เที่ยว “ตราด” วันเดียวคุ้ม ไหว้พระนอนเล็บขาว สปาเท้าทรายดำ ลุยกินสละอินดี้
เวลาคิดจะไปเที่ยวตราด คนส่วนใหญ่คงนึกถึงที่เที่ยวหมวดหมู่เกาะต่างๆ อย่างเกาะช้าง เกาะหมาก เกาะกูด แต่ถ้ามีเวลาสัก 1 วันเที่ยวบนฝั่งก่อนลงเรือต่อไปเกาะต่างๆ จะรู้เลยว่าเมืองตราดน่าเที่ยว และไม่ควรปล่อยผ่าน โดยเฉพาะใครที่ชอบความสงบ ไม่พลุกพล่าน ตราดมีให้
การเดินทางไปตราดนั้นไปได้หลายเส้นทางทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทางซึ่งอาจจะใช้เวลานานประมาณ 4 ชั่วโมง แต่ปัจจุบันบางกอกแอร์เวย์มีเที่ยวบินกรุงเทพฯ-ตราด ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับในตัวเมืองตราดมีหลากหลายสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด แถมยังเอาใจนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ถ้าสายวัด จังหวัดตราดมีวัดสำคัญที่ใครไปถึงแล้วไม่ควรพลาดนั่นคือ “วัดบุปผาราม” วัดเก่าแก่ที่สุดของจังหวัด เพราะจากประวัติเล่าว่าวัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ช่วงสมัยพระเจ้าปราสาททองหรือเมื่อประมาณกว่า 300 ปีก่อน ความน่าสนใจของวัดแห่งนี้มีทั้งพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ ไว้มากมาย รวมไปถึงหมู่กุฏิเล็กทรงไทยขนาด 2 X 2.45 เมตร ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างถูกต้องตามพระวินัยบัญญัติ ส่วนที่วิหารพระนอนภายในวัดนั้น นักท่องเที่ยวนิยมไปกราบไหว้ขอพร ลักษณะพิเศษของพระนอนองค์นี้คือเล็บเท้าเป็นสีขาวขุ่น เวลาจะอธิษฐานขอพรแนะนำให้ก้มกราบบริเวณใต้ฝ่าเท้า
จุดถัดไปที่แนะนำว่านักท่องเที่ยวควรไปคือ "พิพิธภัณฑ์สถานเมืองตราด" ตั้งแต่ละครเรื่องบุพเพสันนิวาสได้รับความนิยม ทำให้มีนักท่องเที่ยวรวมไปถึงคนตราดเริ่มสนใจเรื่องราวในเชิงประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง ซึ่งภายในแบ่งนิทรรศการเป็นหัวข้อต่างๆ ทั้งเรื่องผู้คนเมืองตราด จากนั้นก็ไล่เรียงเรื่องราวเกี่ยวกับลำดับทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์เมืองตราด รวมไปถึงเหตุการณ์สำคัญๆ ที่เคยเกิดขึ้นอย่างเหตุการณ์ยุทธนาวีเกาะช้าง เหตุการณ์ยุทธนาวีเกาะช้าง และเรื่องราวต่างๆ
จะนับว่านี่เป็น Unseen อีกแห่งของจังหวัดตราดด้วยก็ว่าได้สำหรับ “หาดทรายดำ” ที่เป็นเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ก่อนจะไปถึงหาดทรายดำจะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนเชิงนิเวศน์ สะพานไม้ที่ทอดยาวตลอดเส้นทางจะพานักท่องเที่ยวไปรู้จักกับพันธุ์ไม้ป่าชายเลนต่างๆ รวมไปถึงมีจุดดูหอยขี้ค้อน หอยในพื้นที่ จุดดูปูแสม หรือจุดชมนก บริเวณหาดทรายดำมักมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเนื่องจากมีการบอกเล่าต่อๆ กันมาว่าทรายดำบริเวณนี้สามารถรักษาโรคได้ไม่ว่าจะเป็นโรคปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดหัวเข่า ปวดหลัง แต่เมื่อมีการส่งทรายดำไปตรวจสอบโดยกองธรณีวิทยาพบว่าทรายดำแห่งนี้คือไลโมไนต์เป็นแร่ที่เกิดจากการยุบสลายของเศษเหมืองและเปลือกหอย และผสมด้วยควอตซ์ แต่ทางการแพทย์ยังไม่มีผลทางการรักษาโรค แต่ถ้าไปถึงแล้วจะลองเอาเท้าไปหมกทรายดำเพื่อให้ความอุ่นของทรายดำกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตก็ได้ไม่เสียหาย
