ตะลุย Halloween ที่ Transylvania

Transylvania เป็นแคว้นสำคัญของ Romania ประกอบไปด้วยเมือง Cluj-Napoca, Brasov, Sibiu, Targu Muresและ Bistrita

โดยเฉพาะที่เมือง Brasov ซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาท Dracula ที่เราจะพาไปตะลุย Halloween กัน

เมื่อเอ่ยถึงปราสาท Dracula แน่นอนว่า ทุกคนย่อมนึกถึง ตำนาน Vampire แห่ง Brasov

Brasov ถือเป็น “เมืองท่องเที่ยว” ชื่อดังของ Romaniaไม่น้อยหน้า นครหลวง Bucharest

นอกจากปราสาท Dracula แล้ว Brasov ได้ชื่อว่าเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป เป็นเมืองที่มีภูมิประเทศสวยงามและมีสถาปัตยกรรมเก๋ๆ มากมายหลายแห่ง

แต่ Halloween ปีนี้ พลาดไม่ได้ที่จะมาเยือนปราสาทBranหรือปราสาทDracula

แน่นอนว่า หากเอ่ยถึงตำนาน Vampire แห่ง Brasov แล้ว ย่อมต้องกล่าวขวัญถึงปราสาทBranหรือปราสาท Dracula ควบคู่กันไปทุกครั้ง

ปราสาทBranสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1211 เพื่อสภาอัศวินแห่งราชอาณาจักร Romania

ปัจจุบันปราสาทBranได้รับการสถาปนาให้เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์มีการจัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ อาวุธ ชุดเกราะ และสมบัติเก่าแก่อันทรงคุณค่ามากมายของราชอาณาจักร Romania

โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ Queen Marie อันสวยสดงดงาม

เทศกาลHalloween ทุกปี บรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก มักจะไม่พลาดที่จะวางโปรแกรมเพื่อมาเยี่ยมเยือนปราสาทBranหรือปราสาทDracula

แน่นอนว่า ใครๆ ก็อยากมาพิสูจน์ตำนาน Vampire แห่ง Brasovณ ปราสาทDraculaหรือ ปราสาทBranกันให้ได้ สักครั้งในชีวิต

นอกจากปราสาทDraculaหรือ ปราสาทBran แล้ว Brasov ยังมี Black Church หรือ “โบสถ์ดำ”ที่น่าค้นหาอีกด้วย

“โบสถ์ดำ”หรือ Black Church เป็นโบสถ์สไตล์Gothicขนาดใหญ่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1385

จุดเด่นของ Black Church อยู่ที่ “หอระฆัง” ที่เก่าแก่ และมีขนาดใหญ่ที่สุดในRomania

ที่มาของชื่อBlack Church หรือ “โบสถ์ดำ” มีที่มาจากเหตุการณ์อัคคีภัยครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1689 แม้ไฟจะไม่ไหม้โบสถ์ทั้งหลัง ทว่า พระเพลิงได้ทิ้งร่องรอยแห่งเขม่าดำเอาไว้บนผนังโบสถ์จึงเป็นที่มาของคำว่า Black Church หรือ “โบสถ์ดำ” นั่นเอง

และแม้จะรอดพ้นจากความเสียหายใหญ่หลวงมาได้ ทว่า ทางภาครัฐต้องใช้เวลาบูรณะ “โบสถ์ดำ” แห่งนี้ เป็นเวลายาวนานมากถึง 100 ปีเลยทีเดียว!

สิ่งที่น่าสนใจใน “โบสถ์ดำ” นอกจากคราบเขม่าดังกล่าวที่ถูกทิ้งไว้ให้เป็นอนุสรณ์บางส่วนของผนังโบสถ์แล้ว ประติมากรรมปูนปั้นสไตล์Gothic รูปพระแม่มารีและนักบุญคนสำคัญก็นับว่าสวยสง่าน่าดูชมไม่น้อย

และที่โดดเด่นไม่แพ้ประติมากรรมGothicก็คือ “พรมตุรกี” ที่ทอถักด้วยมือจำนวน 119 ผืนที่ประดับอยู่ด้านในโดยรอบ

นอกจากนี้ ยังมีPipe Organ ขนาดใหญ่มากถึง 4,000 ชิ้น สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1839 ใช้บรรเลงเทศกาลสำคัญของชาติ

การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
เมืองBrasovแม้จะมี 4 ฤดูเหมือนเมืองใหญ่ในยุโรป ทว่า Brasovกลับมาสภาพอากาศค่อนข้างเย็นและแห้งมากกว่าเมืองอื่นในยุโรป และแม้กระทั่ง Romania เอง

นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องความหนาวแล้ว Brasovยังมีฝนตกชุกเป็นช่วงๆ

โดยฤดูร้อนใน Brasovอุณหภูมิเคยพุ่งขึ้นสูงถึง 30 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว

การเดินทาง

Brasovไม่มีสนามบินเป็นของตนเอง นักท่องเที่ยวจึงต้องไป Landing ที่นครหลวง Bucharestกันก่อน จากนั้นจึงต่อรถโดยสารประจำทาง หรือจะเช่ารถเก๋งขับมาBrasovเองก็ได้ ใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมงก็ถึง

ส่วนการสัญจรใน Brasov นั้น มีให้เลือกทั้งรถเมล์ และ Taxi หรือจะเช่ารถยนต์คันเดิมที่ขับมาจาก Bucharestปุเลงปุเลง City Tour ใน Brasov ก็ได้ ไม่มีใครห้าม

ที่พัก

โรงแรมใน Brasovมีตั้งแต่ 1-5 ดาวเหมือนเมืองท่องเที่ยวทั่วๆ ไปราคา 3 ดาวอยู่ที่ราว 1,000 บาทต่อคืน นอกจากนี้ ยังมีที่พักแบบประหยัดจำพวกGuest House หรือ Apartment สำหรับ Backpacker แบบ Long Stay อีกด้วย

ตั๋วเครื่องบิน

ดังที่กล่าวไป ว่า Brasovนั้น ไม่มีสนามบินเป็นของตนเอง นักท่องเที่ยวจึงต้องไป Landing ที่นครหลวง Bucharestกันก่อน

ตั๋วตะลุยกรุง Bucharest แนะนำให้ใช้บริการของ Turkish AirlinesLufthansaKLMหรือ Qatar Airways ซึ่งมีเที่ยวบินตรงจากสุวรรณภูมิสนนราคาเที่ยวละประมาณ 30,000 บาท