รีวิวของกินอร่อยในมาเก๊า ตั้งแต่สตรีทฟู้ดไปจนถึงร้านระดับมิชลินสตาร์!
เป็นที่รู้กันดีว่ามาเก๊านั้นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องของกินอร่อยๆ เยอะมาก ใครที่เคยคิดว่าอาหารจีนจะต้องจืดๆ และไม่ค่อยถูกปากคนไทย
หากคุณได้ลองมาชิมอาหารที่มาเก๊าจะเปลี่ยนความคิดของคุณไปตลอดกาลจริงๆ ที่นี่มีอาหารการกินที่หลากหลาย ของอร่อยซุกซ่อนอยู่ทุกมุม
วันนี้ Sanook! Travel จะพาคุณไปตามหาของอร่อยในมาเก๊ากันครับ ไว้เป็นลายแทงสำหรับคนที่มีทริปจะไปมาเก๊าได้ไปตามรอยกัน
1.ทาร์ตไข่ Lord Stow's
แน่นอนว่าของกินอันดับหนึ่งที่คนไทยจะนึกถึงหากไปมาเก๊าก็คือทาร์ตไข่นั่นเอง ที่นี่ถือเป็นต้นตำรับในเรื่องของทาร์ตไข่ในเอเชียเลยก็ว่าได้ สูตรการทำทาร์ตไข่ของมาเก๊านั้นได้รับสืบทอดมาจากชาวโปรตุเกสในอดีต
โดยการหาทาร์ตไข่ทานในมาเก๊านั้นสามารถพบเจอได้ทั่วไปตามท้องถนนมีให้เลือกหลากหลายร้าน ซึ่งร้านที่เราได้ลองในวันนี้มีชื่อว่า Lord Stow's ร้านที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นตำรับทาร์ตไข่แห่งมาเก๊า และมีสาขาอยู่ทั่วมาเก๊า
รสชาติทาร์ตไข่ที่เพิ่งจะอบออกมาจากเตายังคงอุ่นๆ มีความกรอบนอกนุ่มใน เนื้อไข่ข้างในมีความนุ่มเนียนหอมกลิ่นไหม้นิดๆ หวานกำลังดี อร่อยมาก! ไม่แปลกใจเลยทำไมใครๆ ถึงอยากมากินทาร์ตไข่ที่มาเก๊ากัน
2.เบอร์เกอร์หมูพอร์คช็อปสไตล์มาเก๊า (Prok Chop Bun)
ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ถนน Cunha Street ถือว่าเป็นร้านเก่าแก่ของมาเก๊าเลยทีเดียว ร้านขนมปังไส้หมูพอร์คช็อปเต็มๆ ทั้งชิ้น เวลาทานจะมีลักษณะคล้ายกับเบอร์เกอร์
เริ่มต้นจากตัวขนมปังก่อน ขนมปังที่ดูเหมือนจะธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดา เพราะตรงพื้นผิวขนมปังนี้จะมีความพิเศษคือมีความกรอบและมีรสชาติหวานๆ หอม ด้านในขนมปังมีความนุ่ม เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน
เนื้อหมูชิ้นโตที่ใส่มาให้แบบไม่มีหวง กัดไปเต็มปากเต็มค่ำ ตัวเนื้อมีความชุ่มฉ่ำไม่แห้ง ซอสปรุงรสที่ทามาบนเนื้อหมูพอร์คช็อปก็เข้มข้น ทานคู่กับขนมปังคือดีงาม เมนูนี้แนะนำว่าต้องไปลอง!