อีกจุดที่นักเดินทางน่าจะต้องไปเช็กอินนั่นคือ "สุดทางแห่งตะวันออก" บริเวณนี้จะมีอนุสรณ์สถานวันวีรกรรมทหารเรือไทยในยุทธนาวีเกาะช้าง (แหลมงอบ) และที่ทุกคนต้องไปถ่ายภาพแบบสวยๆ ด้วยนอกจากป้ายสุดแผ่นดินตะวันออกนั่นคือคือประภาคารที่น่าจะเป็นจุดแลนด์มาร์คของการท่องเที่ยวบนฝั่ง ส่วนระหว่างวันถ้าเริ่มรู้สึกหิวอยากแนะนำร้าน “คนพลัดถิ่น” ร้านอาหารไทย อาหารทะเล อาหารป่ารสแซบที่ความพิเศษไม่ได้อยู่เพียงแค่เรื่องรสชาติอาหาร แต่ร้านมีไฮไลต์เด็ดคือฝูงเหยี่ยวแดงจำนวนมากจะโฉบลงมากินอาหารที่คนของร้านอาหารพายเรือไปโปรยให้กินตรงกลางบึงขนาดใหญ่ติดกับร้าน ร้านนี้จึงกลายเป็นอีกจุดท่องเที่ยวที่กลุ่มครอบครัวนิยมพาลูกๆ หลานๆ ไปนั่งกินข้าวพร้อมชมฝูงเหยี่ยวแดงเรียกได้ว่าอิ่มทั้งท้อง และยังได้ตื่นตาไปกับฝูงเหยี่ยวแดงด้วย
สุดท้ายดูจะเหมาะสำหรับการเป็นปลายทางก่อนนั่งรถหรือขึ้นเครื่องกลับเพราะการไปลุยกินสละพันธุ์สุมาลีที่ “สวนสมโภชน์” นั้นคุ้มเกินคุ้ม เพราะสละที่สวนสมโภชน์แห่งนี้หวานฉ่ำชุ่มคอ เนื่องจากเป็นสละที่ได้รับการบ่มเพาะจนได้ที่ถึงจะตัดขาย หลายคนเลยเรียกว่าเป็น “สละอินดี้” ไม่ได้กำหนดครบ 8 เดือนยังไม่เก็บขาย เพราะลุงกระจ่างเจ้าของสวนอายุร่วม 80 ปีแกเล่าว่าถ้ากลิ่นและความหวานไม่ได้ก็จะไม่ยอมตัดขายเด็ดขาด คงเป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะพอไปไล่ดูตามช่อสละจะมีป้ายวันผสมเกสรติดไว้ จากนั้นนับไปอีก 8 เดือนถึงได้ที่ตัดขาย สาเหตุที่ทำให้สละสวนสมโภชน์ได้รับความนิยมก็คงเป็นเพราะการใส่ใจในเรื่องคุณภาพมาตลอดการปลูก ที่นี่มีทั้งสละสดและลอยแก้ว สำหรับสละลอยแก้วถือเป็นอีกของหวานรสชาติเด็ดดับร้อนที่ใช้สละอายุ 7 เดือนมาทำเพราะเนื้อหนาและกรอบกำลังดี โอ้ย…พูดถึงแล้วก็น้ำลายไหว รสเปรี้ยวอมหวานในน้ำเชื่อมเย็นมีเกล็ดน้ำแข็งเนื้อละเอียดแทรกอยู่ในเนื้อสละ ดับร้อนได้ดีเหลือเกิน
ที่เล่ามาทั้งหมดบอกได้เลยว่าวันเดียวก็เที่ยวได้ จะเตร่ไปไหน ยังไงๆ ตราดก็น่าเที่ยว แถมยังได้ครบตอบโจทย์ทุกสายทั้งสายวัด สายกิน สายธรรมชาติ บอกแล้วว่าตราดไม่ได้มีแค่ที่เที่ยวทางทะเลเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม >> ทริปเดียวครบ ดีท็อกซ์ปอดบน "เกาะหมาก" กระโดดขึ้น "เกาะกระดาด" แซ่บส้มตำเจ๊โม่ง
ฟื้นผืนดินบนเกาะหมากเป็น ‘สวนเกษตรอินทรีย์’ มีผักดีๆ กินใช้ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
"บ้านหลวงพรหมภักดี "บ้านอายุ 86 ปี ของผู้ตั้งรกรากบนเกาะหมากเป็นคนแรก ตอนนี้เป็นบ้านสีฟ้าริมทะเล
เที่ยวเกาะหมาก ไปครั้งแรกก็สนุกสุดๆ
อัลบั้มภาพ 22 ภาพ