Haoma อาหารอินเดียแบบ Chef Table ที่จะเปลี่ยนความรู้สึกคุณต่ออาหารอินเดียไปตลอดกาล

อาหารอินเดียถือได้ว่าเป็นอาหารที่มีความเฉพาะทางมากๆ มีทั้งคนที่ชื่นชอบและไม่ชอบทานในรสชาติของอาหารอินเดีย ด้วยกลิ่นของเครื่องเทศที่มีกลิ่นและรสที่ร้อนแรง และวัตถุดิบเฉพาะทางที่หากใครไม่เคยทานมาก่อนคงจะรู้สึกแปลกๆ แต่ในวันนี้ Sanook! Travel จะพาทุกคนไปรีวิวร้าน Haoma ร้านอาหารอินเดียที่ยกระดับอาหารอินเดียขึ้นมาในรูปแบบ Chef Table หรืออาหารเป็นคอร์สแบบตามใจเชฟและที่สำคัญรสชาติอาหารของร้านนี้ จะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดในด้านของรสชาติอาหารอินเดียไปได้ตลอดกาล

บรรยากาศภายใน Haoma เริ่มต้นเดินเข้ามาก็รู้สึกได้ถึงความลึกลับเพราะร้านตั้งอยู่ในซอยลึก แต่เมื่อเข้ามาในร้านแล้วเหมือนเปิดอีกโลกหนึ่งให้กับเราได้เห็น การตกแต่งที่ดูแปลกตา และสวนผักสวนครัวที่ทางร้านปลูกไว้ใช้ในการประกอบอาหารเองด้านหลัง ทำให้บรรยากาศที่นี่เป็นร้านอาหารกึ่งฟาร์มแบบออร์แกนิค ท่ามกบางบรรยากาศอันร่มรื่น

ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบหรูด้วยเฟอร์นเจอร์ไม้ และไฟโทนสีส้มสลัวๆ บอกเลยว่าใครพาแฟนมาดินเนอร์บรรยากาศแบบนี้โรแมนติกสุดๆ

มาเริ่มที่เมนูอาหารกัน เชฟทีปังเคอร์ โคสลา หรือ เชฟเคดี ผู้เป็นเชฟใหญ่ประจำร้าน Haoma ออกมาต้อนรับเราทุกคนที่ได้มาร่วมทานอาหารมื้อพิเศษนี้ก่อนที่จะนำอาหารจานแรกมาเสิร์ฟพร้อมกับอธิบายถึงขั้นตอนและวัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหารจานนี้ โดยอาหารในวันนี้มีทั้งหมด 6 เมนู ได้แก่

1.Galauti Cornets

 

การผสมผสานระหว่างเห็ดป่า เจลซอสมะนาวและพริก รวมไปถึงเห็ดทรัฟเฟิลสด ทำเป็นมูสและใส่มาบนโคนไอศกรีมขนาดจิ๋ว เสิร์ฟมาบนท่อนไม้ที่ทางร้านประดิษฐ์ประดอยขึ้นมาอย่างสวยงาม เป็นการพรีเซ้นท์อาหารได้อย่างน่าประทับใจ รสชาติออกเปรี้ยวและซ่าๆ สร้างความสดชื่นมีกลิ่นหอมของทรัฟเฟิลสด เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยจานแรกที่ทำออกมาได้อร่อยเลยทีเดียว

2.Oyster & Corn Tartar

เนื้อหอยนางรมสดๆ นำมาบดคลุกเคล้ากับส้มยูซุ และข้าวโพด จนเกิดเป็น Tartar หอยนางรมสไตล์อินเดีย ที่มีความหอมของกลิ่นหอยนางรมอย่างชัดเจน ตัดด้วยความหวานของข้าวโพด และที่ต้องชมเลยคือการพรีเซ้นท์ของจานนี้ที่เสิร์ฟมาบนฟักข้าวโพด น่ารักมากๆ 

