เยือนถิ่นวีรชน สุขล้น @สิงห์บุรี
“บางระจัน บางระจัน บางระจัน…” เพลงบางระจัน ของวงคาราบาวบรรเลงขึ้นในหัว ตลอดการเดินทาง ตั้งแต่ที่รถเคลื่อนขบวนสู่เมืองเล็กมากเสน่ห์ อย่างจังหวัดสิงห์บุรี ถิ่นวีรชนคนกล้าที่มากด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ถนนทอดยาวผ่านสองข้างทางที่สลับวิวทุ่งนาผืนกว้างกับวิถีชุมชนเล็ก ๆ ที่ดูครึกครื้นในวัดหยุดสุดสัปดาห์ การได้ซึมซับบรรยากาศวิวในยามเช้าผ่านกระจกกั้นใส ๆ จากตัวรถ ช่วยให้คลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งอาทิตย์ เหมือนเวลาผ่านไปชั่วครู่ จุดหมายปลายทางอย่างวัดโพธิ์เก้าต้น ก็ปรากฎตรงหน้า
หาบบุญ ขอพร ณ วัดโพธิ์เก้าต้น
โดดเด่นด้วยกำแพงวัด ที่สร้างคล้ายกำแพงค่ายในอดีต ซึ่งเดิมวัดแห่งนี้เคยเป็นฐานที่มั่นของชาวบ้านบางระจัน ในการต่อต้านพม่าครั้งที่ยกกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. 2308 ปัจจุบันยังหลงเหลือซากอิฐปูนที่สันนิษฐานว่าเป็นวิหารพระอาจารย์ธรรมโชติรังสี ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวสิงห์บุรีมาช้านาน ผู้คนมักเดินทางมาขอพร หรือบนบานศาลกล่าวขอสิ่งที่ต้องการ เมื่อได้สมดั่งที่ขอพรไว้ชาวบ้านก็จะมาแก้บน ด้วยการหาบน้ำตามจำนวนหาบที่บนเอาไว้ ซึ่งสระน้ำศักดิ์สิทธิ์หรือที่เรียกกันติดปากว่า สระน้ำพระอาจารย์ธรรมโชติ ไม่เคยเหือดแห้ง มีกองทัพชาวบ้านมาหาบน้ำแก้บนกันไม่ขาดสาย
ด้วยแรงศรัทธาของผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาทำบุญ ทำให้วัดได้พัฒนาสิ่งปลูกสร้างใหม่ขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ในขณะเดียวกันยังคงเสน่ห์ของความเก่าแก่และเรื่องราวความกล้าหาญของชาวบางระจันไว้ให้นักท่องเที่ยวได้หวนคิดถึง
พักรบไปพบรัก ที่ตลาดย้อนยุค ‘บ้านระจัน’
จากบริเวณสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ เดินไม่ไกลนักก็จะถึง “ตลาดย้อนยุคบ้านระจัน” ที่เหมือนหลุดเข้ามาในอดีต ภาพพ่อค้าแม่ขายนุ่งโจงสวมชุดไทย บ้างก็สวมชุดตะเบงมาน บ้างก็ใส่ชุดนักรบถือดาบเหมือนชาวบางระจัน ยืนขายของในร้านแผงลอยเล็กๆ ที่เรียงรายตลอดสองข้างใต้ร่มไม้ใหญ่
ระหว่างเดินทอดน่อง ชม้อย ชม้ายชายตามองเหล่าพ่อค้าแม่ขาย มีเสียงปริศนาแทรกขึ้นมาระหว่างการเดินชมตลาด “ขอบน้ำใจเจ้าค่ะ” เสียงหวาน ๆ ไม่แพ้ใบหน้าจากแม่ค้าสวมชุดไทยสีม่วงนุ่งโจงกระเบนสีเฉกเช่นเสื้อที่ใส่ กล่าวขอบคุณนักท่องเที่ยวที่อุดหนุนน้ำสมุนไพรจากร้านอย่างยิ้มแย้ม เป็นภาพน่ารักที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยนัก ตลาดย้อนยุคที่ไม่ได้เก่าแก่เฉพาะสิ่งปลูกสร้าง แต่ยังละเมียดละไมไปถึงการสวมบทบาทของพ่อค้าแม่ขายในสมัยอยุธยา เป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของตลาดแห่งนี้
นอกจากนี้ที่ตลาดยังมีอาหารรสเลิศที่หากินยากฉบับครัวกรุงศรี ให้ได้ลิ้มรสอาหารไทยแบบท้องถิ่นอย่าง ปลาเห็ด หรือทอดมันที่รสชาติถึงพริกถึงเครื่อง ข้าวโพดคั่วหอม หวาน มัน แบบกรรมวิธีโบราณที่หาชมได้ยาก หรือใครใคร่กระหายน้ำต้องการความสดชื่นขอแนะนำน้ำสมุนไพรทั้งกระเจี๊บย เก็กฮวย ตักใส่มาใน “หมาตักน้ำ” ภาชนะที่ทำจากวัสดุจากธรรมชาติอย่างใบจาก ประหลาดใจกว่านั้นคือหลอดดูดน้ำที่ใช้ก้านบัวแทนหลอดพลาสติก ถือเป็นไอเดียที่น่ารักและยังช่วยลดพลาสติกอีดด้วย
เดินลัดเลาะรอบตลาดจนถึงทางเลียบคลองมีแพไม้ไผ่ทอดยาวตลอดแนวคลองให้ได้นั่งผ่อนคลายรับลมเพลิน ๆ แดดบ่ายคล้อยจนเป็นแสงอ่อนบางในยามเย็น ภาพบรรยากาศที่นี่ยังคงคับคั่งด้วยนักท่องเที่ยวที่ต่างแวะเวียนมาชมตลาดย้อนยุคกันอย่างไม่ขาดสาย เหล่านักรบจำแลงยังคงทำหน้าที่โพสต์ท่าถือดาบ เล็งปืน ต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่หน้าป้อมอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
ที่นี่ยังคงมีอะไรแปลกตาอีกมากมาย ความน่าสนใจของตลาดแห่งนี้เอ่อล้นจนผู้เขียนไม่สามารถบรรยายได้หมด จึงขอแนะนำให้มาย้อยยุคสัมผัสเสน่ห์ตลาดบ้านระจันด้วยตัวคุณเอง
หากปลายทางการท่องเที่ยวของคุณไม่ใช่การกินหรูอยู่สบายระดับห้าดาว แต่คือการได้ลิ้มรสอาหารพื้นบ้านท้องถิ่นและสัมผัสกับบรรยากาศตลาดชุมชนเก่าครั้งวันวาน ตลาดบ้านระจัน ก็ถือเป็นปลายทางท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ตลาดย้อนยุค "บ้านระจัน"
เวลาทำการ : 08.30-16.00 น. เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
กลุ่มอาสาจัดตั้งตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน โทร. 09-1765-6566