เช็คอิน 5 ที่เที่ยว 3 ที่กินใน 1 วันที่สิงห์บุรี

เช็คอิน 5 ที่เที่ยว 3 ที่กินใน 1 วันที่สิงห์บุรี

เช็คอิน 5 ที่เที่ยว 3 ที่กินใน 1 วันที่สิงห์บุรี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เดินทางตามรอยวีรชนคนกล้าชาวบ้านบางระจันเที่ยว “สิงห์บุรี” จังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนของความกล้าหาญ ด้วยมีบรรพบุรุษยอมสละชีวิตเพื่อรักษาดินแดนและปกป้องประเทศจากการรุกราน

ส่วนตัวแล้วปักหมุดให้สิงห์บุรีเป็นที่เที่ยวประจำตัวเสมอในวันที่คิดอยากเที่ยวแบบวันเดย์ทริป ไม่ไกลจากกรุงเทพเพราะเส้นทางนี้ขับรถง่าย ระยะทางแค่ 142 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมงก็ถึง ทั้งยังมีครบ ไม่ว่าจะไหว้พระ เที่ยวแบบใกล้ชิดกับวัฒนธรรม เดินเล่นตลาดน้ำ ของกินอร่อย และมีคาเฟ่ให้นั่งเล่น

เปิดทริปกันที่ “วัดพิกุลทอง” ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่าวัดหลองพ่อแพ เพราะท่านเคยเป็นอดีตเจ้าอาวาส ทั้งยังเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ซึ่งทำคุณประโยชน์แก่พุทธศาสนาไว้มากมาย เมื่อท่านมรณภาพลงในปี 2542 เหล่าลูกศิษย์จึงได้สร้างพระวิหารขนาดใหญ่ถวาย โดยมีพระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนีเป็นพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมด้วยรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อแพองค์ใหญ่สำหรับให้ชาวบ้านได้เข้ามากราบไหว้ขอพร นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพิฆเนศกลางน้ำขนาดใหญ่สามารถเดินข้ามสะพานไปสักการบูชาได้ ส่วนด้านหน้ามีตลาดสดให้ได้ซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับไป

การเดินทาง: ใช้ทางหลวงหมายเลข 3032 ตรงไปประมาณ 8 กิโลเมตรจะเจอป้ายบอกทางไปวัดพิกุลทอง จากนั้นเปลี่ยนไปใช้ถนนสาย 3008 ตรงยาวต่อไปอีกประมาณ 8 กิโลเมตร

ขับรถต่อมาตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3032 มุ่งหน้าไปที่ตำบลจักรสีห์ อำเภอเมืองสิงห์บุรี ซึ่งห่างออกมาจากตัวเมืองประมาณ 4 กิโลเมตรเพื่อเลี้ยวเข้าสู่อีกหนึ่งความสงบอันศักดิ์สิทธิ์ภายในเขต “วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร” พระอารามหลวงชั้นตรีที่มีเรื่องเล่าสืบทอดต่อกันว่าหลวงพ่อพระนอนจักรสีห์คือรูปของพระพุทธเจ้าปางไสยาสน์ขณะเทศนาปาฏิหาริ์ยแก่อสุรินทราหู ผู้เป็นยักษ์ จึงต้องเนรมิตกายให้มีขนาดใหญ่กว่ายักษ์จนกลายเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่และยาวที่สุด

ภาพจาก www.facebook.com/kesarabakery

แล้วก็ถึงเวลาหาของอร่อยกิน แน่นอนว่ามาถึงถิ่นทั้งทีต้องลอง “ต้นตำรับเค้กปลาช่อน” ของขึ้นชื่อประจำสิงห์บุรี ซึ่งเราเลือกแวะกันที่ร้านเกษรา เบเกอรี่ ร้านอยู่ติดถนนสายเอเชีย กิโลเมตรที่ 81 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพ ร้านนี้เด็ดสมกับที่เขาการันตี เพราะเค้กไม่มีกลิ่นคาวของปลาเลยแม้แต่น้อย แต่กลับได้ความหวานของเนื้อปลามาช่วยชูรสให้เค้กกลมกล่อมกว่าเดิม

มหัศจรรย์ธรรมชาติปรากฏชัดที่นี่กับ “โบสถ์วัดไทร” ซึ่งรากของต้นโพธิ์และต้นไทรโอบยึดกำแพงโบสถ์ สถานที่ประดิษฐานองค์พระประธานไว้อย่างแน่นหนาและสวยงาม กลายเป็นหมุดยึดสำคัญที่ทำให้กำแพงอายุหลายร้อยปีไม่พังทลายลงมา ขณะที่ศาลาวัด ซึ่งมีอายุใกล้เคียงกันได้พังลงน้ำไปเป็นที่เรียบร้อย
พิกัด: โบสถ์วัดไทร ตั้งอยู่ในหมู่ 5 ตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี

ภาพจาก www.singburi.go.th

“อุทยานวีรชนค่ายบางระจัน” จะพลาดได้อย่างไรกับไฮไลท์เด่นของสิงห์บุรี โดยอนุสาวรีย์และอุทยานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่วีรชนบ้านบางระจันผู้ประกอบวีรกรรมครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย เมื่อครั้งที่พม่าได้ยกทัพมาตีไทยในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ ถึงจะมีอาวุธและกำลังพลที่น้อยกว่า แต่ชาวบ้านบางระจันได้แสดงความกล้าหาญและความสามัคคีพลีชีพเพื่อปกป้องแผ่นดินเกิดจนสุดกำลัง
การเดินทางมายังอุทยานวีรชนค่ายบางระจันให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3032 ขับตรงมาจากตัวอำเภอเมืองสิงห์บุรีประมาณ  15 กิโลเมตร

ภาพจาก www.facebook.com/Inkit-cafe-analog

แวะจิบกาแฟกันหน่อยที่ Inkit Café Analog ร้านกาแฟคั่วสดที่เสิร์ฟพร้อมกลิ่นหอมละมุนภายในร้านที่ตกแต่งสไตล์วินเทจ มี Cold Brew เป็นซิกเนเจอร์ที่อยากให้ได้ลองเพราะใช้กระบวนการหยดถึง 16 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว
พิกัด: Inkint Café Analog ตั้งอยู่บนถนนธรรมโชติ ตำบลบางพุทรา อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี

 ภาพจาก www.facebook.com/Taladthai.yonyuk.banrachan

ว่ากันว่าการจะทำความรู้จักจังหวัดหนึ่งให้ลึกถึงแก่นต้องเดินตลาด เพราะที่ตลาดจะรวมไว้ครบทั้งเรื่องของวัฒนธรรม ประเพณี และความเป็นอยู่ของผู้คน ครั้งนี้เราจึงมุ่งหน้ามาเที่ยว “ตลาดไทยย้อนยุคบ้านบางระจัน” ถ้าอยากจะเอาให้เหมือนได้ย้อนอดีตกลับไปสู่ยุคบางระจันแท้ๆ เขาก็มีชุดนักรบทั้งหญิงชายให้เช่าใส่สำหรับเดินเที่ยวตลาดในราคา 100 บาท ส่วนใครที่เขินไม่กล้าใส่ บอกเลยว่าไม่ต้องอาย เพราะแม่ค้าพ่อค้าของที่นี่ใส่เป็นเพื่อนกันทุกคน สำหรับของดีของเด็ดในตลาด มีครบไม่ว่าจะเป็นของคาวและของหวาน
พิกัด: ตลาดไทยย้อนยุคบ้านบางระจัน ตั้งอยู่ที่วัดโพธิ์เก้าต้น ตำบลบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี

ภาพจาก www.facebook.com/เฌอแตม-Je-taime-Coffee-Restaurant-ณ-สิงห์บุรี

มื้อหนักตอนเย็นก่อนเดินทางกลับ พวกเราเลือก “ร้านเฌอแตม” ร้านสวยที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากศาลากลางหลังเกาของสิงห์บุรี ก่อนจะหยิบเอากลิ่นอายสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสมาเพิ่มความร่วมสมัยลงไป เมนูเด่นของที่นี่คือปลาช่อนแม่ลาลุยสวน ซึ่งอัดแน่นไปด้วยสมุนไพรไทยและน้ำยำรสจัด ส่วนใครที่ชอบสเต็กแนะนำเป็นสเต๊กซี่โครงบาร์บีคิวที่เข้มข้นด้วยซอสที่ปรุงขึ้นเองจึงผสานเข้าความนุ่มของเนื้อซี่โครงได้อย่างลงตัว
พิกัด: ร้านเฌอแตม ตั้งอยู่บนถนนธรรมโชติ จังหวัดสิงห์บุรี

วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันสนุก เพราะเที่ยวครบทุกจุดหมายที่วางไว้ อีกทั้งสิงห์บุรียังคงฝากความสุขและรอยยิ้มกลับมา ดังนั้นแน่นอนว่าวันเดย์ทริปครั้งหน้าที่เราอยากพักผ่อนแบบใกล้กรุงเทพ สิงห์บุรีจะเป็นจุดหมายที่เราเลือกเหมือนเคย

(Advertorial)

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook