มนต์เสน่ห์หน้าฝน บนเขาค้อ
ตลอดช่วงชีวิตการเดินทางที่ผ่านมา ผมเคยแอบอิจฉากลุ่มคนที่เคยอยู่ในพรรคคอมมิวนิสต์อยู่บ่อยๆ เนื่องจากว่าสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆ แห่ง ที่สวยงามของเมืองไทยล้วนได้เคยเป็นที่พำนักพักพิงของกลุ่มคอมมิวนิสต์มาก่อน ลองมานึกกันดูเล่นๆ เช่น เขาค้อ , ภูหินร่องกล้า , ภูสอยดาว , อ.อุ้มผาง , อ.เบตง และอีกหลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งหากท่านได้เคยเดินทางไปเที่ยวชม คงจะได้พบเห็นความสวยงามของธรรมชาติ และความสมบูรณ์ของป่าไม้ในพื้นที่ จุดนี้แหละครับที่ผมนึกอิจฉาพวกเขาเหล่านั้น การได้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ พึ่งพาธรรมชาติ ไม่ต้องวุ่นวายกับสังคมเมืองที่มากไปด้วยการแก่งแย่งโกงกิน หรือคอยแต่หาประโยชน์ให้กับตัวเอง
ต่อมาหลังจากพรรคคอมมิวนิสต์ ได้ล่มสลายไปจากประเทศไทย รัฐบาลได้ปรับปรุงพื้นที่หลายแห่งที่พรรคคอมมิวนิสต์ได้เคยใช้เป็นฐานปฏิบัติการ มาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและทางประวัติศาสตร์ ประชาชนทั่วไปจึงได้รับประโยชน์ ในการเข้าไปท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติศึกษาอดีต และเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ นับเป็นเรื่องที่ดี
ล่าสุดผมได้มีโอกาสเดินทางไปที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ดินแดนที่เคยได้ชื่อว่าเคยเป็นฐานที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์ นับย้อนเวลากลับไปประมาณ 30 กว่าปี ในบริเวณนี้ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่แห่งการสู้รบด้วยความขัดแย้งกันทางความคิด อุดมการณ์ทำให้เกิดการต่อสู้เรียกร้องช่วงเวลานั้นต่างฝ่ายต่างคิดกันแต่เพียงว่าตนเป็นฝ่ายถูก เมื่อการพูดคุยไม่เป็นผลจุดจบของปัญหาถูกสรุปออกมาด้วยการใช้ความรุนแรงซึ่งนั่นก็คือ “สงคราม”
ผลตามมาคือความสูญเสียกันไปทั้งสองฝ่าย ที่น่าเศร้าใจมากที่สุดคือ การที่คนไทยด้วยกันต้องมาเข่นฆ่ากันเอง เลือดสีแดงจากร่างบริสุทธิ์อันถูกพรางไว้ด้วยเสื้อสีขาวและสีกากีต้องมาไหลรินอาบนองหลั่งลงพื้นดินบนยอดเขาสูงหยดแล้วหยดเร่า กว่าเหตุการณ์จะคลี่คลายไปทางที่ดี หลายครอบครัวต้องผจญกับความโศกเศร้าต่อการจากไปของผู้เป็นที่รักอย่างไม่มีวันหวนกลับคืน
ช่วงเวลานั้น เขาค้อ ถูกขนานนามว่าเป็นพื้นที่สีแดง ผู้คนจากต่างถิ่นไม่มีใครกล้าย่างกรายเดินทางผ่านขึ้นไป ด้วยเกรงกลัวภัยอันตราย จวบจนเสียงปืนนัดสุดท้ายได้จางหายไปกับสายลมเย็น เหล่านิสิตกลับใจทะยอยเดินทางออกจากป่าลงมาจากยอดเขาสูงพร้อมวางปืนคู่กาย บ่ายหน้ากลับไปสู่อ้อมอกอันอบอุ่นของครอบครัวที่เฝ้านับวันรอคอยการกลับมาอยู่ทุกลมหายใจ นั่นคือประสบการณ์ช่วงหนึ่งของชีวิตที่เขาไม่อาจลบลืมมันไปจากใจได้ในเร็ววัน
นอกจากอุดมการณ์แล้ว ป่าเขียวและทิวเขาสวยได้ช่วยจรรโลงใจให้รู้สึกสดชื่นมีความสุขท่ามกลางความเหน็บหนาวบริสุทธิ์ เป็นความทรงจำอันสวยงามที่เขายังจดจำได้ดี หลายคนได้เลือกทางเดินต่อไปตามเส้นทางสายดนตรีหรือศิลปินดังที่เราได้ยลผลงานของเขาตราบเท่ามาจนถึงปัจจุบัน อีกหลายคนเลือกเดินไปในเส้นทางการเมือง ซึ่งอาจเป็นเพราะเขาได้คลุกคลีอยู่กับมันมานานนับสิบๆ ปีอย่างที่ไม่สามารถจะแยกออกจากร่างกายได้เสียแล้ว สรุปได้ว่าไม่ว่าจะเป็นเส้นทางไหนทุกชีวิตยังคงต้องเดินทางกันต่อไป ด้วยความหวังว่าจะไปพบกับความสุขราวกับเป็นปลายทางแห่งความฝัน ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ไกลสักเพียงไหนก็ตาม