3.A tomato droplet

จานนี้ความสวยงามให้ 10 เต็ม 10 เลย เจลลี่รูปหยดน้ำที่มีความใสจนมองเห็นพื้นผิวของใบ Indian Borage (ใบมิ้นท์) ที่รองมาด้านล่าง ด้านในถ้วยไม้ที่รองอยู่ใต้วุ้นใสนั้นมีส่วนผสมของมะเขือเทศหั่นแว่นเล็กๆ บลูเบอร์รี่และ ราดด้วยน้ำซอสสูตรของทางร้านทานแล้วเพิ่มความสดชื่นและมีกลิ่นหอมของมะเขือเทศรวมถึงบลูเบอร์รี่ ตัววุ้นใสทานคู่กับใบมิ้นท์ ช่วยเพิ่มความเข้มข้นของรสชาติได้เป็นอย่างดี

4.Cured Wheel

จานนี้มีลักษณะเหมือนวงล้อที่ห่อล้อมด้วยเนื้อปลาสดจากฟาร์ม Haoma ม้วนกับ Haoma Greens ราดด้วยแยมองุ่น และน้ำซุปสูตรพิเศษ จานนี้เนื้อปลาแน่นและสดมากๆ ทานคู่กับส่วนประกอบอื่นๆ ที่อยู่ในวงล้อบอกเลยว่าอร่อยสุดๆ

5.Wagyu Short Ribs l Glazed Eel

มาถึงจานเมนคอร์สของเราในวันนี้ กับเนื้อวากิวคัดพิเศษ ที่ย่างมาแบบมีเดียมแรร์ เนื้อด้านในยังคงมีความชุ่มฉ่ำและมีสีแดง ราดด้วยซอสสูตรพิเศษที่ปรุงด้วย พริกไทยดำ เห็ดป่าดิบ มะเขือลมควัน และฟองน้ำซูปสูตรของทางร้าน จานนี้มีรสสัมผัสที่นุ่มและเข้มข้นมากๆ เนื้อมีกลิ่นหอมละมุนอร่อยมากจริงๆ ไม่มีความเหนียวเลยแม้แต่น้อย ขอยกให้เป็นเมนูที่ชอบที่สุดของวันนี้เลย ไม่น่าเชื่อว่าอาหารอินเดียจะสามารถทำให้เรารู้สึกอร่อยได้ขนาดนี้

6.Black and white

ปิดท้ายคอร์สนี้ด้วยเมนูของหวาน ทางร้านเสิร์ฟ ไอศกรีม 2 แบบสองสไตล์ในจานเดียว อย่างแรกเป็นไอศกรีม โอริโอ้ที่ปั้นออกมาได้อย่างละเอียดจนเนื้อไอศกรีมมีความนุ่มนวลสีดำแบบชาโควรสชาติหวานหอมมีความมันนิดๆ อีกหนึ่งรสชาติไอศกรีมที่เสิร์ฟมาในจานนี้ก็คือไอศกรีมชีส ตัวนี้จะมีกลิ่นของชีสและนมอย่างเต็มที่ แนะนำว่าให้ตักทั้ง 2 รสชาตินี้มาทานเข้ากันในคำเดียวจะเข้ากันแบบสุดๆ 

โดยรวมแล้ว Haoma คืออีกหนึ่งมิติของอาหารอินเดียในประเทศไทยที่สร้างความแตกต่างทางด้านรสชาติ การพรีเซ้นท์อาหาร และบรรยากาศของร้านอาหารอินเดีย ภาพเก่าๆ ถูกลบไปอย่างสิ้นเชิง เป็นหนึ่งในประสบการณ์สำหรับคนที่ชื่นชอบในการทานอาหารอร่อยๆ ควรไปลองดูสักครั้ง แล้วคุณอาจจะกลายเป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบในการทานอาหารอินเดียของร้าน Haoma แห่งนี้ครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่ตั้งร้าน Haoma : 231/3 ถนน สุขุมวิท แขวง คลองเตยเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพมหานคร 

เวลาเปิด - ปิดร้าน : เปิดบริการทุกวัน (หยุดเฉพาะวันจันทร์) อังคาร - ศุกร์ 18.00 - 23.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ 11.00 -15.00 น. / 18.00 - 23.00 น.

 ติดต่อ :  02 258 4744