ทริปเดียวเที่ยว 2 จังหวัด เส้นทาง “พิษณุโลก-กำแพงเพชร” กับที่เที่ยวสุดว้าว!
เที่ยวไหนดี 3 วัน 2 คืน
ครั้งนี้เราตัดสินใจเปิดเส้นทางใหม่กับเมืองที่ถูกขนานนามว่าเป็นเมืองรองอย่าง “พิษณุโลกและกำแพงเพชร” แน่นอนว่าในหัวเราไม่มีภาพของ 2 เมืองนี้อยู่สักเท่าไหร่ ทำให้ต้องทำการบ้านกันหนัก แต่ยิ่งหาก็ยิ่งเจอว่าเมืองนี้ไม่ได้มีดีแค่วัดวาอารามและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังมีมุมสวยให้ไปเที่ยวกันแบบฮิปๆ มีของกินอร่อย และมีน้ำตกให้เล่นอีกด้วย
วันที่ 1
นั่งเครื่องจากกรุงเทพฯ เพียง 45 นาที ก็ถึงสนามบินพิษณุโลก จุดหมายแรกของเราคือ แวะไหว้พระที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) วัดที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย
ที่ตั้ง: วัดพระศรีรัตนมหาธาตุตั้งอยู่ที่ถนนพุทธบูชา ริมฝั่งแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออก อยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
เมื่ออิ่มบุญกันแล้วก็แวะพักผ่อนกันที่ โรงแรมชินะปุระ โรงแรมใหม่ของพิษณุโลก คอนเซ็ปท์แนวประวัติศาสตร์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้รวมความเป็นสุโขทัย ล้านนา อยุธยาไว้ที่นี่ ทั้งสถาปัตยกรรมและการตกแต่ง มีมุมสวยๆ หลายมุมให้ถ่ายรูปกันแบบไม่มีเบื่อ และยังมีชุดไทยไว้บริการฟรีด้วย
ที่ตั้ง: โรงแรมชินะปุระตั้งอยู่ตำบลวัดจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
ส่วนของดีของอร่อย ขอแนะนำร้าน Robber Den ร้านลับๆ ในตัวเมืองพิษณุโลก ตกแต่งสุดเท่ มีทั้งโซน indoor และ outdoor เป็นสวนร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้ แม้จะมีรายการอาหารไม่กี่อย่าง แต่บอกเลยว่าอร่อยเด็ดทุกจานจริงๆ โดยเฉพาะสเต็กเนื้อและเบอร์เกอร์ที่จัดจานได้สวยงามไม่แพ้ร้านหรูๆ เลย อีกทั้งทางร้านยังใช้กรรมวิธีการกริลล์อาหารด้วยเตาถ่านทุกเมนูอีกด้วย
ที่ตั้ง: Robber Den ตั้งอยู่ในซอยขุนทิพย์ ถนนศรีถมรรัตน์ ตำบลอรัญญิก จังหวัดพิษณุโลก
วันที่ 2
เตรียมมุ่งหน้าสู่จังหวัดกำแพงเพชร แต่ก่อนจะไปนั้นขอแวะถ่ายรูปที่ สวนบัวอมรรัตน์ กันสักหน่อย เพื่อท้าพิสูจน์ความแข็งแรงของบัวพันธุ์วิคตอเรีย หรือบัวกระด้งยักษ์ ที่กำลังมาแรงในโลกโซเชียล เทคนิคในการยืนบนดอกบัวก็คือ ใช้แผ่นไม้รองก่อนยืน เพื่อกระจายน้ำหนักตัว และอย่าลืมฟังเสียงเตือนจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งมักจะมาพร้อมคำแนะนำดีๆ แถมด้วยเคล็ดลับโพสท่าให้สวยแบบไม่ต้องกลัวตกน้ำอีกด้วย
ที่ตั้ง: สวนบัวอมรรัตน์อยู่ในตำบลบ้านคลอง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
เดินทางต่อไม่ถึง 2 ชม. ก็ถึงจังหวัดกำแพงเพชร เมืองที่ใครหลายคนคงนึกถึงแต่ประวัติศาสตร์และความเก่าแก่ แต่รู้ไหมว่ามีที่เที่ยวเจ๋งๆ ซ่อนอยู่ ซึ่งเมื่อถ่ายรูปออกมาแล้วสวยงามเหมือนไปเที่ยวต่างประเทศเลยล่ะ นั่นก็คือ สระมรกต หรือบางคนเรียกว่าบ่อน้ำสีฟ้า เป็นบ่อขนาดใหญ่สีฟ้าคราม วิวสวยงามมาก แวะมาถ่ายรูปอัพลงโซเชียลรับรองเพื่อนไลค์รัวๆ ข้อแนะนำในการมาที่นี่ ห้ามลงเล่นน้ำ และควรเดินด้วยความระมัดระวัง เพราะบ่อลึกถึง 8-10 เมตรทีเดียว
ที่ตั้ง: สระมรกตตั้งอยู่ในเขตของบ้านศรีโยธิน ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร
