เที่ยวอ่างทอง กินเมล่อน คาเฟ่ฮอปปิ้ง กินกุ้งแม่น้ำ เมืองรองที่ไม่ควรมองข้าม
มีหนึ่งวันไปไหนดี!
ตอบให้ได้ทันทีว่าถ้าอยากได้อะไรที่แปลกใหม่ สามารถเที่ยวได้แบบ One Day Trip ไปเช้าเย็นกลับ ไม่ต้องลางาน ไม่ต้องเหนื่อยขับรถไกล ขอให้จิ้มพิกัดในจีพีเอสไปที่ “อ่างทอง” เมืองรองที่ถูกขนานนามว่าไม่ควรมองข้ามในทันที เพราะด้วยระยะทางเพียง 105 กิโลเมตร ใช้เวลาในการขับรถจากกรุงเทพแค่ชั่วโมงครึ่ง ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำครบทั้งเรื่องกิน เรื่องเที่ยว ทั้งยังมีร้านกาแฟบรรยากาศดีให้นั่งเล่น รวมถึงยังได้ถือโอกาสทำบุญเข้าวัดที่ขึ้นชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์เป็นอันดันต้นของประเทศ
ครั้งนี้เราออกเดินทางโดยเลือกใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) แล้วเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ผ่านอำเภอบางปะอิน อำเภอบางปะหัน ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นก็ตรงยาวจนถึงอ่างทอง
จุดหมายแรกของการเดินทางวันนี้อยู่ที่ “วัดม่วง” เพื่อแวะสักการะหลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลกกับขนาดสูงประมาณตึก 32 ชั้น ซึ่งมีความเชื่อกันว่าถ้าอยากให้หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า ควรมาขอพรและใช้มือแตะที่ปลายพระหัตถ์แล้วจะสมหวัง ขับรถไปตามเส้นทางสายอ่างทอง-วิเศษชัยชาญ จนถึงกิโลเมตรที่ 29 จากนั้นเลี้ยวตามทางเข้าไปอีก 1 กิโลเมตรจะเห็นวัดอยู่ทางซ้ายมือ
จากนั้นเลือกใช้เส้นทางผ่านแยกเรือนจำ ตรงยาวไปจนถึงอำเภอแสวงหาระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตรจะเจอกับ “อินโตฟาร์ม” ฟาร์มเมล่อนขนาดใหญ่ ด้านหน้าเป็นโซนร้านอาหาร มีทั้งคาวและหวาน ไฮไลท์อยู่ที่ของหวานที่นำเมล่อนมาทำเป็นเมนูต่างๆหวานหอมสุดๆ เช่น บิงซูเมล่อน ไอศครีมเมล่อน บัวลอย น้ำเมล่อน ฯลฯ หรือจะซื้อเป็นลูกสดๆไปฝากที่บ้านก็มีขาย ส่วนโซนด้านหลังจะเป็นฟาร์มและแลนด์มาร์กเป็นเมล่อนลูกโต
มาถึงอ่างทองทั้งทีบอกเลยว่า #คาเฟ่ฮอปปิ้ง พลาดไม่ได้กับ “ร้านมะขามคาเฟ่” ร้านกาแฟริมทางที่มาพร้อมกับความอร่อยของรสกาแฟที่กลมกล่อมในราคาไม่แพง มีสะพานไม้ทอดยาวไปกลางนา เมื่อเดินไปสุดสะพานแล้วจะได้เห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่เป็นฉากอยู่ด้านหลัง ร้านนี้บอกเลยว่าหาไม่ยาก เพราะตั้งอยู่ริมถนนถนนโพธิ์พระยา-ท่าเรือ
มื้อเย็นถ้าคิดจะจัดหนักหนัก แนะนำ “ร้านนิรมิต” การันตีความอร่อยจากหลายรายการทีวีและนักชิมทั่วประเทศ เมนูเด็ดที่ต้องสั่งเลยก็คือ ปูหลน ผัดไทย กุ้งแม่น้ำ ต้มยำปลาคัง ฯลฯ ขับรถจากตัวเมืองอ่างทองไปตามเส้น 3195 (อ่างทอง-สุพรรณบุรี) จนถึงตลาดวิเศษชัยชาญ ร้านอาหารจะอยู่ติดริมแม่น้ำน้อย
ขนมกงรสกลมกล่อม ของฝากชั้นเยี่ยมจากอ่างทอง
ขนมเกสรลำเจียก ขนมพื้นบ้านเอกลักษณ์ของอ่างทอง
ขนมบ้าบิ่นสูตรพิเศษชื่อดังประจำตลาดศาลเจ้าโรงทอง
ถ้าคิดจะแวะซื้อของฝากก็ต้องมาที่ “ตลาดศาลเจ้าโรงทอง” หรือที่บางคนเรียกว่าตลาดร้อยปี มาเดินเที่ยวเพลินๆชมบรรยากาศเก่าๆ และชิมอาหารโบราณที่หาทานได้ยาก อาทิ “ขนมเกสรลำเจียก” ซึ่งถือเป็นขนมพื้นบ้านของอ่างทองทำจากแป้งข้าวเหนียวผสมน้ำกะทิร่อนผ่านตะแกรงลงบนกระทะร้อนๆ เป็นแผ่นบาง จากนั้นม้วนใส่ไส้มะพร้าวขูดที่กวนกับน้ำตาล ถ้าได้ทานตอนร้อนๆ จะยิ่งอร่อย เพราะแป้งจะนุ่มลิ้นรสชาติหวานหอมกลิ่นใบเตย ยังมี “ขนมกง” ขนมไทยโบราณที่หาทานยากให้ได้ลอง รสชาติหวานมันอร่อย ต่อเนื่องจนถึงขนมไทยอย่างกลีบลำดวน สัมปันนี หม้อแกง อาลัว ให้ได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับมาเป็นของฝาก
แนะนำให้แวะมาหลังจากออกจากร้านนิรมิตเพราะอยู่ใกล้กันเดินทางสะดวก จะมีป้ายบอกทางตลอดตั้งแต่ร้านอาหารจนถึงตลาดซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอวิเศษชัยชาญ
ถ้าคิดจะพักคิดถึง “ชานไม้ รีสอร์ท” รีสอร์ทไทยๆ บรรยากาศย้อนยุคสมัยออเจ้า บ้านพักทุกหลังของที่นี่อยู่ติดริมน้ำ ผ่อนคลายเหมาะแก่การพักผ่อนสุดๆ และยังมีกิจกรรมชิลอีกมากมายให้ทำ เช่น ปั่นจักรยาน ปั่นเรือเป็ด พายเรือ ฯลฯ เหมาะสำหรับการพักผ่อนทั้งแบบคู่รัก แบบครอบครัว และแบบกลุ่มเพื่อน โดยส่วนของชานไม้ รีสอร์ทตั้งอยู่ที่อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งนับเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกัน ขับรถไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็จะได้พบกับบรรยากาศที่เรียกได้ว่าธรรมชาติอย่างแท้จริง
เชื่อเถอะว่าแล้วอ่างทองจะกลายเป็นเมืองหลักในความคิดของคุณ เพราะที่นี่มีอะไรให้ “สนุก” เยอะมากจริงๆ
ขอบคุณข้อมูลจากเพจ zuzapaatiew
[Advertorial]