สัมผัสวิถีชีวิต...กลมกลืนกับธรรมชาติริมฝั่งโขงกับจังหวัดที่ 77 บึงกาฬ

สัมผัสวิถีชีวิต...กลมกลืนกับธรรมชาติริมฝั่งโขงกับจังหวัดที่ 77 บึงกาฬ

สัมผัสวิถีชีวิต...กลมกลืนกับธรรมชาติริมฝั่งโขงกับจังหวัดที่ 77 บึงกาฬ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดทริป 3 วัน 2 คืน ตะลุยจังหวัดที่ 77!
ยกให้เป็นอีกหนึ่งทริปในฝันที่ลิสต์ไว้ว่าต้องไปให้ได้ เพราะได้ยินชื่อเสียงของบึงกาฬมานาน โดยเฉพาะแลนด์มาร์คสำคัญอย่าง “หินสามวาฬ” ที่ไม่ไปจะถือว่ามาไม่ถึงที่บึงกาฬ ตอนแรกก็คิดว่าบึงกาฬมีดีแค่เท่านี้ แต่เมื่อไปถึงกลับกลายเป็นว่าที่นี่มีดีมีกว่านั้น ทั้งวิถีชีวิตของผู้คนที่เรียบง่าย การอยู่กันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยกับธรรมชาติ และรอยยิ้มที่เกลื่อนเมือง

การเดินทางไปบึงกาฬครั้งนี้ เราเลือกเดินทางโดยเครื่องบินไปลงที่อุดรธานี จากนั้นจึงทำการเช่ารถจากสนามบินขับต่อไปที่บึงกาฬ ระยะทางประมาณ181 กิโลเมตร เรียกว่าขับกันแบบสบายๆ ดูวิวข้างทางกันไปเพลินๆ

Dose Factory
ก่อนจะขับรถแบบยาวๆ เราเลือกเติมพลังให้ร่างกายด้วยกาแฟดีๆ สักแก้วที่ Dose Factory บนถนนนเรศวร ร้านนี้บอกเลยว่าสายกาแฟไม่ควรพลาด! ให้ความรู้สึกกับว่าได้นั่งดื่มกาแฟในโรงคั่วกาแฟจริงๆ มีกาแฟหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือก ส่วนคนที่ชอบกาแฟดริป ก็สามารถให้พนักงานมาดริปให้ถึงโต๊ะได้เลย

Daranakee ผ้าขาวม้าดารานาคี
ปักหมุดแรกที่บึงกาฬกันที่นี่ มันใช่มากสำหรับคนที่ชอบผ้าพื้นเมือง เพราะที่นี่จะเปิดสอนวิธีทำผ้าขาวม้านาคีแบบลงลึกตามแบบฉบับของภูมิปัญญาชาวบ้าน ซึ่งเป็นการย้อมสีธรรมชาติ แบบหมักโคลน โดยโคลนของทีนี่ถูกจัดว่าดีที่สุดเพราะเป็นโคลนทางควายเดินทำให้ได้เฉดสีที่ไม่ซ้ำกันที่ไหน และการย้อมก็ไม่มีทางจะผลิตเฉดสีแบบนี้ออกมาได้

เมื่อเรียนเสร็จแล้วก็ได้เวลาเปลี่ยนริมโขงเป็นรันเวย์ ที่นี่มีของให้เลือกช็อป และเลือกใส่ มิกซ์แอนด์แมทช์ได้ตามสบาย มีชุดหลากหลายรูปแบบ หรือใครที่มีแบบในใจก็สามารถให้ร้านตัดให้ได้ตามที่ต้องการ

ติดตามอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ @pkmDARA โดยผ้าขาวม้าดารานาคีตั้งอยู่บริเวณชุมชนบ้านสะง้อ ต.หอคำ จ.บึงกาฬ

ริมโขง บึงกาฬ
ตกเย็นอากาศดีๆ แนะนำให้มาสัมผัสชีวิตริมโขงซึ่งถือเป็นศูนย์รวมของคนที่นี่เลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่เป็นทั้งแหล่งหาปลา ปลูกผัก ซ้อมแข่งเรือยาวของวัยรุ่นแถวนั้น และเป็นเหมือนสวนสาธารณะให้คนในจังหวัดออกกำลังกายกัน ที่สำคัญช่วงเช้าสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้ที่นี้ สวยงามมากจริงๆ

ร้านอาหารเช้า บ้านต้น (ข้าวเปียก)
ใครมาบึงกาฬ ถามคนพื้นที่ก็พูดเป็นเสียงเดียวว่า ต้องร้านบ้านต้นเท่านั้น ร้านนี้ถือเป็นร้านข้าวเปียกในตำนาน สำหรับใครที่นึกภาพไม่ออกให้นึกถึงก๋วยจั๊บญวณ จุดเด่นของร้านนี้คือความเข้มข้นของน้ำซุป เด็ดแบบที่อยากจะยกนิ้วให้สิบนิ้วกันเลย ลูกค้าส่วนใหญ่จะมาตั้งแต่เช้า  6 โมงเช้า เพราะบางคนมาวิ่งออกกำลังกาย มาชมพระอาทิตย์ขึ้นริมแม่น้ำโขง แล้วก็แวะมาทานกัน ในขณะที่บางคนก็พิเศษกว่านั้นคือ นอกจากกินที่ร้านแล้วยังซื้อใส่บาตรยามเช้ากันอีกด้วย

ร้านบ้านต้นตั้งอยู่ตัวอำเภอเมือง ใช้ถนนหลวง 212 ร้านจะอยู่ก่อนถึงปั้มน้ำมัน ปตท.

