รีวิว Shoyuu Bangna สุดยอดร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยมย่านบางนา
หากพูดถึงอาหารญี่ปุ่น เชื่อเลยว่าหลายๆ คนคงจะตาลุกวาวแน่นอน เพราะเป็นอาหารญี่ปุ่นนั้นถือเป็นสไตล์อาหารที่ได้รับความนิยมและเป็นที่โปรดปรานมากสำหรับสายกินในประเทศไทย
ซึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นระดับเทพส่วนมากล้วน ตั้งอยู่ในโซนใจกลางเมือง ไม่ว่าจะเป็นย่านทองหล่อ เอกมัย หรือรัชดา แต่วันนี้ Sanook! Travel จะพาคุณไปรู้จักกับ ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมี่ยมที่ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองย่านบางนากันบ้าง
กับร้าน Shoyuu Bangna ร้านอาหารญี่ปุ่นที่จะเปิดประสบการณ์การทานอาหารแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ทั้งบรรยากาศ รสชาติของอาหารและวัตถุดิบ โดยที่คุณไม่ต้องเดินทางไปไกล แต่สามารถหาทานได้ใกล้บ้านคุณ
สัมผัสแรกที่คุณจะได้รับเมื่อเดินเข้าสู่ร้าน Shoyuu Bangna คือความสวยงามของทางร้านที่ตกแต่งในสไตล์ Modern Contemporary ใช้ไฟสีส้มสลัวๆ ในการประดับร้าน ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่นตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในร้าน
ในส่วนของโต๊ะที่นั่งจะถูกแบ่งโซนเอาไว้อย่างชัดเจน ทั้งโซนที่เป็นโต๊ะอาหาร และบาร์สำหรับนั่งทานอาหารไปพร้อมกับชมฝีมือการแล่ปลาของเชฟ
และโซนไฮไลท์ที่เราอยากจะแนะนำให้แก่ทุกคนนั่นก็คือ โซนห้องรับรองแบบวีไอพี ที่มีลักษณะคล้ายกับห้องนอนในบ้านแบบญี่ปุ่น
ต่างกันตรงที่ห้องนอนแบบญี่ปุ่นเมื่อเราเปิดเข้าไปจะเจอกับเสื่อทานามิและฟูก แต่ห้องรับรองนี้เราจะได้เจอกับโต๊ะอาหารรองรับสำหรับ 6 คนนั่นเอง
เดินถ่ายภาพเก็บบรรยากาศบริเวณรอบร้านกันแล้วเราก็ไปสะดุดตากับวัตถุดิบหลายๆ อย่างของทางร้าน ไม่น่าเชื่อว่าในย่านบางนานี้จะมีร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมขนาดนี้อยู่ด้วย
ไมว่าจะเป็น โอโทโร่ (เนื้อปลาทูน่าส่วนท้องมันที่สุด) กุ้งล็อบสเตอร์ หอยแครงยักษ์ ปลาฮามาจิ ปลาบุริ
และไฮไลท์ที่ซุกซ่อนอยู่อย่างเนื้อ Kagoshima Wagyu ระดับ A4 ที่หาทานไม่ได้ง่ายๆ ส่งตรงมาจากเมือง Kagoshima ซึ่งทางร้านยังได้รับประกาศนียบัตรจากเมือง Kagoshima มาด้วยจึงมั่นใจได้ว่าเนื้อ วากิวของทางร้านนี้เป็นของแท้แน่นอน
เมื่อเดินสำรวจรอบบริเวณร้านกันจนท้องเริ่มร้องแล้วก็ได้เวลาที่เรารอคอย เรากลับไปรอในห้องวีไอพีไม่นานอาหารจานแรกก็เริ่มมาเสิร์ฟ
อาหารจานแรกสำหรับวันนี้เป็นเมนูเบาๆ เรียกน้ำย่อย แต่ความอร่อยไม่เบาเลย! เมนูนี้มีชื่อว่า Shoyuu Salad สลัดสไตล์ญี่ปุ่นที่อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่ ทั้งปลาแซลม่อน ปลาทูน่า Akami และปลามะได หอยปีกนก
คลุกเคล้ากับผักใบเขียวกรอบๆ ออนท็อปไว้ด้วยอโวคาโด้และไข่ปลาแซลม่อน ความแปลกของสลัดที่นี่คือไม่มีน้ำสลัดราดมาบนจานแต่จะมีน้ำสลัดสูตรพิเศษ เสิร์ฟมาพร้อมกับจานสลัดให้ได้จิ้มลิ้มลองรสชาติกันแบบชัดๆ
ซึ่งเมื่อได้ลองทานสลัดคู่กับน้ำสลัดแล้วจึงทำให้เราเข้าใจว่าทำไมทางร้านถึงมั่นใจในรสชาติของน้ำสลัดได้ขนาดนี้ เพราะว่าน้ำสลัดของทางร้านนั้นเข้มข้นมาก
เป็นรสชาติที่แปลกใหม่ไม่เคยทานที่ไหนมาก่อน รสชาติออกเปรี้ยวและเค็ม กำลังดี ทานคู่กับผักและเนื้อปลาโดยรวมคือดีงาม
แค่เมนูเรียกน้ำย่อยก็เล่นเอาซะเราน้ำย่อยแตกทั่วท้องแล้วมาถึงเมนูต่อไปกันเลยดีกว่า Buri Kappacho ปลาบุริสไลด์บางราดซอสทรัฟเฟิล ขอบอกเลยว่าเนื้อปลาบุริที่เราเคยทานที่อื่นแตกต่างจากที่นี่อย่างสิ้นเชิง
ด้วยความที่เนื้อปลาทามาด้วยซอสทรัฟเฟิล ทำให้มีความมันและหวานมาก กลิ่นหอมติดปลายลิ้นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเห็ดทรัฟเฟิล เนื้อปลาที่สไลดฺ์มาได้อย่างพอดีคำ และท็อปปิ้งเครื่องเคียงที่เอาไว้ตัดเลี่ยน
ทุกอย่างในจานนี้ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นอีกหนึ่งจานที่เราชอบมากๆ ใครมาทานอย่าพลาดต้องสั่งมาลองกันให้ได้เลยครับ
มาต่อกันที่เมนูที่ 3 ในวันนี้ Niku Tataki เมนูที่ Meat Lover แบบเรารู้สึกฟินแบบสุดๆ ตั้งแต่ชิ้นแรกไปจนชิ้นสุดท้าย เนื้อวัว Kagoshima เกรด A4 นำไปเบิร์นจนมีกลิ่นหอมของน้ำมันที่โดนไฟ สไลด์เป็นชิ้นขนาดพอดีคำเสิร์ฟมาบนน้ำแข็ง
สัมผัสแรกที่ได้ทานเนื้อ Kagoshima ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกสำหรับเราด้วยทีไ่ด้ลองทานเนื้อจากเมืองเนื้อ เอกลักษณ์พิเศษของเนื้อวากิวจากเมือง Kagoshima คือ มีกลิ่นหอมที่ไม่เหมือนใคร และมีมันแทรกที่ไม่มากจนเลื่อน และไม่น้อยจนเกินไป
เนื้อมีความนุ่มละลายไม่มีเอ็นเนื้อที่ทำให้เคี้ยวยากเลยแม้แต่น้อย และที่สำคัญไม่มีกลิ่นคาวเลยด้วย คนที่กลัวทานเนื้อแบบกึ่งสุกกึ่งดิบแล้วจะคาวบอกเลยว่าหายห่วงครับ เพิ่มมิติของรสชาติด้วยซอสพอนซึสูตรพิเศษ
ที่ทางร้านดัดแปลงนำพอนซึไปทำเป็นเจลลี่ให้ทานพร้อมกับเนื้อวากิว ได้รสชาติที่เข้ากันและแปลกใหม่ไปอีกแบบใครชอบทานเนื้อไม่สั่งเมนูนี้ถือว่าผิด!
ยังไม่หมดเท่านี้เพราะพระเอกของเรากำลังจะออกมาโชว์ตัวบนโต๊ะอาหาร แน่นอนว่าหากพูดถึงอาหารญี่ปุ่นนั้นความสดใหม่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งเมนูอาหารที่จะแสดงออกถึงความสดใหม่ของทางร้านได้เป็นอย่างดีก็คือ ซาซิมินั่นเอง
เคยมีคนบอกว่าไปทานร้านอาหารญีปุ่นถ้าซาซิมิไม่อร่อยทุกอย่างคือจบ เราจะมาลองพิสูจน์กันครับว่าซาซิมิของที่นี่เป็นอย่างไร
เราเลือกเมนูซาซิมิปลา 3 ชนิด (โอโทโร่ ฮามาจิ มะได) ซึ่งถือเป็นตัวเอกของทางร้านและได้ชื่อว่าเป็นปลาที่มีรสชาติอร่อยที่สุดในตระกูลปลาญี่ปุ่นอีกด้วย
เมื่อซาซิมิมาเสิร์ฟ สิ่งแรกที่สะดุดตาเราอย่างมากเลยก็คือ โอโทโร่! หรือส่วนท้องของปลาทูน่านั่นเอง คือแค่มองด้วยตาเปล่าก็รู้แล้วว่า โอโทโร่ 2 ชิ้นนี้คุณภาพระดับเกรด A เลยก็ว่าได้ มันแทรกระหว่างชิ้นเน้อปลาแบบจัดเต็มมาก
จนเราไม่แน่ใจว่านี่มันเนื้อปลาหรือเนื้อวัวกันแน่ ส่วนฮามาจิก็สไลด์มาได้ชิ้นใหญ่มากๆ เนื้อปลาสีสวย มองดูน่าทาน และปลาเนื้อขาวอย่างมะไดก็มองดูสดใหม่และน่าจะหวานสุดๆ
เราเริ่มลองชิมเนื้อปลาตามหลักการทานอาหารญี่ปุ่น โดยเริ่มจากปลาเนื้อขาวก่อน ปลามะไดเนื้อหวานอย่างที่เราคิดไว้จริงๆ บีบมะนาวลงไปนิดหน่อยช่วยชูรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น
และต่อมาด้วยฮามาจิซึ่งเป็นหนึ่งในปลาที่เราชอบที่สุด และทางร้านก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง ฮามาจิอร่อยมาก!!! รสชาติหวานมันรสชาติเข้มข้น จิ้มกับวาซาบิผสมโชยุฟินสุดๆ
และสุดท้ายไฮไลท์สำหรับวันนี้ เราได้บรรลุและเข้าใจในคำว่า โอโทโร่ อย่างแท้จริงจากร้านนี้! เนื้อหวานช่ำละลายในปากอย่างที่หลายๆ คนพูดกันที่เราไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนเกิดขึ้นกับเราแล้วในวันนี้
ความหอมมันที่กระจายอยู่ในปาก เผลอหลงใหลไปกับความอร่อยเพียงไม่กี่วินาทีเนื้อปลาก็ละลายหายไปในปาก คงเหลือไว้แต่ความประทับใจที่ยังคงทิ้งไว้แก่เรา ยกให้คำนี้เป็นเดอะเบสของวันนี้ไปเลยครับ
นอกจากซาซิมิแล้วยังมีอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตของคนไทยอย่างแซลม่อนโรลมาเสริมทัพต่อด้วย ซึ่งเมนูนี้มีชื่อว่า Shoyuu Roll เป็นโรลคำโตที่พันด้วยเนื้อปลาแซลม่อนชิ้นใหญ่ ข้างในโรลมีฟรัวกราส์ อโวคาโด้และผักต่างๆ