วันนี้ที่เขาค้อ
ทางหลวงหมายเลข 12 จาก จ.ขอนแก่น ทอดตัวตรงตัดผ่าน อ.ชุมแพ แล้วคดโค้งสูงชันผ่านผืนป่าน้ำหนาวอันเป็นดงดินถิ่นอาศัยของโขลงช้างป่าลงมาสู่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จากนั้นบิดตัวลัดเลี้ยวเคี้ยวคดไต่ระดับไปตามไหล่เขาอีกครั้ง เส้นทางในช่วงนี้นักเดินทางต่างรู้กันดีว่าเป็นช่วงที่มีความสวยงามของทิวทัศน์ธรรมชาติป่าเขา
ยิ่งเป็นช่วงฤดูฝนผืนป่าที่พึ่งพ้นผ่านความแห้งแล้ง ยามได้น้ำฝนพร่ำโปรยมวลแมกไม้กลับฟื้นคืนความมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนล้วนดูเขียวชะอุ่มสดชื่นสุขใจสบายตาน่าเดินทางไปสัมผัส บางคนเข้าใจว่าถ้าจะมาเที่ยวชมธรรมชาติบริเวณเขาค้อต้อรอให้ถึงฤดูหนาว นั่นอาจจะเป็นความเข้าใจที่ยังไม่ถูกต้องนัก เพราะเขาค้อในช่วงฤดูฝนนั้นมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติอย่างเต็มที่ไปจนถึงช่วงฤดูหนาว
สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ก็ล้วนมีความน่าสนใจ อีกทั้งที่พักร้านอาหารมากมายต่างพร้อมรับนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลา รอคอยการมาเยือนจากผู้ถวิลหาความเป็นธรรมชาติ สายฝนมีส่วนอย่างมากที่ทำให้อากาศหนาวเย็น เกือบทุกครั้งหลังฝนตกบนยอดเขาจะมีหมอกขาวเกาะกลุ่มรวมตัวลอยมาละเลียดเฉียดเรือนยอดไม้เป็นภาพที่ชวนให้เกิดความหลงใหลในธรรมชาติ จิตใจที่เร่าร้อนกลับกลายสุขสงบขึ้นได้อย่างไม่รู้ตัว นี่กระมังที่เขาเรียกกันว่าธรรมชาติบำบัด
และในวันนี้ทางหลวงหมายเลข 12 กำลังถูกขยายให้กว้างขึ้นตามนโยบายการเตรียมตัวเปิดประเทศ อีกไม่นานเพื่อนบ้านของเราอย่างเช่น เวียดนาม ลาว ก็จะเดินทางผ่านถนนสายนี้ได้เที่ยวชมความสวยงามจากธรรมชาติสองข้างทาง
และอาจจะมีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่จะเลือกแวะพักค้างคืนบนเขาค้อเพื่อดื่มด่ำกับความหนาวเย็นชื่นชมกับทิวเขาสวย ก่อนที่จะออกเดินทางต่อไปยัง จ.พิษณุโลก จ.สุโขทัย จ.ตาก แล้วเข้าสู่ อ.แม่สอด โดยไปสิ้นสุดเป้าหมายการเดินทางที่พม่า
ทางหลวงหมายเลข 12 สายนี้จึงถือได้ว่าเป็นถนนสายสำคัญที่จะนำพาผู้คนจากประเทศเพื่อนบ้านของเราไปสู่อีกประเทศที่ตั้งอยู่อีกฟากหนึ่ง โดยต้องเดินทางผ่านประเทศไทยของเราหลายจังหวัดซึ่งล้วนแต่มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวพร้อมรองรับผู้มาเยือนอยู่ตลอดเวลา
หากคุณได้เดินทางมาเขาค้อในช่วงฤดูกาลนี้ คุณจะได้พบความประทับใจอย่างที่แตกต่างไปจากช่วงฤดูหนาว เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างคิดกันว่าเขาค้อนั้นเหมาะสมที่จะเดินทางไปเที่ยวชมในช่วงฤดูหนาว จึงทำให้ฤดูฝนมีนักท่องเที่ยวไปเยียมเยือนกันไม่มากนัก
ผมอยากจะบอกว่า นี่แหละครับคือช่วงเวลาทอง ช่วงฤดูฝนป่าจะมีความสมบูรณ์สีเขียวสดมากกว่าฤดูอื่น และยิ่งนักท่องเที่ยวไปกันน้อยด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เกิดความสะดวกสบายจะถ่ายภาพตรงไหนก็สะดวกไม่ต้องต่อคิวหรือถ่ายมาแล้วติดคนเต็มพรืดไปหมด คุณจะได้ภาพทิวทัศน์ธรรมชาติอย่างแท้จริง ที่สำคัญที่พักหลายแห่งบนเขาค้อมีโปรโมชั่นลดราคาชนิดที่ว่าถูกกว่าช่วงฤดูหนาวมากๆ เลยทีเดียวเชียว อยู่ที่ว่าคุณต้องการแบบไหน ราคาสักเท่าไร เท่านั้นเอง