5 ที่เที่ยวฟินแลนด์ ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกปี 2018

สาธารณรัฐฟินแลนด์ เป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มนอร์ดิก ฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป มีพื้นที่ป่ามากที่สุดในโลก และมีทะเลสาบมากถึง 190,000 แห่ง ฟินแลนด์ถือเป็นสวรรค์ของคนรักหิมะเลยทีเดียว เพราะทางตอนเหนือสุดของประเทศที่เรียกว่าแลพแลนด์ อากาศหนาวจัดมีหิมะปกคลุมอยู่เกือบทุกเมือง รวมทั้งยังมีกิจกรรมแบบชาวขั้วโลกเหนือให้ได้เล่นอยู่มากมาย นอกจากนั้นฟินแลนด์ยังมีปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนให้นักท่องเที่ยวได้ชม โดยในช่วงฤดูร้อน พระอาทิตย์จะไม่ตกดินเลยเป็นเวลาประมาณ 70 วัน และในช่วงฤดูหนาว พระอาทิตย์จะไม่ขึ้นเลยเป็นเวลาประมาณ 50 วัน และยังมีปรากฏการณ์แสงเหนือสวยงาม Aurora Northern Light ซึ่งจะมีเฉพาะเขตขั้วโลกเหนือ

จากรายงาน “World Happiness Report” ประจำปี 2018 จัดทำเครือข่ายทางออกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDSN) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดขององค์การสหประชาชาติ พบว่า ประเทศฟินแลนด์ ขึ้นแท่นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก และสาเหตุที่ทำให้ฟินแลนด์ ไต่ขึ้นมาเป็นที่ 1 ได้ เพราะธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สวัสดิการดูแลสุขภาพฟรี รวมถึงระบบการศึกษาที่ดีเยี่ยม ด้วยเหตุนี้ เราจึงรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวของฟินแลนด์มาฝากทุกคนกัน ว่าประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก เขามีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนน่าเที่ยวกันบ้าง

1. Petäjävesi Old Church มรดกโลกของฟินแลนด์

ตั้งอยู่ที่เมือง Petäjävesi ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี 1994 เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างด้วยไม้ มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นสวยงาม ตามแบบโบสถ์ในแถบสแกนดิเนเวียน ตัวโบสถ์ตั้งอยู่ริมลำธารเล็ก ๆ มีต้นไม้เรียงรายอยู่โดยรอบ ทำให้ถ่ายภาพโบสถ์ออกมาแล้ว จะดูสวยด้วยฉากธรรมชาติ ตัวโบสถ์นั้นจะแบ่งเป็นสองส่วน คือส่วนที่เป็นหอระฆัง และส่วนที่เป็นตัวโบสถ์ลักษณะคล้ายกระท่อมขนาดใหญ่ เป็นโบสถ์ในลัทธิลูเธอร์รัน สร้างขึ้นในระหว่างปี 1763 -1765 โดยเป็นผลงานของ Jaakko ช่างไม้ที่ชื่อเสียงจากเมือง Laukaa ภายในโบสถ์ตกแต่งด้วยการใช้สีแดงวาดลวดลายตามรอยต่อของไม้ดูเรียบง่าย แต่มีเอกลักษณ์ในตัว ความโดดเด่นอีกอย่างคือ ส่วนที่เป็นฐานของธรรมาสน์ จะมีไม้แกะสลักอย่างงดงาม สีสันสดใส เป็นรูปหน้าของ St.Christopher ซึ่งเรียกกันว่า The paint of pulpit

2. วิหารอุสเพนสกี้ วิหารสไตล์ออโธดอกส์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ งดงามแปลกตาด้วยสถาปัตยกรรมแบบรัสเซีย มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจากการใช้เป็นสถานที่ถ่ายทําภาพยนตร์รางวัลออสการ์เรื่อง เรดส์ วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1864 ออกแบบและก่อสร้างโดย Aleksey Gornostayev โดยใช้เวลาก่อสร้างถึง 6 ปีเศษ ด้านนอกวิหารมีสีสันแปลกตาซึ่งหาดูได้ยาก โดยตัววิหารเป็นสีน้ำตาลอิฐ โดมสีฟ้าอ่อน และยอดโดมเป็นสีทอง ภายในตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยสีทองและอัญมณี มหาวิหารอุสเปนสกี้นี้ถือเป็นเครื่องแสดงถึงความสัมพันธ์ของฟินแลนด์กับ รัสเซียโดยที่รัสเซียเคยปกครองฟินแลนด์อยู่ถึง 100 กว่าปี