จะทานให้อร่อยตั้งจัดเต็มแบบเต็มคำในทีเดียว รสชาติทุกอย่างจะไปผสมปนกันในปากของเรา ความหอมมันของฟรัวกราส์และอโวคาโด้ปะทะกับความอร่อยของเนื้อปลาแซลม่อน กลมกล่อมมากๆ ครับ เป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำของทางร้านด้วย
และเมนูสุดท้ายในวันนี้ของเราก็คือเต้าหู้ญี่ปุ่นทรงเครื่อง ปิดท้ายด้วยเมนูเบาๆ ก่อนจะเข้าสู่โหมดของหวาน กับเต้าหู้ญีปุ่นชิ้นโตที่ทอดกรอบด้านนอกแต่ข้างในยังนุ่มอยู่ เสิร์ฟมาบนน้ำซอสสูตรของทางร้าน
มีความหอมละมุนเมื่อทานคู่กับเต้าหู้คือช่วยเพิ่มรสชาติให้อร่อยมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งเมนูทานเล่นที่สั่งมาทานกันได้เพลินๆ ครับ
หมดไปแล้วสำหรับเมนูของคาว เรายังไม่หยุดกันแต่เพียงเท่านั้นมาลองทานกันทั้งทีต้องเอาให้ครบสูตร เมนูของหวานต้องมา!
ของหวานของเราในวันนี้คือ Panna Cotta Green Tea พานาคอตต้าชาเขียวเด้งๆ เสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมชาเขียว และมีท็อปปิ้งเป็นแป้งโมจิญี่ปุ่น สตรอว์เบอร์รี่และถั่วแดงบด
ตัวพาคอตต้ามีความนุ่มและยืดหยุ่นเมื่อทานไปจะเหมือนเข้าไปละลายในปาก ไอศกรีมชาเขียวไม่หวานจนเกินไป ทานคู่กับแป้งโมจิถั่วแดงและสตรอว์เบอร์รี่ยิ่งชูรสชาติความอร่อย ซึ่งเมนูของหวานนี้ทางร้านแอบกระซิบมาว่าทำเองทั้งหมดด้วย
เป็นเมนูของหวานปิดท้ายอาหารมื้อนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นอีกหนึ่งมื้ออาหารที่อร่อยคุ้มค่าอร่อยจริงๆ ใครว่าอาหารญี่ปุ่นอร่อยต้องไปทานในกรุงเทพ
วันนี้เราได้มาพิสูจน์แล้วว่าย่านบางนา-สมุทรปราการก็มีร้านอาหารญี่ปุ่นระดับเทพอย่าง Shoyuu Bangna อยู่ด้วย สาวกอาหารญี่ปุ่นย่านบางนาอย่ารอช้ารีบไปลองกันเลยครับ
ใครสนใจไปทานอาหารในช่วงนี้ทางร้านมีโปรโปรชั่นหากทานครบ 2,000 บาท จะได้รับคูปองทายผลฟุตบอลโลก ลุ้นรับโชค 2 ชั้น ใครสนใจไปร่วมสนุกกันได้ตามรูปภาพด้านล่างครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม
ที่ตั้ง Shoyuu Bangna : โครงการ Little Walk ถนนบางนาตราด กม.4 ติดกับโรงพยาบาลไทยนครินทร์ แขวง บางนา เขต บางนา กรุงเทพมหานคร
เบอร์โทรศัพท์ : 089 620 8888
เวลาเปิด - ปิด : วันจันทร์ - ศุกร์ 11.00 - 14.00 น. และอีกช่วงคือ 17.00 - 22.00 น.
เสาร์ - อาทิตย์ 11.00 - 22.00 น.
Facebook : Shoyuu Bangna
อัลบั้มภาพ 78 ภาพ