ไปหยุดเวลาที่ “ลา เวล่า เขาหลัก"
การเดินทางท่องเที่ยวไม่มีวันสิ้นสุด แต่เมื่อได้มาลองหยุดพักที่โรงแรม “ลา เวล่า เขาหลัก” (LA VELA KHAO LAK) ที่หาดบางเนียง, เขาหลัก, จ.พังงา ต้องบอกเลยว่า อยากหยุดเวลาอยู่ที่นี่ให้นานกว่านี้อีกสักหน่อย
ลา เวล่า แปลว่ากลุ่มดาวใบเรือ ซึ่งเรือใบเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรม ลา เวล่า เขาหลัก สถาปัตยกรรมของโรงแรมใช้สามเหลี่ยมของใบเรือเป็นแรงบันดาลใจ จึงทำให้ขอบมุมต่าง ๆ รอบโรงแรมเมื่อถ่ายรูปออกมาจะมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม
การตกแต่งโรงแรมมีไอเดียมาจากเมืองเก่า “ตะโกลา” ที่เป็นชื่อของเมือง “ตะกั่วป่า” ในอดีต แต่ก่อนเมืองนี้เคยเป็นเมืองท่าที่คึกคัก มีการนำเข้าส่งออกของมากมายจากหลายประเทศ ทั้ง จีน และอินเดีย รวมถึงเมืองอื่น ๆ อีกมากมาย จึงทำให้มีการนำเอาเครื่องเทศ และลักษณะของเรือมาออกแบบทั่วทั้งโรงแรม
สิ่งที่ห้ามพลาดของโรงแรมนี้มีหลายอย่าง แต่เรื่องแรกที่ต้องบอกว่าห้ามพลาดเลยจริง ๆ ก็คือสระว่ายน้ำ ที่มีถึง 5 สระด้วยกัน ที่บอกว่าห้ามพลาด เพราะนอกจากสระที่สวย สะอาดแล้ว พื้นสระใหญ่ที่เชื่อมโรงแรมฝั่ง Oceanside กับ Poolside ไว้ด้วยกันนั้นทำมาจากหินอ่อนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ
ส่วนถ้าใครหามุมถ่ายรูปเก๋ ๆ นอกจากในสระน้ำแล้ว สามารถไปถ่ายได้ตรงทางเดินที่เป็นอุโมงค์หินอ่อน โดยตรงนี้เป็นทางเดินไปยังห้องอาหารและชายหาดนั้นเอง
ตัดภาพกลับมาเมื่อมาถึงโรงแรม ระหว่างที่รอเช็กอิน นอกจากจะมีน้ำมาให้จิบพอชื่นใจ ยังสามารถเดินขึ้นไปชมวิว บนจุดชมวิวที่ทางโรงแรมเปรียบให้เป็นเหมือนหัวเรือ
หัวเรือถือเป็นจุดขนส่งสินค้าเข้าและออกจากเรือ ตรงนี้เราสามารถชมทิวทัศน์ได้ 180 องศา
เมื่อพูดถึงหัวเรือ ก็ต้องมีท้องเรือ ท้องเรือของโรงแรมลา เวล่า เขาหลัก จัดให้เป็นห้องอาหาร ที่มีชื่อตามสินค้าที่มีการขนมาขายในเมืองตะโกลา ห้องอาหารนี้ชื่อ SPICES (สไปซ์) เป็นห้องอาหารเช้า
ห้องอาหารเช้าสไปซ์ อยู่ใต้จุดชมวิวที่เปรียบเป็นหัวเรือ ทำให้ห้องอาหารสไปซ์ เปรียบเป็นท้องเรือที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหาร เพราะตามปกติแล้วท้องเรือเป็นที่เก็บอาหารที่ชาวเรือใช้ระหว่างออกเดินทาง หรือใช้เก็บอาหารที่จะนำไปค้าขายนั่นเอง
ห้องอาหารเช้าของโรงแรม ลา เวล่า เขาหลัก เป็นอันดับ 1 ด้านอาหารเช้าของเขาหลัก เรียกว่าห้องอาหารสไปซ์เป็น The Best Breakfast ของเขาหลักเลยทีเดียว
หรือถ้าระหว่างวัน หรือระหว่างรอเช็กอิน เกิดอยากจิบกาแฟ สามารถมาที่ Cotton (คอตตอน) ได้เลย ที่นี่นอกจากจะมีกาแฟแล้ว ยังมีเค้ก และน้ำผลไม้ หลากหลายให้เลือกทาน และยังสามารถมองเห็นสระว่ายน้ำได้ 180 องศาด้วย
และที่เห็นตั้งบนชั้นวางของเหมือนเป็นการตกแต่งแบบนี้ ที่จริงแล้วของทั้งหมดทางโรงแรมจำหน่ายเป็นของที่ระลึก ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่โรงแรมออกแบบ โดยนำไอเดียสินค้าสมัยที่ยังเป็นเมืองตะโกลามาออกแบบ ทั้งโถเหล้าจีน ก็ออกแบบใหม่เป็นโถสีขาวฟ้า และที่น่าซื้อติดมือกลับไปคือ กรอบรูปเรือใบ ลา เวล่า เขาหลัก ที่สลักบนหนังตะลุง แน่นอนว่าได้ไอเดียมาจากการแสดงชื่อดังของทางภาคใต้อย่างหนังตะลุงนั่นเอง