หินสามวาฬ
จุดเด่นของที่นี่คือหินจะมีลักษณะเป็นก้อนหินขนาดมหึมาวางเรียงกัน 3 ก้อน มีรูปร่างคล้ายปลาวาฬ พ่อ แม่ ลูก กำลังว่ายน้ำกันจึงเรียกกันว่า”หินสามวาฬ” การเดินทางไปหินสามวาฬประมาณ 24 กิโลเมตร เมื่อเจอแยกภูสิงห์ให้แล้วขวา ขับไปสักพักก็จะเลี้ยวซ้ายเจอแหล่งท่องเที่ยวภูสิงห์ หินสามวาฬ ภายใต้การดูแลของกรมป่าไม้ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ 154  จะเจอเจ้าหน้าที่บริการขับรถพาขึ้นไปจุดชมวิวต่างๆ บนเขา รวมไปถึงไฮไลท์ หินสามวาฬ

ค่าบริการรถขึ้นไปราคาเหมาคัน 500 บาท แนะนำให้มาช่วงบ่ายๆ เพราะช่วงเช้านักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ รถกระบะขึ้นไปไม่ทัน ต้องรอนาน ที่สำคัญถ้าไปช่วงบ่ายๆ เราสามารถแวะจุดชมวิวดูพระอาทิตย์ตกได้

 

สะดือแม่น้ำโขง แก่งอาฮง ณ วัดอาฮงศิลาวาส
จุดชม “สะดือแม่น้ำโขง” ณ วัดอาฮงศิลาวาสถือได้ว่าเป็นจุดที่แม่น้ำโขงมีความลึกที่สุดไม่สามารถวัดความลึกได้ กระแสน้ำไหลเชี่ยวมากในฤดูน้ำหลากและมีกระแสน้ำไหลวนเป็นรูปกรวยขนาดใหญ่ ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็น “สะดือแม่น้ำโขง” มีความกว้างประมาณ 300 เมตร นอกจากจะเป็นแหล่งพักผ่อนและสถานที่ท่องเที่ยวชมหินสวยของบึงกาฬแล้วยังเป็นจุดชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ “บั้งไฟพญานาค” ในช่วงออกพรรษา และสามารถทำบุญ ไหว้พระที่วัดอาฮงศิลาวาส อีกด้วย

พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิตแห่งบึงกาฬ
ที่นี่เป็นบ้านหลังเก่าที่พาเราไปเรียนรู้วิถีดั้งเดิมของชาวอีสานได้อย่างครบถ้วน เนื่องจากปรับเปลี่ยนมาจากที่อยู่อาศัยจริงซึ่งสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือ คุณสุทธิพงษ์ สุริยะ ฟู้ดสไตลิสต์ชื่อดังของเมืองไทย ได้เข้ามาทำการปรับปรุงพื้นที่บางส่วน รวมถึงยังมีการออกแบบที่เน้นความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น เมื่อขึ้นไปชั้นบนของตัวบ้านจะเจอกับข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ วางเรียงรายตามมุมต่าง ๆ รวมถึงพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร นอก นอกจากนี้ยังมีผ้าซิ่นสวย ๆ ให้นักท่องเที่ยวสวมใส่ให้เข้ากับบรยากาศอีกด้วย

และที่นี่ยังเป็นตัวอย่างชุมชนเข้มแข็ง แต่ละบ้านร่วมใจสร้างภาพวาดเรื่องราวพญานาคกับแต่ละอาชีพ ของชุมชนลุ่มแม่น้ำโขงกว่า 20 ภาพตามฝาบ้านเรือนไม้อีสาน โดยในแต่ละภาพสะท้อนถึงตัวตนและวิถีชีวิต ความเชื่อ วัฒนธรรม และประเพณีของชาวอีสานให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเยี่ยมชม พร้อมกับมีมัคคุเทศก์ ตัวน้อยพาเที่ยว แต่ละคนน่ารักมากจริงๆ

การเดินทางมาที่นี่ให้ใช้เส้นทางลัดผ่านวัดป่าดานวิเวก ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร

 

ครัวคุณนิด จ.อุดรธานี
ขากลับ เราวนเข้ามาที่จังหวัดอุดรธานีอีกครั้งพร้อมกับปักหมุดไปที่ครัวคุณนิด ซอยวัดป่าโนนวิเวศ ร้านอาหารอีสาน ส้มตำนัวเด็ดๆ มีไฮไลท์คือส้มตำจานใหญ่ยักษ์ ครบเครื่อง แซ่บลืม!

สำหรับทริปบึงกาฬ ทริปจังหวัดที่ 77 นี้ ค่อนข้างจะประทับใจการต้อนรับขับสู้ของคนพื้นที่จริงๆ เพราะเขาพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน ทั้งยังให้คำแนะนำ ให้บริการดีเยี่ยม เรียกวว่าเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งธรรมชาติ และวิถีชีวิตดั้งเดิม


(Advertorial)

 

อัลบั้มภาพ 17 ภาพ

อัลบั้มภาพ 17 ภาพ ของ สัมผัสวิถีชีวิต...กลมกลืนกับธรรมชาติริมฝั่งโขงกับจังหวัดที่ 77 บึงกาฬ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook