ชวนเช็คอินนครสวรรค์ เมืองที่ทำให้ตกหลุมรักได้ครั้งแล้วครั้งเล่า
ครั้งแรกกับเมืองรอง “นครสวรรค์” ที่ถูกหลายคนมองข้ามคิดว่าเป็นแค่ทางผ่าน กลับกลายเป็นว่าเราตกหลุมรัก “เมืองสวรรค์” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะนครแห่งนี้มีดีทั้งเรื่องของกิน บรรยากาศ และเรื่องราว
ยอมรับว่าก่อนตัดสินใจปักหมุดไปที่นครสวรรค์ เรามีตัวเลือกกันมากมาย แต่พอยิ่งหายิ่งสนใจเมืองรองที่ถูกมองข้ามอย่างนครสวรรค์มากขึ้นเรื่อยๆ มันมีความครบในแบบที่พวกเราต้องการ ทั้งความใหม่ที่ไม่ซ้ำ ร้านกาแฟที่ถือเป็นทีเด็ดแบบที่ยังไม่ผ่านมือการรีวิวจนช้ำ อาหารพื้นบ้านที่อร่อยจนทำให้อยากกรีดร้องด้วยความดีใจที่ได้เจอ แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าน่าสนใจ และที่สำคัญ มีมุมให้ได้ถ่ายรูปแบบฮิปๆ ตามสไตล์ฮิปสเตอร์
จากกรุงเทพถึงนครสวรรค์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง กับระยะทาง 240 กิโลเมตร พวกเราเลือกใช้ทางหลวงหมายเลข 1 แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ผ่านอยุธยา เข้าอ่างทอง ตรงเข้าสู่สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี จนถึงนครสวรรค์
ทันทีที่เลี้ยวเข้าสู่นครสวรรค์ จุดหมายแรกคือ ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ปากน้ำโพ (หน้าผา) หนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธ์ประจำจังหวัดที่ถูกอัญเชิญมาร่วมขบวนแห่ของงาน “เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ” ภายในประกอบด้วยเจ้าพ่อ-เจ้าแม่หน้าผา เจ้าพ่อกวนอู เจ้าแม่นครสวรรค์ และเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ไฉ่ซิงเอี้ย
การเดินทาง: ตั้งอยู่บนถนนโกสีย์ ริมแม่น้ำปิง
ใกล้กับศาลเจ้ามีร้านเด็ดประจำถิ่นให้ได้แวะพักท้องกันแบบเบาๆ (หรือถ้าคิดจะจัดหนักก็ย่อมได้ เพราะของเขาเด็ด อร่อยทุกอย่าง) กับร้าน หน้าผาปลาทอดมัน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง เมนูที่แนะนำว่าต้องสั่งคือ ทอดมันปลากราย ที่ถือว่าเป็นตำนานของปากน้ำโพ เพราะถึงเครื่องแกงแบบโบราณแท้ๆ นอกจากนี้ ยังมีทีเด็ดอยู่ตรงน้ำจิ้มที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม ถัดมาคือ เมนูลูกชิ้นปลา เด้งดึ๋งหนึบหนับ ลูกเล็กๆ อร่อยจนกลายเป็นอีกจานที่แขกไปใครมาก็ต้องสั่ง ต่อด้วยหลนปลาอินทรีย์รสชาติกลมกล่อม คลุกกับข้าวสวยร้อนๆ แกล้มด้วยผักสดหวานกรอบ และยังมีอีกหลากหลายเมนูปลาที่อร่อยถูกปาก ในราคาเบาๆ
อีกหนึ่งที่เที่ยว Unseen ซึ่งถือเป็นจุดไฮไลท์สำคัญดึงดูดให้พวกเราตัดสินใจมาที่นครสวรรค์คือ เขาแก้ว-เขาหน่อ ภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ทางเข้าจะมีฝูงลิงรายล้อมสองข้างทาง แต่ไม่ต้องกลัว เพราะที่นี่มีโรงจอดรถกันเจ้าลิงด้วย ที่นี่บอกเลยว่าเหมาะสำหรับสายลุยเป็นพิเศษกับบันไดกว่า 1,000 ขั้น ยิ่งช่วงท้ายก่อนถึงยอดจะเป็นบันไดลิงแบบเหล็ก สูงชันท้าทายความเสียวอย่างมาก แต่เมื่อผ่านจุดนี้ไปแล้วรับรองว่าหายเหนื่อย เพราะด้านบนสุดมีวิวสวยๆ ให้ชมแบบ 360 องศา และยังเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทเก่าแก่อีกด้วย
การเดินทาง: จากตัวเมืองนครสวรรค์ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ออกจากตัวเมืองไปประมาณ 45 กิโลเมตร จะเจอเขาแก้ว-เขาหน่อตั้งอยู่ทางขวามือ
ว่ากันว่าถ้าไม่มา วัดคีรีวงศ์ เหมือนมาไม่ถึงนครสวรรค์ ที่วัดแห่งนี้มีองค์มหาเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์คือ พระจุฬามณีเจดีย์ มีทั้งหมด 4 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นที่จุดธูปเทียนบูชา ชั้นที่สองจะมีรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วเมืองไทย รวมทั้งรอยพระพุทธบาทจำลอง 12 ราศี ชั้นที่สามจะเจอรูปเหมือนหลวงพ่อมหาบุญรอดผู้สร้างมหาเจดีย์แห่งนี้ ตรงกลางคือ ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมกับที่ภาพจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเกี่ยวกับพุทธประวัติ และชั้นที่สี่คือ จุดชมวิวเมืองนครสวรรค์แบบ 360 องศาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง
การเดินทาง: จากสะพานเดชาติวงศ์ ใช้ถนนสายนครสวรรค์-พิษณุโลก เมื่อเจอสี่แยกให้เลี้ยวขวา ตรงเข้าไปประมาณ 800 เมตร ทางเข้าวัดจะอยู่ด้านซ้ายมือ
หลังจากเหนื่อยกันมาทั้งวันก็ถึงเวลามาพักใจ พักกายกันที่ Tissue Papers Café ร้านกาแฟที่เจ้าของร้านสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความตั้งใจทำให้เป็นทั้งร้านกาแฟ พื้นที่ทางศิลปะ และสำนักพิมพ์เล็กๆ
ส่วนของร้านกาแฟ เจ้าของร้านตั้งใจจะนำความหลากหลายของเมล็ดกาแฟมาผสมผสานเข้าด้วยกัน โดยมีตัวเขาทำหน้าที่ควบคุมและกลั่นกรองรสชาติออกมาให้กลมกล่อมที่สุด
การเดินทาง: ร้านตั้งอยู่บนถนนสวรรค์วิถี ซอย65/7 เปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 07.30-18.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น.