3. ปราสาทหิมะ (Snow Castle) เมืองเคมิ

ปราสาทที่สร้างอย่างอลังการจากหิมะและน้ำแข็งบนพื้นที่รวมกว่า 2 หมื่นตารางเมตร ปราสาทแห่งนี้มีขนาดเท่าเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งเลยทีเดียว โดยสร้างขึ้นจากการเจาะและแกะสลักน้ำแข็งอย่างประณีตงดงาม ถือเป็นงานประติมากรรมน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ภายในเมืองน้ำแข็งแห่งนี้ ประกอบด้วยสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งตกแต่งอย่างแปลกตามากมาย อาทิเช่น สโนว์เรสเตอรอง (Snow Restaurant) ภัตตาคารอาหารซึ่งเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ล้วนทำขึ้นจากน้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะหรือเก้าอี้สโนว์โฮเทล (Snow Hotel) ห้องพักสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งมีเตียงที่ทำขึ้นจากน้ำแข็ง และตามผนังก็มีการแกะสลักลายน้ำแข็งไว้อย่างสวยงาม รวมถึงสโนว์แชปเพล (Snow Chapel) หรือโบสถ์น้ำแข็ง ซึ่งมีไว้รองรับคู่บ่าวสาวที่ต้องการจัดงานแต่งงานแบบไม่เหมือนใคร

4. หมู่บ้านซานตาคลอส (SANTA CLAUS VILLAGE)

หมู่บ้านซานตาคลอส เมืองโรวาเนียอามิ ตั้งทางอยู่เหนือขึ้นไปจากเฮลซิงกิกว่าพันกิโลเมตร ที่เส้น Arctic Circle โรวาเนียอามิ เป็นเมืองหลวงของแลพแลนด์ แล้วก็เป็นบ้านเกิดและที่อยู่ของซานตาคลอสอย่างเป็นทางการ ฉะนั้นที่เที่ยวยอดนิยมของที่นี่จึงหนีไม่พ้น Santa Claus Village ที่หมู่บ้านนี้ยังมีลานกิจกรรมสนุก ๆ เกี่ยวกับหิมะมากมาย มีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ฟาร์มน้องหมาฮัสกี้ ฟาร์มกวางเรนเดียร์ มีบ้านและออฟฟิศของซานตาคลอส ซึ่งภายในตกแต่งด้วยสีสันสดใส และที่ขาดไม่ได้คือลุงซานต้าตัวจริงเสียงจริงที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่นั่นเอง

5. KOTA Village กระท่อมที่พักสุดชิคกลางทุ่งหิมะ

KOTA Village เมืองแลพแลนด์ โดยมีกิจกรรมยอดนิยมคือการชม Northern Lights หรือ Aurora แสงเรืองงดงามหลากหลายสีที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าในเวลากลางคืน ปรากฏการณ์สุดมหัศจรรย์นี้เกิดขึ้นเฉพาะในเขตขั้วโลกเหนือโดยจะเกิดในชั้นบรรยากาศที่มีความสูงจากพื้นโลก ประมาณ 100 ถึง 200 กิโลเมตร บางครั้งปรากฏ เป็นวงนิ่ง แล้วระเบิดออกมาเป็นสีต่าง ๆ บางทีก็เป็นแสงหลากสีวิ่งไปวิ่งมาอย่างสวยงาม นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมสนุกๆของชาวขั้วโลกเหนืออีกมากมายเช่น การนั่งรถเลื่อนที่ลากด้วยกวางเรนเดียร์ (Reindeer Sleigh)