นอนโฮมสเตย์ "บ้านวังน้ำมอก" สัมผัสอารยธรรมล้านนาในแผ่นดินอีสาน
"บ้านวังน้ำมอก" ชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถีในอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ที่นี่เป็นหมู่บ้านอันเงียบสงบที่ชาวบ้านได้อยู่อาศัยกันมาอย่างช้านานตั้งแต่ในสมัยอดีต ซึ่งความที่หมู่บ้านแห่งนี้ได้ก่อตั้งมาอย่างยาวนานทำให้ที่นี่มีประวัติความเป็นมา มีอารยธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์และมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก จนก่อให้เกิดการท่องเที่ยวในชุมชนแห่งนี้ขึ้นมา ซึ่งเราได้มีโอกาสได้เดินทางไปท่องเที่ยวในชุมชนวังน้ำมอกแห่งนี้ และได้ถือโอกาสนำเรื่องราวความทรงจำดีๆ และความประทับใจในชุมชนมาบอกต่อให้ทุกคนได้ไปเที่ยวกันครับ
ชุมชนวังน้ำมอกเป็นชุมชนเล็กๆ ที่ชาวบ้านยังคงอาศัยอยู่ด้วยวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย เมื่อมาถึงหมู่บ้านจะสังเกตได้อย่างหนึ่งคือหมู่บ้านนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับหมู่บ้านทางภาคเหนือเป็นอย่างมาก เริ่มตั้งแต่บริเวณจุดบริการนักท่องเที่ยวของหมู่บ้านที่มีการตกแต่งด้วยโคมไฟสไตล์ล้านนา หลายสิบโคม และบ้านเรือนทรงไทยที่เราได้เคยเห็นทางภาคเหนือ จึงเกิดคำถามขึ้นในใจ และเริ่มรู้สึกสนใจในประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านนี้เป็นอย่างมาก
ซึ่งเราได้คำตอบที่ทำให้เราถึงบางอ้อว่าที่หมู่บ้านแห่งนี้มีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกับทางภาคเหนือนั้นก็เพราะว่า แรกเริ่มเดิมทีชาวชาวบ้านกลุ่มแรกที่ได้เข้ามาอาศัยที่ชุมชนแห่งนี้นั้นเป็นชาวล้านนาที่อพยพตามกันมานั่นเอง
มาดูในส่วนกิจกรรมท่องเที่ยวของชุมชนกันบ้าง บอกเลยว่ามาเที่ยวที่นี่ไม่มีเหงาแน่นอน เพราะมีกิจกรรมท่องเที่ยวให้ได้ทำกันอย่างมากมาย เริ่มต้นจากการไปเดินชมเกษตรกรรมที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวบ้าน ทั้งการเลี้ยงไก่ไข่ และทำสวนผลไม้ ซึ่งเราจะได้ช่วยกันเก็บไข่และผลไม้รวมถึงผักเพื่อมารอประกอบอาหารกันในช่วงเย็นนี้ด้วย
และเมื่อเก็บวัตถุดิบในการทำอาหารกันมาแล้วก็ได้เวลามาปรุงอาหาร โดยอาหารของเราในวันนี้จะเป็นอาหารพื้นเมืองซึ่งหาทานได้แค่ที่บ้านวังน้ำมอกเท่านั้น หมักไก่ และเครื่องปรุงต่างๆ ทิ้งไว้ หลังจากนั้นก็ได้เวลาไปพักผ่อนรอคอยมาปรุงอาหารกันอีกทีในตอนเย็น
ในส่วนของที่พักของเราในวันนี้จะเป็นโฮมสเตย์บ้านไม้ที่ตั้งอยู่ติดกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โดยปกติถ้าเป็นช่วงที่มีน้ำเยอะด้านหน้าโฮมสเตย์จะเป็นแอ่งน้ำที่เราสามารถลงไปเล่นกันได้เลย แต่ช่วงที่เราไปนั้นเป็นช่วงน้ำแห้ง เราจึงได้เห็นแค่เพียงเด็กๆ ที่มาเล่นสนุกกับหนองน้ำใหญ่บริเวณหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเท่านั้น ซึ่งภาพเหล่านี้ก็ทำให้เรานึกย้อนไปถึงวัยเด็กของตัวเองเช่นกันช่วงเวลาที่ออกมาวิ่งเล่นนอกบ้านช่างมีความสุขจริงๆ
ด้านในโฮมสเตย์จะมีหมอก ที่นอนและมุ้งเตรียมไว้ให้พร้อมเสร็จ ห้องน้ำในตัวสะอาดสะอ้าน ได้บรรยากาศเหมือนมานอนพักผ่อนที่บ้านญาติเลยก็ว่าได้ มีโซนชานเรือนให้นั่งเล่นพักผ่อนรับลมเย็นๆ นั่งมองวิถีชีวิตของผู้คน และธรรมชาติที่อยู่รอบตัว บางคนถึงกับเผลอหลับไปเพราะความชิลของที่พัก โดยไม่รู้ตัว
ระหว่างรอปรุงอาหารทางชุมชนก็มีกิจกรรมคั่วกาแฟเพื่อนำมาทำเป็นสบู่สาธิตให้เราได้ชมและเรียนรู้เป็นวิทยาทานด้วย ใครจะนำสูตรไปใช้ที่บ้านทางชุมชนก็ไม่หวงแต่อย่างใด
