เที่ยวนาคูหา จ.แพร่ แหล่งโอโซนอันดับ 7 ของไทย
แหล่งโอโซนอันดับ 7 ของประเทศ เป็นดัชนีชี้วัดได้อย่างดีว่า “บ้านนาคูหา” ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ หมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขามีอากาศบริสุทธิ์ ทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่น่าสนใจและยังถูกจัดให้อยู่ใน 1 ใน 5 ของเส้นทางการท่องเที่ยวเกษตรสีเขียว ของกิจกรรมการท่องเที่ยวในเชิงอาหาร หรือ Gastronomy และยังมีกิจกรรมผจญภัยตื่นเต้นแบบ Discovery The North ที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย กำลังผลักดันและส่งเสริมเส้นทางการท่องเที่ยวในกลุ่มภาคเหนือตอนบน 2 เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน
บ้านนาคูหาใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาที จากตัวเมืองจังหวัดแพร่ จากแยกร่องฟอง มุ่งหน้าไปทางสวนเขื่อน ลัดเลาะไปตามไหล่เขาที่ข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ที่อุดมสมบูรณ์ สลับกับทุ่งนาสีเขียว มองแล้วเพลินตา ไม่นานก็เข้าสู่หมู่บ้าน มีรูปปั้นน้องวัวสองตัวคอยต้อนรับอยู่หน้าหมู่บ้าน ก่อนถึงชุมชนจะมองเห็นพระธาตุอินทร์แขวนจำลองอยู่บนหน้าผา ที่ตั้งอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมมหาโพธิวงศาจริยาราม พุทธอุทยานดอยผาสวรรค์ เฉลิมพระเกียรติ ร.9
ชุมชนที่นี่จะอาศัยอยู่ตามที่ราบลุ่มระหว่างหุบเขา ทำให้ทรัพยากรทางธรรมชาติของบ้านนาคูหามีความอุดมสมบูรณ์มาก จุดแรกที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและจุดเช็คอินของที่นี่ก็คือวัดนาคูหา ที่มีความโดดเด่นโดยมีการสร้างพระพุทธรูป หรือ พระเจ้าตนหลวงไว้กลางทุ่งนา สีทองขององค์พระตัดกับสีเขียวของทุ่งนาต้นข้าวและภูเขาที่ล้อมรอบ เป็นภาพที่สวยงามและชวนให้ผู้คนที่แวะเวียนไปต่างก็กดชัตเตอร์ถ่ายรูปรัวๆ กันทุกคน
นอกจากนั้นทางวัดและหมู่บ้านได้ร่วมกันทำสะพานไม้ไผ่ลัดกลางทุ่งนาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด สะพานไม้ไผ่พาเดินไปจนสุดก็จะเป็นสวนผสมที่ปลูกพืชหลากหลาย และนั่นก็เป็นทางผ่านที่จะเดินไปยังถ้ำนาคูหา อีกหนึ่งจุดที่เหมาะสำหรับคนที่อยากจะออกกำลังกายและชื่นชอบเที่ยวถ้ำ ระยะทางเดินขึ้นไปบนถ้ำก็ประมาณ 800 เมตร ได้เหงื่อกันไป หลังจากเที่ยวถ้ำแล้วเราก็แวะหาซื้อผักปลอดสารพิษที่ชุมชนนำมาวางขายที่ข้างล่างทางเดินขึ้นถ้ำได้อีกด้วย
ที่นาคูหานอกจากจะมีทุ่งนาสวยงาม มีถ้ำให้นักท่องเที่ยวได้เดินทดสอบกำลังของขาแล้ว ยังมีกิจกรรมเรียนรู้ชุมชนอีก เช่น การทำผ้ามัดย้อม โดยใช้ฮ้อม เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกฮ้อมและผลิตฮ้อมแห่งหนึ่งที่ครบวงจรมากที่สุดของจังหวัดแพร่ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ทุกกระบวนการทำฮ้อม และยังได้ทดลองทำผ้ามัดย้อมของตัวเองอีกด้วย
ใกล้ๆ กับศูนย์เรียนรู้ฮ้อมก็มีบ่อเตา หรือ สาหร่ายน้ำจืดที่ชุมชนได้เพาะไว้ในบ่อหลายบ่อ ชาวบ้านจะมาเก็บเตาเพื่อนำไปประกอบอาหาร หรือ นำไปขายที่ตลาดให้นักท่องเที่ยว ใครที่ชอบก็ซื้อกลับไปปรุงอาหารได้ สำหรับรสชาติของเตานั้นก็จะจืดๆ แต่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ แต่ก่อนจะปรุงต้องล้างให้สะอาดเอาเศษใบไม้ และสิ่งปนเปื้อนออกก่อน หรือ ควรทำให้สุกเพื่อสุขอนามัย
วิถีชีวิตของชาวนาคูหาจะใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย อาศัยอยู่กับธรรมชาติ ปลูกชาใบเมี่ยง และกาแฟ ทุกวันก็จะไปเก็บใบชาและกาแฟ นำไปแปรรูปและขายให้กับนักท่องเที่ยว ตอนเย็นเด็กๆ ก็จะพากันมาเล่นน้ำในลำธารเล็กๆ หน้าวัด เป็นภาพที่ดูแล้วมีความสุข จึงไม่แปลกใจว่าคนที่มีความสุขและมีรอยยิ้มตลอดเวลา
สำหรับหน้าหนาวนี้ใครที่อยากจะขึ้นเหนือ รีบวางแผนการเดินทางและจองที่พักกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะฤดูหนาวถือเป็นช่วงไฮซีซั้นของภาคเหนือ แต่รับรองได้ว่าถ้าหากไปเที่ยวที่นาคูหาแล้ว จะไม่ผิดหวัง ได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ให้เต็มปอด ได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชน ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การท่องเที่ยวที่คุ้มค่าและน่าประทับใจอีกแห่งเลยทีเดียว
อัลบั้มภาพ 18 ภาพ