เปิดประวัติศาสตร์วัดไชยวัฒนาราม ก่อนที่จะกลายเป็นโลเคชั่นยอดฮิตในวันนี้
วัดไชยวัฒนาราม
เชื่อว่าในตอนนี้แฟนๆ ละครเรื่องบุพเพสันนิวาสทั้งหลาย คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักวัดไชยวัฒนารามแน่นอน เพราะโลเคชั่นในการถ่ายทำละครเรื่องบุพเพสันนิวาสนั้นได้ยกกองกันไปถ่ายทำในสถานที่จริงของวัดนี้กันด้วย
หลังจากที่ละครมีการออนแอร์ไปได้เกิดกระแสการท่องเที่ยววัดไชยวัฒนารามรวมถึงสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ขึ้นมากมายหลายแห่ง จนเกิดปรากฏการณ์รถติดยาวบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวโลเคชั่นของละครบุพเพสันนิวาสยาวไปหลายกิโล
ซึ่งโลเคชั่นเด่นๆ ที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดก็คือ วัดไชยวัฒนารามนั่นเอง สำหรับบางคนนั้นอาจจะเพิ่งเคยได้ยินชื่อวัดไชยวัฒนาราม และยังไม่รู้ถึงความสำคัญและประวัติความเป็นมา
วันนี้ Sanook! Travel จะพาคุณย้อนเวลาไปทำความรู้จักและเรียนรู้ถึงความสำคัญของวัดไชยวัฒนารามแห่งนี้กันครับ
วัดไชยวัฒนาราม ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2173 โดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นบนที่ที่เป็นบ้านเดิมของพระองค์เพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายพระราชมารดา
แต่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือนครละแวกโดยจำลองแบบมาจากปราสาทนครวัด
วัดไชยวัฒนารามเป็นวัดหลวงที่บำเพ็ญพระราชกุศลของพระมหากษัตริย์สืบต่อมาหลังจากนั้นทุกพระองค์ จึงได้รับการปฏิสังขรณ์สืบต่อมาทุกรัชสมัย เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงศพพระบรมวงศานุวงศ์เกือบทุกพระองค์
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศสิ้นพระชนม์ก็ได้ถวายพระเพลิงที่วัดนี้
ก่อนกรุงแตก พ.ศ. 2310 วัดไชยวัฒนาราม ถูกแปลงเป็นค่ายตั้งรับศึก หลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 วัดไชยวัฒนารามได้ถูกปล่อยทิ้งให้ร้างเรื่อยมา
บางครั้งมีผู้ร้ายเข้าไปลักลอบขุดหาสมบัติ เศียรพระพุทธรูปถูกตัดขโมย มีการรื้ออิฐที่พระอุโบสถ และกำแพงวัดไปขาย แต่ในปี พ.ศ. 2530 กรมศิลปากร จึงได้เข้ามาอนุรักษ์จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2535
วัดไชยวัฒนาราม มีปรางค์ประธานและปรางค์มุมอยู่บนฐานเดียวกัน พระปรางค์ประธานนำรูปแบบของพระปรางค์สมัยอยุธยาตอนต้นมาก่อสร้าง
แต่ปรางค์ประธานที่วัดไชยวัฒนารามทำมุขทิศยื่นออกมามากกว่า บนยอดองค์พระปรางค์ใหญ่อาจเคยประดิษฐานพระเจดีย์ขนาดเล็ก สื่อถึงพระเจดีย์จุฬามณีบนยอดเขาพระสุเมรุ
รอบพระปรางค์ใหญ่ล้อมรอบไปด้วยระเบียงคตที่เดิมนั้นมีหลังคา ภายในระเบียงคตประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่เคยลงรักปิดทองจำนวน 120 องค์ เป็นเสมือนกำแพงเขตศักดิ์สิทธิ์
ตามแนวระเบียงคตตรงทิศทั้งแปดสร้างเมรุทิศ และ เมรุมุม (เจดีย์รอบๆ พระปรางค์ใหญ่) ภายในเมรุทุกองค์ประดิษฐานพระพุทธรูป ภายในซุ้มเรือนแก้วล้วนลงรักปิดทอง ฝาเพดานทำด้วยไม้ประดับลวดลายลงรักปิดทองเช่นกัน
พระอุโบสถวัดไชยวัฒนาราม สร้างอยู่ทางด้านหน้ากำแพงเมรุทิศเมรุราย นอกระเบียงคต ปัจจุบันเหลือแต่ฐาน ข้างๆมีเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง มีกำแพงล้อมรอบโบราณสถานสำคัญแหล่านี้ถึง 3 ชั้น และ มีปรางค์เจดีย์ขนาดย่อมอีกจำนวนหนึ่งซึ่งสร้างเพิ่มในภายหลัง
เมรุทิศเมรุราย ตั้งล้อมรอบพระปรางค์อยู่ทั้งสิ้น 8 องค์ โดยผนังภายในเมรุเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังรูปใบไม้ใบกนก ซึ่งลบเลือนไปมากแล้ว ผนังด้านนอกของเมรุมีภาพปูนปั้นพุทธประวัติ จำนวน 12 ภาพ
ซึ่งในปัจจุบันเลือนไปแล้วเช่นกัน แต่เมื่อ 20 ปีที่แล้วยังสามารถเห็นได้ชัด
เมรุเป็นทรงปราสาท ซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป 7 ชั้น รองรับส่วนยอดที่ ชื่อที่มานั้นนำมาจากเมรุ พระบรมศพพระมหากษัตริย์สมัยพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีแนวความคิด มาจากคติเขาพระสุเมรอีกต่อหนึ่ง
โดยรวมแล้ววัดไชยวัฒนารามที่เป็นวัดที่มีประติมากรรมทางพระพุทธศาสนาและความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ของชาติไทยเป็นอย่างมาก
เป็นสมบัติของชาติที่ทุกคนในประเทศควรหวงแหนและรักษาให้คงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ความภาคภูมิใจของเราในอดีตนี้คงอยู่กับเราตลอดไป
อัลบั้มภาพ 26 ภาพ