และแล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยนักท่องเที่ยวร่วมกันประกอบอาหารเย็น ด้วยกระบอกไม้ไผ่แบบโบราณ ไม่นานนักก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวได้ทำร่วมกับชุมชนและสร้างความสนุกสนานเป็นอย่างมากระหว่างทำกิจกรรม
ช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่มพิธีการโคมไฟพาแลงก็เริ่มต้นขึ้น โดยชาวบ้านจะให้เราได้ลองใส่ชุดพื้นเมืองก่อนทานข้าวและมีการทำบายศรีสู่ขวัญ รับขวัญให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคนจากผู้เฒ่าผู้แก่ภายในหมู่บ้าน เป็นกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมา และรู้สึกผูกพันกับหมู่บ้านนี้จริงๆ
ต่อจากนั้นก็ได้เวลาล้อมวงทานข้าว ซึ่งชาวบ้านก็จะมาล้อมวงทานข้าวคู่กับเรา เป็นอาหารพื้นบ้านที่รสชาติอร่อยสุดๆ เรียกได้ว่าจกข้าวเหนียวกันจนหมดกระติ๊บเลยทีเดียว
และระหว่างทานข้าวทางผู้นำชุมชนก็จะบรรยายประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านวังน้ำมอก อย่างละเอียด จนเราได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และรู้สึกถึงความสำคัญของชุมชนแห่งนี้ไปด้วย
หลังจากทานข้าวกันจนอิ่มหนำสำราญแล้วก็ได้เวลากลับห้องพักไปนอนพักผ่อนท่ามกลางแสงดาว ซึ่งต้องบอกเลยว่าเดินกลับมาทีห้องพักคราวนี้ยิ่งตื่นตื่นตื่นใจกว่าตอนกลางวันเพราะทางชุมชนได้เปิดโคมไฟแสงสีไว้หน้าห้องพัก สร้างความสวยงามและแต่งแต้มสีสันในยามค่ำคืนได้เป็นอย่างดี ประทับใจก่อนจะนอนหลับไปท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย
ตื่นเช้ามามีกิจกรรมที่ทางชุมชนเตรียมไว้ให้รอเราอยู่นั้นก็คือการทำขันคู่ปี ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่แตกต่างของหมู่บ้านวังน้ำมอก โดยทางชุมชนจะเตรียมพานที่ทำจากหยวกกล้วยลักษณะเหมือนบายศรีมาให้เราได้ตกแต่งด้วยดอกไม้และธูปเทียนด้วยตัวเอง โดยจะต้องปักดอกไม้ธูปเทียนตามจำนวนอายุของตัวเอง และดอกไม้แต่ละดอกนั้นก็จะมีความหมายแตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน สร้างความสนุกสนานเพลิดเพลินพร้อมทั้งได้เรียนรู้วิถีชุมชนไปด้วยในตัว หลังจากนั้นทุกคนจะนำขันคู่ปีไปที่วัดเทสรังสี วัดประจำหมู่บ้านของบ้านวังน้ำมอก ซึ่งประดิษฐาน พระเจ้าล้านทอง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน เพื่อนมัสการพระเจ้าล้านทองเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
จากนั้นเราจะกลับมาที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อชมศิลปะหัตกรรมพื้นเมืองทั้งการทอเสื่อด้วยมือ การทอผ้าไหม เป็นต้น ก่อนที่จะเลือกซื้อของฝากและร่วมกินข้าวกลางวันร่วมกับชุมชนเป็นอันจบโปรแกรมท่องเที่ยว 2 วัน 1 ในชุมชนวังน้ำมอก
ซึ่งบอกเลยว่าการได้ทีได้มานอนพักผ่อนที่นี่เพียงหนึ่งคืน แต่ความเป็นมิตรและโอบอ้อมอารีย์ของชาวบ้านนั้นทำให้เรารู้สึกผูกพันธ์และอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก วิถีชุมชนที่ดูเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์และทรงคุณค่า ความสวยงามของธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ ทุกอย่างนี้เป็นแรงดึงดูดที่ทำให้ใครต่อใครต่างก็อยากจะมาเยี่ยมเยือนที่นี่ ดินแดนสองล้าน-สองเวียง อารายธรรมล้านนาในแผ่นดินอีสาน บ้านวังน้ำมอก
ข้อมูลเพิ่มเติม
ที่ตั้งบ้านวังน้ำมอก : ตำบล พระพุทธบาท อำเภอ ศรีเชียงใหม่ จังหวัด หนองคาย
ราคาทัวร์ 2 วัน 1 คืน : 1,590 บาท รวมอาหาร 3 มื้อ และที่พักหนึ่งคืน รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ภายในชุมชน
ติดต่อ : 08 6232 5300
อัลบั้มภาพ 57 ภาพ