หุบเขาอวตาร ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ แพนโดร่าแห่งจางเจียเจี้ย
สำหรับแฟนๆ ภาพยนตร์เรื่องอวตารทุกคน เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะเคยได้ตื่นตาตื่นใจกับฉากหลังสุดอลังการภายในเรื่อง ด้วยลักษณะภูมิประเทศของยอดเขา ที่พุ่งแหลมขึ้นมาจากพื้นดิน หลายๆ ยอด เป็นความมหัศจรรย์ที่สร้างความประทับใจให้กับใครหลายๆ คน ซึ่งหลายๆ คนอาจจะคิดว่าฉากหลังนี้คือกราฟฟิคที่ทางทีมงานเซ็ทขึ้นมา แต่แท้จริงแล้วฉากหลังนี้มีอยู่จริงในโลก โดยหุบเขาอวตารแห่งนี้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยประเทศจีนนั่นเอง วันนี้ Sanook! Travel จะพาทุกคนไปสำรวจหุบเขาอวตารสถานที่ในฝันของหลายๆ คนกันครับ
การเดินทางสู่ยอดเขาอวตารนั้นเราจะเริ่มต้นด้วยการซื้อตั๋วเข้าสู่ยอดเขาซึ่งตั๋วนี้สามารถใช้เข้าออกภายในอุทยานได้ 3 วันเลยทีเดียว หลังจากนั้นก็ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจตราสิ่งผิดกฎหมายและเข้าแถวรอรถบัสของทางอุทยาน ซึ่งอุทยานไม่อนุญาตให้ขับรถขึ้นไปเอง เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวทุกคนจึงต้องมาต่อคิวเหมือนกันหมด
เมื่อได้คิวขึ้นรถกันแล้วก็นั่งชมวิวธรรมชาติกันไปเพลินๆ ประมาณครึ่งชั่วโมงก็รถบัสก็จะพาเราเดินทางมาถึงตีนเขาทางขึ้นลิฟต์แก้ว ซึ่งนี้คือสิ่งมหัศจรรย์อีกสิ่งหนึ่งของประเทศจีนกับลิฟต์แก้วไป่หลงที่มีความสูง 326 เมตร ถือเป็นลิฟต์บนเขาที่มีความสูงและเร็วที่สุดในโลกอีกด้วย
เมื่อลงจากรถกันเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาไปต่อคิวขึ้นสู่ลิฟต์แก้วซึ่งระหว่างทางบนลิฟต์นั้นสามารถชมวิวของเขาอวตารได้แบบพาโนรามาเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าวันที่เราไปนั้นจะมีฝนตกลงมาทำให้มีไอน้ำมาเกาะที่กระจก แต่ก็ยังพอจะมองเห็นวิวของธรรมชาติอยู่บ้าง ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ เลยทีเดียวกับการได้มีโอกาสมาขึ้นลิฟต์แก้วแห่งนี้
เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนแล้วก็ได้เวลาดื่มด่ำกับวิวธรรมชาติของหุบเขาอวตารที่เราเคยได้แต่เห็นในหนัง แต่พอได้มาเห็นของจริงแล้วต้องบอกเลยว่าสวยงามอลังการกว่าที่คิดไว้มากๆ ลักษณะภูมิประเทศของธรรมชาติที่สร้างสรรค์ขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ยอดเขาสูงที่มีลักษณะแหลมพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน เรียงรายต่อกันหลากหลายยอด เรียกได้ว่าคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพมาได้เห็นมุมนี้ต้องลั่นชัตเตอร์กันจนหยุดไม่ได้แน่นอน
แต่จุดชมวิวแรกนี้ยังเป็นแค่ทีเซอร์สำหรับการชมหุบเขาอวตารเท่านั้นเพราะจุดไฮไลท์ในการชมหุบเขาอวตารต้องนั่งรถต่อเข้าไปอีก แต่ในวันนี้โชคไม่ดีที่จุดไฮไลท์ของเรานั้นมีหมอกหนาถาโถมลงมาปิดบังจนไม่สามารถมองเห็นวิวใดๆ ได้เลย เห็นแต่เพียงสะพานธรรมชาติที่เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวของยอดเขาอวตารเพียงลางๆ เท่านั้น ทุกอย่างเต็มไปด้วยสายหมอก อากาศหนาวเย็น เดินๆ ชมวิวไปเรื่อยๆ ก็เพลินไปอีกแบบ
ถือว่ายังเป็นความโชคดีสำหรับเราในความโชคร้ายเพราะแค่เพียงรูปภาพภูเขาอวตารจากจุดแรกที่เราถ่ายมาได้ก็เพียงพอที่จะบันทึกความทรงจำดีๆ สู่ตัวเรา ถึงแม้ว่าจะรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความประทับใจจริงๆ กับหุบเขาอวตารแห่งนี้ อยากแนะนำสำหรับใครที่อยากจะสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ โดยเฉพาะแฟนๆ หนังเรื่อง Avatar ควรมาเห็นที่นี่ด้วยตาตนเองสักครั้ง แล้วคุณจะได้รู้ว่าธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่และสวยงามเพียงใด
อัลบั้มภาพ 16 ภาพ