2 วัน 1 คืน สัมผัสวิถีชีวิตริมแม่น้ำสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี
ทุกๆ พื้นที่มีเสน่ห์ของตัวเองอยู่เสมอ เช่นเดียวกันกับที่ตัวเมืองจังหวัดอุทัยธานี เมืองอันเงียบสงบ ที่ยังคงเอาไว้ซึ่งความคลาสสิคแบบดั้งเดิม วิถีชีวิตอันแสนน่ารักและมีเสน่ห์ที่จะทำให้คุณหลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้มา ซึ่งในวันนี้ Sanook! Travel จะพาคุณไปสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวอุทัยธานีในแถบริมแม่น้ำสะแกกรัง แม่น้ำที่เปรียบได้ดั่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเมืองอุทัยธานี ไปดูกันว่าอุทัยธานีมีอะไรเที่ยวกันบ้าง
เริ่มต้นการท่องเที่ยวในตัวเมืองอุทัยธานีด้วยการไปล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวแพริมน้ำสะแกกรังกันก่อน ซึ่งจุดขึ้นเรือล่องแม่น้ำนั้นจะต้องมาขึ้นที่ท่าเรือตรงข้ามกับวัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์ โบราณสถานที่สำคัญของอุทัยธานีนั่นเอง
เรือจะพาเราล่องแม่น้ำไปชมวิถีชีวิตพื้นบ้านและเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของชาวอุทัยธานี และพาเราไปแวะขึ้นแพของป้าแต๋ว แม่ค้าคนดังแห่งสะแกกรัง แพของป้าแต๋วนั้นจะมีสินค้าพื้นบ้านขายให้แก่นักท่องเที่ยวมากมาย ของขึ้นชื่อที่ห้ามพลาดได้แก่ปลาแม่น้ำย่าง ทั้งปลาช่อน และปลาเนื้ออ่อน ซึ่งเป็นกรรมวิถีทำอาหารแบบพื้นบ้านที่ยังคงหลงเหลืออยู่เพียงที่เดียวในลุ่มแม่น้ำสะแกกรังนี้ นอกจากนี้ยังมีขนมและของฝากต่างๆ ให้เลือกซื้อกันด้วย ได้ซื้อของและพูดคุยกับป้าแต๋วถึงประวัติความเป็นมาของการใช้ชีวิตบนแพแบบนี้ ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ ป้าอารมณ์ดียิ้มแย้มตลอด ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้มาเที่ยวบ้านญาติเลยทีเดียว
ต่อจากแพป้าแต๋วเราล่องเรือกันไปต่อตามเส้นทางผ่านบ้านเรือนของชาวบ้านริมน้ำที่บางครัวเรือนยังคงอาศัยอยู่บนแพอยู่ และผ่านสถานที่สำคัญมากมาย เช่นบ้านของตระกูลท่านศ.ศิวลักษณ์
และที่สำคัญนั่นก็คือพระตำหนักของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ตั้งอยู่ริมน้ำสะแกกรังเช่นกัน
เมื่อจบโปรแกรมล่องเรือแล้วก็ได้เวลาไปเดินเล่นหาของอร่อยๆ ทานกันในเย็นนี้ โดยเราไปกันตลาดตรอกโรงยา ซึ่งเป็นถนนคนเดินเล็กๆ ที่สำคัญของเมืองอุทัยธานี ในสมัยก่อนถนนเส้นนี้จะมีโรงฝิ่นที่เปิดให้ประชาชนมาสูบฝิ่นกันได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว และเปิดเป็นถนนคนเดินขายสินค้าและอาหารแทน ซึ่งต้องบอกเลยว่าที่นี่มีทุกอย่างที่คุณอยากทานจริงๆ! ใครหิวๆ อยู่ มาที่นี่ได้ทั้งอิ่มและอร่อยแน่นอน
และนอกจากสินค้าและอาหารที่ขายอยู่ในตลาดแล้วยังมีพิพิธภัณฑ์ โรงฝิ่นซึ่งจำลองวิถีชีวิตของชาวบ้านสมัยโบราณที่มาหาความสุขจากการเสพฝิ่นด้วย อย่าลืมแวะมาชมกันดูครับ
ผ่านไปหนึ่งคืนสำหรับการมาเยือนเมืองอุทัยธานี เราตื่นกันแต่เช้าเพื่อไปชมแสงเช้าที่บริเวณท่าเรือหน้าวัดโบสถ์ ซึ่งในยามเช้าแบบนี้แสงที่นี่สวยงามมากๆ แสงสีทองปนม่วงที่ส่องประกายออกมาด้านหลังวัด ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นมาสร้างความสว่างไสวให้แก่เมืองอุทัย เป็นภาพที่ตื่นตาตื่นใจและสร้างความประทับใจให้กับเราเป็นอย่างมาก ใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูปบอกเลยว่าห้ามพลาดมาเก็บแสงเช้าที่นี่กัน
และเมื่อถึงเวลาประมาณ 7.00 น. ก็ได้เวลาที่ทุกคนรอคอยนั่นก็คือการใส่บาตรเช้าทางน้ำที่ถือเป็นวิถีชีวิตที่ดูเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์เป็นอย่างมากของชาวอุทัยธานี เป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาสัมผัสกับวิถีชีวิตริมน้ำเช่นนี้
เมื่อใส่บาตรกันเสร็จแล้วเราก็ข้ามสะพานไปเยี่ยมชมวัดอุโปสถารามกัน ซึ่งวัดแห่งนี้มีประวัติการสร้างมาอย่างยาวนาน สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดแห่งนี้นั่นก็คือจิตรกรรมฝาผนังที่มีความวิจิตรงดงามมากๆ และอีกสิ่งหนึ่งก็คือมณฑปแปดเหลี่ยม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดูสวยงามและแปลกตา
ต่อจากวัดโบสถ์เราไปต่อกันที่ทุ่งนาบนเกาะเทโพเกาะที่เป็นผืนแผ่นดินขนาดใหญ่ของเมืองอุทัยธานี ที่นี่ยังคงมีทุ่งนาที่ยังคงอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ข้าวยังออกรวงสวยงามมองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตามองเห็นแต่ความเขียวขจีที่ดูชุ่มชื่นยิ่งมองก็ยิ่งสบายตาพาให้สบายใจ
ก่อนกลับเราไปเช็กอินอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอุทัยธานีที่ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดนั่นก็คือวัดสังกัสรัตนคีรี เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสะแกกรัง จากจุดนี้เราสามารถชมวิวเมืองอุทัยธานีได้แบบพาโนรามา สวยงามเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีศาสนสถานที่งดงามทั้งอุโบสถและพระพุทธรูป เป็นที่สักการะและนับถือของชาวอุทัยธานี
จบไปแล้วสำหรับทริป 2 วัน 1 คืนท่องเที่ยวเลาะริมฝั่งแม่น้ำสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี ที่นี่มีทั้งศิลปวัฒนธรรมอันงดงาม มีธรรมชาติที่ยังคงสมบูรณ์ ผู้คนน่ารักมากๆ ของกินอร่อย และเงียบสงบเหมาะแก่การมาพักผ่อนสุดๆ หลายคนอาจจะยังไม่เคยมาท่องเที่ยวหรือมองว่าที่นี่ไม่ค่อยจะมีอะไร แต่อยากให้คุณได้ลองมาสัมผัสด้วยตาคุณเอง แล้วคุณจะรู้ว่าอุทัยทำให้คุณประทับใจได้เสมอ...
อัลบั้มภาพ 62 ภาพ