3.โจ๊กปู ร้าน Seng Cheong
อีกหนึ่งร้านอร่อยแห่งถนน Cunha Street กับร้าน Seng Cheong ที่มีเมนูเด็ดที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้มาลอง นั่นก็คือโจ๊กปูนั่นเอง และไม่ใช่แค่โจ๊กที่ใส่เนื้อปูนะครับ
เพราะร้านนี้ใส่ปูลงมาในหม้อทั้งตัว!!! ตอนแรกก่อนจะทานหลายคนคงจะนึกรสชาติไม่ออกว่าโจ๊กที่ใส่ปูมาทั้งตัวจะรสชาติเป็นอย่างไร เราขออนุญาตเฉลยเผยถึงความอร่อยเลยครับ
ตัวเนื้อโจ๊กจะมีความเข้มข้นขึ้นมากกว่าปกติ มีรสชาติของมันปูที่ผสมลงไปในเนื้อข้าว และมีกลิ่นที่หอมมากๆ ทานได้แบบไม่ต้องปรุงเพิ่มเลย แถมมีชิ้นส่วนของปูให้ทานกันแบบเต็มอิ่มด้วย ฟินๆ กันไปกับจานนี้
นอกจากโจ๊กปูแล้วที่ร้านยังมีเมนูเด็ด อย่างกุ้งผัดซอสไข่เค็มรสชาติเข้มข้น และลูกชิ้นปลาหมึก ที่ต้องสั่งมาลองอร่อยเด็ดจริงๆ
4.อาหารสไตล์โปรตุกีส ที่ร้าน Albergue 1601
อย่างที่รู้กันดีว่ามาเก๊านั้นตกอยู่ภายใต้การปกครองของโปรตุเกสอยู่ในยุคหนึ่ง เพราะฉะนั้นเราจึงจะเห็นวัฒนธรรมของโปรตุเกสได้ตามถนนหนทางและตึกเก่าๆ ภายในมาเก๊าและอีกสิ่งหนึ่งที่เราจะเห็นได้บ่อยๆ ในมาเก๊านั่นก็คืออาหารโปรตุเกสนั่นอง
ซึ่งหากใครอยากจะลิ้มลองรสชาติอาหารแบบโปรตุกีสแท้ๆ เราขอแนะนำ Albergua 1601 ร้านอาหารโปรตุเกสที่ซ่อนตัวอยู่ใน Tap Saek ย่านที่มีตึกราบ้านช่องเป็นสไตล์ชิโนโปรตุกีสสุดคลาสสิคเป็นอีกนหึ่งมุมถ่ายรูปที่ควรมา
เมื่อเดินมาตามถนนเรื่อยเราก็จะพบกับป้ายร้าน Albergue 1601 ร้านจะตั้งอยู่ในตึกเก่าสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ทุกคนตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นเลยทีเดียว
อาหารภายในร้านจะเป็นสไตล์ตะวันตก รวมไปถึงการตกแต่งภายในร้านด้วย เมนูแนะนำที่มาร้านนี้แล้วห้ามพลาดได้แก่ Clams In Garlic Sauce (หอยกาบในซอสกระเทียมและไวน์ขาว) จานนี้ขอบอกเลยว่าคือที่สุดของที่สุด
ตัวซอสที่ราดมาบนหอยอร่อยมากๆ มีส่วนผสมของกระเทียมและไวน์ขาวปรุงรสมาได้อย่างดีเยี่ยมตัวซอสซึมเข้าไปสู่หอยได้อย่างดีเยี่ยมอร่อยมากจริงๆ
และต่อมาด้วยเมนู ยำปลาหมึกยักษ์ เปรี้ยวหวานกำลังดี ช่วยเพิ่มความหิวให้ทวีคูณมากขึ้นไปอีก และยังมีเมนูต่างๆ อีกมากมายที่ขอชื่นชมเลยว่าทำให้คนที่ไม่เคยทานอาหารโปรตุเกสมาก่อนถึงกับติดใจในความอร่อย
ใครชอบทานอาหารโปรตุเกสร้านนี้ต้องไปลองครับ บรรยากาศดีอาหารอร่อย เหมาะจะเลือกเป็นร้านดินเนอร์สุดพิเศษในมาเก๊าของคุณ
5.อาหาร Macanese ระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาว ที่ร้าน The Eight (8) ในโรงแรม Grand Lisboa
มาเที่ยวถึงมาเก๊าทั้งทีต้องลองอะไรที่หรูหราเข้ากับสไตล์ของเมืองมาเก๊าซะหน่อย The Eight ภัตตาคารหรูที่ตั้งอยู่ในโรงแรม Grand Lisboa โรงแรมและคาสิโน่แห่งแรกในมาเก๊านั่นเอง
ความหรูหราเริ่มต้นตั้งแต่เดินก้าวแรกเข้าสู่โรงแรมแห่งนี้ ตัวภัตตาคารตั้งอยู่ที่ชั้น 8 ของโรงแรม ภัตตาคารนี้จะยึดหลักฮวงจุ้ยว่าเลขแปดเป็นเลขนำโชคเพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างภายในร้านจะเป็นเลข 8 ไปหมด ทั้งการตกแต่งรวมถึงชื่อร้าน
เมื่อเดินเข้าไปสู่ห้องอาหารพนักงานก็จะเริ่มอธิบายคอร์สเมนูอาหารในวันนี้ให้แก่เรา และเริ่มเสิร์ฟน้ำชามะลิ ให้แก่ทุกคน คือแค่ได้ลองชิมชามะลิก็รู้ทันทีเลยว่าทำไมที่นี่ถึงได้ถูกยกย่องให้เป็นห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ เพราะขนาดแค่ชายังหอมและอร่อยขนาดนี้!
