6 ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว น่าเก็บกระเป๋าไปเยือนสักครั้ง
เมื่อลมหนาวกำลังมาเยือน แต่สายฝนก็ยังไม่ยอมบอกลา สถานการณ์ที่ทั้งหนาวและชุ่มฉ่ำเช่นนี้ จะจัดทริปหอบเป้ไปลุยปลายฝนต้นหนาวที่ไหนดี วันนี้เรามีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมาฝากกัน
1.บ้านป่าบงเปียง จ.เชียงใหม่
หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “นาขั้นบันได บ้านป่าบงเปียง” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว ที่คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับกลิ่นอายฝน สายหมอกยามเช้า และความสวยงามต้นข้าวสีเขียวขจีที่ปลูกลดหลั่นไล่ระดับ เป็นขั้นบันไดที่สวยงาม
ยิ่งหากคุณมาเยือน “บ้านป่าบงเปียง” ช่วงปลายฝนต้นหนาว (ประมาณปลายเดือนตุลาคม จนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน) ภาพทุ่งข้าวสีเขียวขจี จะแปรเปลี่ยนเป็น “ทุ่งข้าวสีเหลืองทองอร่าม” ที่จะดูงดงามเกินหาคำบรรยาย ยามกระทบแสงสีเหลืองทองอ่อน ๆ จากพระอาทิตย์ ยามโผล่ขึ้นจากขอบฟ้า หรือยามลาลับเหลี่ยมขอบฟ้า
2.บ้านจ่าโบ่ จ.แม่ฮ่องสอน
“ชุมชนบ้านจ่าโบ่” เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างปายมากนัก เหมาะกับผู้ที่อยากไปสัมผัสบรรยากาศการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะผู้ที่อยากไปสัมผัสบรรยากาศแสงอาทิตย์ส่องมากระทบสายหมอกเบา ๆ ด้วยแล้ว บอกเลยว่า ยามเช้าของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งคุย นั่งทานข้าว นั่งจิบกาแฟ หรือนั่งตั้งกล้องรอเก็บภาพ วินาทีที่แสงอาทิตย์ยามเช้าโผล่พ้นเหลี่ยมเขา ณ บ้านจ่าโบ่ เป็นภาพที่งดงามไม่แพ้ที่ใดแน่นอน
และบ้านจ่าโบ่ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามของธรรมชาติเท่านั้น ยังมีวิถีชีวิตชนเผ่าที่น่าสนใจและน่ามาเรียนรู้อีกด้วย
3.ดอยหัวหมด อ.อุ้มผาง จ.ตาก
ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเยือนสักครั้งในชีวิต ด้วยยอดดอยที่มีระดับความสูงไม่มากนัก แถมเส้นทางขึ้นไปยังยอดดอยหัวหมดก็อยู่ไม่ไกลจากจุดจอดรถ เรียกว่า ลงจากรถและเดินวอร์มร่างกายเบา ๆ คุณก็ได้พบกับวิวทิวทัศน์ที่ทอดตัวอยู่เบื้องล่างแล้ว
แม้ไม่สามารถชมวิวได้กว้างถึง 360 องศา แต่ภาพปุยเมฆท่ามกลางทิวเขาที่สลับซ้อนทับกันไปมา ตัดกับสีเขียวชอุ่มของพื้นป่าที่โผล่ขึ้นมาท่ามกลางเมฆหมอก ที่ถูกแต่งเติมด้วยสีเหลืองทองอ่อน ๆ ของพระอาทิตย์ ก็เป็นภาพที่สวยงามและชวนให้หลงใหลไม่น้อย
4.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา
“เขาใหญ่” คงเป็นชื่อที่คุ้นหูใครต่อใคร พื้นป่าอันอุดมไปด้วยต้นไม้ พรรณไม้นานาชนิด และสัตว์ป่านานาชนิด ทำให้เขาใหญ่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุง ที่เหมาะไปเรียนรู้การใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ
และมีที่พักให้เลือกทั้งแบบกางเต็นท์นอนหรือบ้านพัก ส่วนกิจกรรมบนเขาใหญ่ก็มีให้เลือกทำมากมาย ไม่ว่า จะเป็นการเดินสำรวจตามเส้นทางธรรมชาติ ที่จะพาคุณเดินลัดเลาะผ่านพื้นป่าในระยะทางไม่ใกล้ ไม่ไกลมากนัก ระหว่างเส้นทางนอกจากป่าเขียวแล้ว คุณจะได้พบกับพื้นที่โล่งที่มี “โป่ง” แหล่งอาหารเล็ก ๆ ของเหล่าสัตว์ป่า หรือจะเป็นหอชมวิว
แต่หากคุณอยากสัมผัสละอองน้ำเล็ก ๆ น้ำตกเหวนรก หรือน้ำตกเหวสุวัต ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ หรืออยากเก็บภาพวิวสวย ๆ “ผาเดียวดาย” ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวมักแวะไปเช็กอิน
เมื่อยามค่ำคืนมาเยือน การนั่งพูดคุยกันเบา ๆ ท่ามกลางแสงดาว อาจดูโรแมนติกไม่น้อย แต่เชื่อเถอะว่า การนั่งรถออกไปสอดส่องชีวิตของสัตว์ป่ายามค่ำคืน ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน
5.ภูป่าเปาะ จ.เลย
หรือที่นิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ฟูจิเมืองเลย” จัดเป็นจุดชมวิวที่เหมาะแก่การนั่งชมทะเลหมอกที่ห้อมล้อมรอบภูหอเป็นอย่างมาก ที่สำคัญคุณสามารถมาเที่ยว “ภูป่าเปาะ” ได้ทุกฤดู เพราะความสวยงามในแต่ละฤดูงดงามไม่แพ้กันทีเดียว
หากไปเที่ยวช่วง “ฤดูร้อน” คุณจะพบกับภาพสีเหลืองทองของทุ่งหญ้าและขุนเขา แต่ใน “ฤดูฝน” จากภาพสีเหลืองทอง แปรเปลี่ยนเป็นความชุ่มฉ่ำและสีเขียวขจีของภูเขาและท้องนา ขณะที่ “ฤดูหนาว” คุณจะได้พบกับทะเลหมอกที่อยู่ท่ามกลางสีเขียวขจีของพื้นป่า
6.เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก
หรือ “เขื่อนคลองท่าด่าน” ถือเป็นเขื่อนที่มีจุดชมวิวสวยงามอีกจุดหนึ่งของ จ.นครนายก และนับตั้งแต่มีการเปิดใช้งานเขื่อนขุนด่านฯ อย่างเป็นทางการ ก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่หลั่งไหลไปชมวิวที่เหนือสันเขื่อนแห่งนี้
แต่เขื่อนขุนด่านฯ ไม่ได้มีดี แค่วิวบนสันเขื่อนเท่านั้น ยังมีกิจกรรมล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ของเกาะกลางน้ำที่กระจายตัวอยู่รอบเขื่อนที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ ที่สำคัญ บางเกาะก็เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชื่นชมธรรมชาติ และเล่นน้ำตกเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่บนเกาะนั้น ๆ ได้
>> 8 ที่เที่ยวฟินๆ ในช่วงปลายฝนต้นหนาว
>> บ้านรักไทยแม่ฮ่องสอน ดินแดนอันแสนจะโรแมนติกท่ามกลางสายหมอก
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