สำหรับสายวิ่ง คิดจะวิ่งคิดถึง อุทยานสวรรค์ (หนองสมบุญ) กับสวนสาธารณะ 314 ไร่ใจกลางเมืองนครสวรรค์
โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมจีนและมีมังกรยักษ์ตั้งเด่นตระหง่าน มีหนองน้ำขนาดใหญ่ ควรค่าแก่การมาออกกำลังกาย ถ่ายรูปหรือจะนั่งพักผ่อนก็ชิลสุดๆ
การเดินทาง: อุทยานสวรรค์ตั้งอยู่ใกล้กับทางแยกสายเชียงใหม่-พิษณุโลก ติดกับถนนสายเอเชีย
พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาบ้านมอญ นครสวรรค์ ในอดีตที่นี่มีการค้นพบดินเหนียวที่เหมาะกับการปั้นดินเผาจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดเป็นจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจเครื่องปั้นดินเผาของชุมชน และเมื่อปี 2559 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จเยือนบ้านมอญแห่งนี้ด้วย
นอกเหนือจากเรื่องเครื่องปั้นดินเผา ที่นี่ยังมีอาหารเด็ดสไตล์ชาวมอญให้เราได้เข้าไปชิม อาทิ ข้าวแช่ ขนมครกมอญ และขนมข้าวแดกงา
การเดินทาง: ตั้งอยู่ตำบลบ้านแก่ง ห่างจากตัวเมืองนครสวรรค์ไปทางทิศเหนือประมาณ 16 กิโลเมตร
ถ้ามานครสวรรค์แล้วไม่มา บึงบอระเพ็ด ถือว่าพลาดมาก เพราะเป็นบึงทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เนื้อที่กว่า 132,737 ไร่ ซึ่งครอบคลุมถึง 3 อำเภอ ภายในจะมีหลายจุดให้ได้เยี่ยมชม เริ่มจากอาคารแสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดบึงบอระเพ็ด เป็น Aquarium แหล่งรวมปลาน้ำจืดตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่ระดับโลก และมีปลาหายากนานาชนิด ถัดจากอาคารไปอีกหน่อยมีบริการล่องเรือชมวิว ชมนกหลากสายพันธุ์ และทะเลบัวซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่ โดยดอกบัวจะเบ่งบานสวยที่สุดประมาณเดือนธันวาคม ใครจะมาเที่ยวนครสวรรค์อย่าลืมปักหมุดบึงบอระเพ็ดไว้ในแพลนกันด้วย
การเดินทาง: ใช้เส้นทางสายนครสวรรค์-ชุมแสง ประมาณ 9 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าไปอีก 2 กิโลเมตรจะเจอบึงบอระเพ็ด
ถัดจากเรื่องเที่ยวก็มาต่อกันที่เรื่องกินซ้ำอีกรอบ เราไปเช็คอินความอร่อยกันที่ เจ๊เตี้ย ก๋วยเตี๋ยวข้างวัด เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวน้ำใสรถเข็นธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะทั้งลูกชิ้นปลา หมู ไก่ ของร้านสดสะอาด และมีสูตรลับเฉพาะที่ใครๆ ก็ต้องติดใจ ส่วนราคาอยู่ที่ชามละ 40-50 บาท
การเดินทาง: ร้านตั้งอยู่ข้างวัดหัวเมือง ซอยสวรรค์วิถี 27
ปิดท้ายการเดินทางสุดแสนสนุกในนครสวรรค์ด้วยของอร่อยประจำถิ่นอีกอย่าง นั่นคือ หอยทอดเจ๊ฮวย ร้านหอยทอดเจ้าดังของนครสวรรค์ ขายมานานกว่า 30 ปี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ เสิร์ฟด้วยหอยตัวโตๆ สดๆ ราคาไม่แพง และมีสารพัดเมนูหอยให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นหอยแมลงภู่ทอด หอยนางรมทอด ออส่วน ปลาหมึก ฯลฯ หรือถ้าอยากกินแบบสดทางร้านก็พร้อมเสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียงแบบจัดเต็ม
การเดินทาง: ร้านตั้งอยู่บริเวณริมน้ำด้านหลังวัดท่ามะปราง หาไม่ยาก และรับประกันความอร่อยว่าถึงจะนานแต่คุ้มค่ากับการรอแน่นอน
[Advertorial]