ทริปเดียวครบ ดีท็อกซ์ปอดบน "เกาะหมาก" กระโดดขึ้น "เกาะกระดาด" แซ่บส้มตำเจ๊โม่ง
ร้อนสะบัดแบบนี้ ร่างกายหลายคนคงต้องการทะเล อยากเก็บภาพฟ้าสวย น้ำใส ยิ่งใกล้กรุงเทพฯ ยิ่งน่าสนใจ หัวหิน พัทยา เกาะล้าน เกาะศรีชัง เกาะเสม็ด เกาะช้าง พวกนี้เช็คอินมาหมดแล้ว ลองปักมุดเขยิบออกไปอีกนิด “เกาะหมาก” ในจังหวัดตราด จึงเป็นอีกหนึ่งปลายทางที่น่าสนใจ โดยเฉพาะใครชอบธรรมชาติ ความสงบ อยากปลีกวิเวกนิดๆ แนะนำเลย
เกาะหมากเป็นเกาะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด ปกติถ้าขับรถไปเองหรือนั่งรถไปจากกรุงเทพฯ ถึงจังหวัดตราดใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงถือว่าเหนื่อยพอสมควร ครั้งนี้เลยตัดสินใจเดินทางด้วยบางกอกแอร์เวย์เพราะใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 1 ชั่วโมง
จากสนามบินเดินทางไปท่าเรือกรมหลวงฯ เพื่อรอขึ้นสปีดโบ๊ทตามรอบเวลาที่กำหนด จริงๆ มีท่าเรือแหลมศอกอีกแห่งให้เลือก (นักท่องเที่ยวสามารถจองคิวเรือได้ล่วงหน้า) ตรงท่าเรือมีบริการเรือสปีดโบ๊ทให้เลือกตามเวลาที่นักเดินทางสะดวก จากท่าเรือกรมหลวงฯ ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเราก็เดินทางถึงเกาะหมาก จริงๆ เกาะหมากเป็นต้นแบบเกาะโลว์คาร์บอนของเมืองไทย หรือการพยายามรณรงค์ให้การท่องเที่ยวบนเกาะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่แรกที่เราเดินทางไปจึงเป็นสวนเกษตรอินทรีย์ นักท่องเที่ยวสามารถทดลองปลูกผัก เก็บข้าวโพด ตำส้มตำ เพราะผักที่สวนแห่งนี้จะถูกนำไปใช้ให้นักท่องเที่ยวในเกาะหมากรีสอร์ทรับประทาน ถ้าเหลือยังขายให้คนบนเกาะได้มีโอกาสทานผัก ผลไม้ปลอดสาร
อ่านเพิ่มเติม >> ฟื้นผืนดินบนเกาะหมากเป็น ‘สวนเกษตรอินทรีย์’ มีผักดีๆ กินใช้ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
เช้าวันรุ่งขึ้นเพื่อสัมผัสชีวิตชาวเกาะหมากซึ่งเต็มไปด้วยสวนมะพร้าว การเดินทางไปยังบ้านหลวงพรหมภักดี บ้านโบราณซึ่งเป็นบ้านที่ตกทอดมาจากหลวงพรหมภักดี ผู้ตั้งรกรากบนเกาะหมากเป็นคนแรกจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด เพราะนอกจากจะได้ชมความสวยงามของบ้านโบราณที่มีอายุกว่า 80 ปีแล้ว ในบริเวณนี้ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเรียนรู้การปลูกมะพร้าว การทำน้ำมันมะพร้าว ชมสาธิตการปอกมะพร้าว
อ่านเพิ่มเติม >> "บ้านหลวงพรหมภักดี" บ้านอายุ 86 ปี ของผู้ตั้งรกรากบนเกาะหมากเป็นคนแรก ตอนนี้เป็นบ้านสีฟ้าริมทะเล
หลายมื้อบนเกาะหมากอาหารทะเลเป็นอาหารหลักจนเริ่มรู้สึกเบื่อ ถ้าใครอยากจะลองเปลี่ยนรสชาติ และคิดถึงความแซ่บแบบที่คุ้นเคย สามารถโทรเรียกเจ๊โม่ง ส้มตำรถเครื่องเดลิเวอร์ลี่ โทรปุ๊บมาปั๊บ พอคุยกับเจ๊โม่งถึงรู้ว่าเจ๊โม่งไม่ใช่คนเกาะหมากหรือคนตราดแต่เป็นสาวชัยภูมิที่มาอยู่บนเกาะได้ประมาณ 5 ปีแล้ว เจ๊โม่งไม่ได้ขายแค่ส้มตำ แต่ใน 1 อาทิตย์ถ้ารู้สึกว่าคนบนเกาะหมากเริ่มรู้สึกเบื่อส้มตำ ก็จะเปลี่ยนไปขายก๋วยเตี๋ยว พอดีช่วงที่เดินทางไปเป็นกะส้มตำของเจ๊โม่ง เราเลยได้ลองความแซ่บของส้มตำ เมนูก็มีหลากหลายแต่ที่เด็ดคือส้มตำหอยอูฐ เนื้อหอยจะหนึบๆ เข้ากับส้มตำรสจัดจ้านฝีมือเจ๊โม่ง
จากนั้นช่วงบ่ายเรากลับไปที่ท่าขึ้นเรือบริเวณหน้าที่พักเดอะซินนาม่อน รีสอร์ทเพื่อลงเรือข้ามไปเกาะกระดาด จากจุดขึ้นเรือตรงสะพานหน้าที่พักเพียงไม่ถึง 10 นาทีเรือก็ไปเทียบท่าด้านหน้าเกาะกระดาด มองจากเรือเกาะกระดาดดูเงียบสงบ ที่ได้ชื่อว่าเกาะกระดาดเหตุเพราะมีต้นกระดาดขึ้นอยู่ทั่วเกาะ ความมีชีวิตของเกาะกระดาดแห่งนี้ถูกเติมเต็มด้วยเหล่ากวางตัวน้อยใหญ่ ที่เมื่อหลายปีก่อนเริ่มจากมีกวางอยู่ไม่กี่ตัวจนปัจจุบันมีกวางนับพันตัวอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand หรือบางคนก็เรียกเกาะกระดาดแห่งนี้ว่า “ซาฟารีกลางทะเล” จะมีที่ไหนที่คุณสามารถไปดูกวางได้กลางทะเล นอกจากความน่ารักในความเชื่องของกวางบางตัว อีกด้านหนึ่งของเกาะยังเป็นแนวชายหาดขาวยาว เงียบสงบ สามารถลงไปเล่นน้ำหรือนั่งเล่นรับลมทะเลได้แบบชิวชิว
ความเงียบสงบไม่มีอะไรหวือหวาของเกาะหมากจึงเป็นเสน่ห์ที่มีเอกลักษณ์ดึงดูดให้นักเดินทางที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย ละทิ้งความยุ่งเหยิงของชีวิต หนีขึ้นเกาะมาหาช่วงเวลาพิเศษอยู่กับตัวเองและธรรมชาติกับอากาศดีๆ ช่วยดีท็อกซ์ได้ทั้งร่างกายและจิตใจ นักปั่นจักรยานหลายคนก็เลือกเกาะหมากเป็นอีกเส้นทางการปั่นจักรยานเพื่อปล่อยให้ตัวกับใจกลมเกลียวไปกับธรรมชาติที่อยู่รอบๆ ตัว