มาดูห้องพักกันบ้างที่นี่มีห้องถึง 181 ห้อง แบ่งเป็น 2 โซน มีทั้ง Oceanside (ฝั่งทะเล) และ Poolside (ฝั่งสระว่ายน้ำ) มีห้องทั้งหมด 8 แบบ แต่ละห้อง ตกแต่งอย่างมีสไตล์ ทั้งยังกว้างขวาง สะอาดตา และยังมอบประสบการณ์ในการอาบน้ำในแบบ Smart Control ที่สลัดภาพการหมุนก๊อกน้ำออกไป เพราะแค่กดปุ่มเบา ๆ น้ำก็จะไหลออกมาจากฝักบัวให้ได้ชื่นใจกัน หลังนอนอาบแดด หรือเล่นกิจกรรมต่าง ๆ มาทั้งวัน
เรียกว่าเพียงแค่ห้องพักของโรงแรม ลา เวล่า เขาหลัก ก็สามารถทำให้การมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดของทุกคนกลายเป็นช่วงเวลาพิเศษ
โดยห้องแบ่งเป็น 1. Deluxe room / 2. Deluxe Poolside / 3. Deluxe Oceanside / 4. Deluxe Seaview / 5. Family Room / 6. Pool Access Room / 7. Pool Access Grand / 8. Pool Access Grand Seaview
อย่างห้อง Family Room ก็ให้ความเป็นส่วนตัวกับคุณพ่อ คุณแม่ เพราะมีที่กั้นระหว่างสองเตียง แถมยังมีอ่างอาบน้ำที่เป็นจากุชชี่เอาใจเด็ก ๆ และผู้ใหญ่อีกด้วย
ส่วนห้อง Deluxe Oceanside ก็มีความกว้างขวาง มีชั้นวางของหลายชั้น พอเปิดกระเป๋ามาก็สามารถนำของมาวางเรียงได้ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน แน่นอนว่าห้องนี้มีอ่างจากุชชี่ขนาดใหญ่ แถมได้ชมวิวสวย ๆ ไปพร้อม ๆ กัน
จากห้องพักมาหาอะไรทานกันบ้าง ที่นี่มีอีก 1 ห้องอาหารที่น่าสนใจคือห้องอาหาร KOKULU BEACH CLUB ที่นี่ให้บริการอาหารหลากหลายสไตล์ ทั้งไทย ฝรั่ง และฟิวชั่น นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มหลากหลาย รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีให้เลือกเยอะ หลากหลาย
มาที่ห้องอาหาร KOKULU ขอแนะนำให้ทาน “พิซซ่า KOKULU” เป็นพิซซ่าหน้าซีฟู้ดผัดกะเพรา สิ่งพิเศษของพิซซ่าถาดนี้ไม่ใช่แค่คุณภาพของซีฟู้ดที่ให้มาอย่างเต็มที่ แต่ความพิเศษคือตัวแป้งที่เป็นสีดำ เพราะทำมาจากน้ำหมึกของเหล่าปลาหมึกในท้องทะเล ตัวแป้งของที่นี่กรอบนอก นุ่มใน ไม่ว่าจะพาใครไปทานก็เชื่อว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
กินอิ่มแล้วนอกจากกลับมาพักผ่อนที่ห้องพัก ขอเสนออีกหนึ่งทางเลือกที่ห้อง SPA QAQULA ที่นี่ถูกตั้งคอนเซปต์ให้เหมือนอยู่บนเรือยามค่ำคืน คือเงียบสงบ และเมื่อเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าก็พบดาว ที่ส่องแสงระยิบระยับ
มีโปรแกรมที่น่าสนใจหลายอย่าง แต่ที่ขอแนะนำคือ นวดแบบ Harmonious 4 Hand Massage, Miracle Ice Facial และ Pearl Gold ที่จะทำให้คุณรู้สึกสบาย และเลือดลมไหลเวียนดี ทำให้ผิวสดใส
นอกจากนี้ที่ ลา เวล่า เขาหลัก ยังมีอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น MINER’S BAR ที่ถ้าพูดเป็นภาษาไทยก็คือ บาร์สำหรับคนเหมือง เนื่องจากแถวนี้เมื่อก่อนหลังการค้าขายซบเซา ก็หันมาทำเหมืองแร่
บาร์นี้ก็จะมีค็อกเทลที่จัดจ้านที่สุดในโรงแรม ใครที่ชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เชื่อว่ามานั่งตรงนี้จะไม่ผิดหวัง ส่วนถ้าใครชอบบรรยากาศแบบบาร์ริมหาดสามารถเดินไปที่ Seaman Bar ได้อีกด้วย
เห็นแบบนี้แล้วใครมีเวลาน่าพาเด็ก ๆ ที่บ้าน คุณพ่อ คุณแม่ มาพักผ่อนกันทั้งครอบครัว ที่ลา เวล่า เขาหลัก หรือถ้าอยากจะไปกับแฟนสองคนก็คงยิ่งดีไปใหญ่
ถ้าใครอ่านแล้วหลงรัก ลา เวล่า เขาหลัก จนอยากเข้าพักที่นี่ทางสนุกมีกิจกรรมง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณได้เข้าพักฟรี คลิ๊กเข้าไปร่วมสนุกและมีความสุขไปด้วยกันได้ที่ http://season.sanook.com/songkran/
โดยสามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันที่ 2 - 20 เมษายน และประกาศผลรางวัลวันที่ 24 เมษายน นี้