เริ่มต้นคอร์สเมนูแรกกันด้วย ฮะเก๋ากุ้งที่เสิร์ฟมาในรูปทรงของปลาทอง สัตว์นำโชคในความเชื่อของชาวจีน และขนมจีบกุ้งออนท็อปด้วยหอยเป่าฮื้อ บอกได้เลยว่าสองคำนี้คือฟิน! เป็นติ่มซำที่อร่อยมากๆ
ฮะเก๋ามีความกรอบและเด้งด้วยไส้กุ้งด้านใน ขนมจีบมีความหอมและหนึบสู้ฟันมากเพราะมีหอยเป่าฮื้ออยู่ด้านบนด้วย รสชาติอร่อยกลมกล่อมจานเพอร์เฟ็คเลยครับสำหรับจานนี้
จานที่สองซาลาเปาไส้หมูที่มีความน่ารักเพราะทางร้านปั้นซาลาเปามาเป็นรูปเม่นมีหนามด้วย ยอมใจในความละเอียดจริงๆ เคียงคู่มากับกุ้งนิ่งที่สอดไส้มาในแป้งพายทรงกระเป๋าถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้คะแนนความสร้างสรรค์ไปตั้งแต่เห็นภายนอก
ซาลาเปารสชาติอร่อยแป้งนุ่มใช้ได้ ส่วนกุ้งนึ่งที่ยัดไส้มาในแป้งพายทรงกระเป๋านั้นรสชาติอ่อนไปนิดหนึ่ง
มาต่อกันที่จานที่ 3 ในมื้อนี้ หมูหันหนังกรอบ และ หมูแดง เริ่มเข้าสู่เมนูหนักๆ กันบ้าง เริ่มต้นกันที่หมูหันหนังกรอบ ให้คะแนนความกรอบเต็ม 10 เลยจริงๆ เพราะเมื่อทานไปให้ความรู้สึกที่กรอบและไม่แห้งจนเกินไป อร่อยดีครับเมนูนี้ อีกหนึ่งเมนูในจานนี้ก็คือหมูแดงชิ้นโต ด้วยความที่ว่าหมูแดงนี้เป็นของขึ้นชื่อของคนจีนอยู่แล้ว เราจึงคาดหวังไว้มากเลยทีเดียว และเมื่อได้ลองทานหมูแดงที่นี่ บอกเลยว่าอร่อยเกินกว่าที่คิดไว้มาก หมูแดงชิ้นใหญ่ก็จริงแต่ไม่มีความเหนียวเลยสักนิด มีกลิ่นหอมของน้ำผึ้งนิดๆ เนื้อหมูมีความนุ่มชุ่มลิ้น เป็นอีกหนึ่งจานที่ชอบมากๆ ในคอร์สนี้ครับ
จานต่อมาเป็นกระเพาะปลาและเนื้อเป็ด เป็นเมนูซุปที่ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว รสชาติของน้ำซุปที่เคี่ยวจนมีความเหนียว ทานคู่กับเนื้อเป็ดและกระเพาะปลา เป็นการผสมผสานที่ลงตัวทานได้แบบคล่องคอจริงๆ
มาถึงเมนูไก่ของร้านนี้ ที่ใช้ชื่อว่า Pai Pa Style Chicken ไก่ทอดกรอบหนังเกรียมๆ เสิร์ฟมาพร้อมใบกระเพราทอดกรอบ หนังไก่มีความกรอบแต่ด้านในยังคงนุ่มและชุ่มช่ำอยู่ ทานคู่กับกะเพรากรอบสร้างเทคเจอร์เพิ่มขึ้นไปอีก
และมาถึงตรงนี้เราก็เริ่มจะอิ่มกันแล้วแต่ยังครับ! ยังไม่จบ เพราะมีเมนูผักตามมาอีกหนึ่งเมนู ก้านลิลลี่ผัดน้ำมันหอย ชื่อเมนูที่ไม่คุ้นหูเลยสักนิดแต่อร่อยไม่นิดเลยครับ ใครจะไปรู้ว่าก้านต้นลิลลี่จะสามารถนำมาทานอาหารได้อร่อยขนาดนี้ เรียกได้ว่าจากตอนแรกที่ว่าจะอิ่มๆ นี่กระเพาะเปิดขึ้นมาทันที อยากจะขอข้าวสวยสักจานจริงๆ
แล้วคำขอที่เราคิดในใจก็เป็นจริงขึ้นมา เหมือนกับร้านจะรู้ว่าเราต้องการข้าว เพราะไม่ทันไรพนักงานก็นำข้าวผัดทะเลมาเสิร์ฟให้แก่เรา ซึ่งข้าวถ้วยนี้เป็นการปิดท้ายอาหารมื้อนี้ของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทานคู่กับก้านต้นลิลลี่ผัดน้ำมันหอย เป็นอะไรที่เข้ากันมากๆ อร่อยจนจานสุดท้ายจริงๆ
ของคาวผ่านพ้นไปแล้ว ถึงเวลาของของหวาน ทางร้านเสิร์ฟเต้าฮวยนมสดออนท็อปด้วยแพรสด บลูเบอร์รี่ และราดด้วยนมแอลมอนด์ เป็นเมนูปิดท้ายที่มีความหอมหวานและสดชื่นมากๆ
เป็นประสบการณ์ทานอาหารระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาว ที่ทำให้เราได้เปิดโลก และทำให้ได้เข้าใจจริงๆ ว่าความอร่อยระดับมิชลินสตาร์นั้นเป็นอย่างไร ใครมาเที่ยวมาเก๊าต้องลองดูสักครั้งครับ!
อัลบั้มภาพ 28 ภาพ