาราธอนกันเลยนะคะ)
เพื่อนร่วมวิ่ง ร่วมเดินทางท่องเที่ยว ก็มาวิ่งด้วยเช่นกันนะคะ (สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเองนะคะ)
หากเปรียบมาราธอนกับอะไร ญิ๋งยิ้มขอเป็นนิยามเกี่ยวกับ "ความรัก" แล้วกันค่ะง่ายดี . . . เริ่มจาก 10 กิโลเมตรแรก ก็เปรียบเหมือนความรักที่เริ่มต้น มีความสม่ำเสมอของก้าวที่วิ่งแต่ละก้าว >> จาก 10 ถึง 20 กิโลเมตรมันก็เหมือนความรักที่อยู่ตัว วิ่งไปได้เรื่อย ๆ ฝีเท้าแต่ละก้าวก็ยังคงก้าวต่อไป อาจจะช้าลงนิดหน่อยแต่ก็ยังวิ่งต่อ ผ่านมาครึ่งทางละ เย้ .............
ระยะ 20 ถึง 30 กิโลเมตร ระยะนี้เป็นระยะที่อิ่มตัวละ (คือร่างกายเราแค่ 20 กิโลก็เพียงพอแล้ว) แต่มาราธอนของเรายังไม่จบ เรายังคงวิ่งและสลับกับเดิน มีหยุดพักระหว่างทางบ้าง มีบาดเจ็บบ้าง เราก็ช่วยเหลือกัน มีกำลังใจให้ตลอดทาง รอยยิ้มก็เป็นอีกกำลังใจหนึ่งบนเส้นทางนักวิ่ง ไม่ต้องพูดอะไรมาก ยิ้มสิคะ "OK ไหม ถ้า OK ป่ะ เราไปกันต่อเถอะ"(.^__^.)
โค้งสุดท้ายกิโลเมตรที่ 31 ถึง 42 ระยะกว่า 12 กิโลเมตร เราเริ่มปรึกษากันละ จะเอาอย่างไรกันดีกับระยะที่เหลือ บางคนไปต่อไม่ไหวก็ต้องจบกันที่ระยะนี้ (เรียกว่ายางแตกกันเลยทีเดียว) ส่วนญิ๋งยิ้มเอง ช่วง 12 กิโลเมตรกว่า ใช้ใจล้วน ๆ เลยค่ะ เดินไป คุยไป สลับวิ่งบ้าง ผลัดกันนำ ผลัดกันตาม มันก็เหมือนความรักที่สุกงอมแหละ ที่ให้เกียรติกัน มีความสามัคคี ส่งกำลังใจให้กัน ช่วยเหลือกัน ไม่ทิ้งกัน ประคับประคองกันจนเข้าเส้นชัย (.^____^.)
ก็เหมือนกับการเดินทางท่องเที่ยว "จุดหมายปลายทาง อาจจะไม่สำคัญไปกว่าความงดงามระหว่างทาง" หลังจากจบมาราธอนแล้ว ชีวิตของเราก็ยังดำเนินต่อไปอย่างปกติ มีวินัยในการวิ่ง การออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย รับรองค่ะสุขภาพดีแน่นอน ไม่ว่าจะระบบปอด หัวใจ กล้ามเนื้อ ดีขึ้นจริง ๆ ค่ะ #มาราธอนหน้าพบกันอีกนะคะ
(สมาชิกนักวิ่งประจำ นักวิ่งใหม่ และนักวิ่งกลับมาวิ่งอีกครั้ง)
ขอบคุณเพื่อนนักวิ่งด้วยเช่นกันนะคะสำหรับกำลังใจ แล้วพบกันงานหน้านะคะ
พี่ ๆ นักวิ่งระยะเดียวกับญิ๋งยิ้ม ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ
ได้ทำอะไรแล้วมีความสุข ให้ทำเลยค่ะ อดีตเราไม่สามารถแก้ไขได้ อนาคตยังมาไม่ถึงและก็ไม่แน่นอน ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด . . . . . . . .
# # # อยากชวนเพื่อน ๆ มาวิ่งด้วยกัน ได้บุญ ได้สุขภาพที่ดี ได้มิตรไมตรี "Run For Her" งานนี้เพื่อสมทบทุนมูลนิธิช่วยเหลือผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านม วันที่ 2 8 ก.พ. 2 0 1 6 http://men.sanook.com/unlockactivity/runforher/ มาวิ่งด้วยกันนะคะ (^__^)
YingYim