ปิดท้ายการเที่ยววันที่ 2 ด้วยการเที่ยวชม อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร มีวัดและโบราณสถานหลายแห่งรวมอยู่ในอุทยานแห่งนี้ มีความงดงามแบบดั้งเดิมทั้งด้านศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมสุดอลังการ สะท้อนความรุ่งเรืองของไทยในสมัยโบราณได้เป็นอย่างดี จนยูเนสโก (UNESCO) ประกาศให้เป็นมรดกโลก ถ้ามากำแพงเพชรแล้วไม่มาที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงนะ
ที่ตั้ง: อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรตั้งอยู่เขตตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร
วันที่ 3
อิ่มบุญเสริมดวงรับเช้าวันใหม่ที่ วัดพระบรมธาตุนครชุม พระอารามหลวงเมืองกำแพงเพชร บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 9 องค์ เป็นมหาเจดีย์ทรงสูงใหญ่สีทองอร่าม คล้ายเจดีย์ชเวดากองของพม่า ถ้ามีโอกาสควรไปกราบไหว้และเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ที่นี่สักครั้ง
ที่ตั้ง: วัดพระบรมธาตุนครชุม อยู่ในตำบลนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร
ส่งท้ายทริปด้วยความชุ่มฉ่ำที่ น้ำตกคลองลาน เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ป่าคลองลาน ป่าที่สมบูรณ์ผืนสุดท้ายของกำแพงเพชร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สูงกว่า 100 เมตร กว้างประมาณ 40 เมตร สามารถเดินเข้าสู่น้ำตกได้ง่าย และมีจุดเล่นน้ำที่ไม่อันตราย สิ่งที่น่าประทับใจของที่นี่นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแล้ว ทางเจ้าหน้าที่เองก็มีการจัดการขยะได้ดีเยี่ยม แบ่งโซนทานอาหารและโซนเล่นน้ำเป็นสัดส่วน ถ้าไปเที่ยวแล้วก็อย่าลืมช่วยกันรักษาความสะอาดกันด้วยนะคะ
ที่ตั้ง: น้ำตกคลองลานตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติคลองลาน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร
อ่านมาถึงบรรทัดนี้ คงเห็นแล้วใช่ไหมว่า เพียงแค่ 3 วัน 2 คืนก็สามารถดื่มด่ำความฟินได้ถึง 2 จังหวัด ทั้งที่เที่ยวแนวธรรมชาติและแนวประวัติศาสตร์ รับประกันความประทับใจจนต้องอยากกลับไปซ้ำอีกรอบเลยล่ะ
เคล็ดลับเที่ยวไทยให้สนุก
ในฐานะคนชอบเที่ยวบอกเลยว่ากฎเหล็กอย่างหนึ่งที่เราตั้งไว้กับตัวเองคือ จะใช้พลาสติกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ กระบอกน้ำต้องมีติดตัว หยิบถุงผ้าใส่กระเป๋าไว้สักใบสองใบ ไม่ได้ทำให้กระเป๋าหนักขึ้นเลย และย้ำกับตัวเองเสมอว่า จะไม่ทิ้งขยะพลาสติกในที่ที่ไม่ถูกไม่ควรเด็ดขาด เพราะไม่ใช่แค่ไม่เท่ แต่ยังเป็นการสร้างภาระให้สิ่งแวดล้อมต่อไปอีกหลายร้อยปี เนื่องจากหากนับแล้วถุงพลาสติกและขวดพลาสติกจะใช้เวลาในการย่อยสลายนานถึง 450 ปีทีเดียว!
ครั้งนี้เราประทับใจมากกับป้ายขนาดใหญ่ก่อนทางขึ้นน้ำตกคลองลาน ที่นี่ไม่ใช่มีแค่ป้ายเตือนว่าให้เอาของที่คุณถือขึ้นไปกลับลงมา แต่เป็นการกระตุกเตือนกันให้เห็นชัดๆ เลยว่า ของที่คุณถือขึ้นไป ถ้าไม่ถือลงมา ธรรมชาติต้องใช้เวลาย่อยสลายอีกกี่ปี เช่น กล่องนม กล่องน้ำ ใช้เวลา 5 ปี ถ้าลืมรองเท้าไว้ข้างบน รองเท้าจะใช้เวลาย่อยสลายนานถึง 40 ปี และถ้าเป็นกระป๋องเครื่องดื่มจะต้องใช้เวลานานนับร้อยปีกว่าที่ธรรมชาติจะจัดการกับมันได้
ดังนั้น ถ้าชอบเที่ยวเหมือนกัน รักธรรมชาติเหมือนกัน มาเที่ยวไทยแบบเท่ๆ โดยไม่ทิ้งขยะให้เป็นภาระกับโลกกันดีกว่า
(Advertorial)
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