ความลับแห่งเทือกเขาดัคชไตน์ เสน่ห์แห่งออสเตรีย อัญมณีแห่งวัฒนธรรม

หมู่บ้านบนภูเขา สิ่งปลูกสร้างแบบบาโรกและความงามของออสเตรีย ชวนให้นึกถึงเทพนิยายยุคกลางมากกก... ความยิ่งใหญ่ของมันทำให้นักท่องเที่ยวแห่ไปยังประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ สำหรับพวกเราชาวไทยที่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมแบบเขตร้อน ออสเตรียถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีเสน่ห์ที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายคนเลือกออสเตรีย ซึ่งมีกรุงเวียนนาเป็นเมืองหลวงของประเทศนั้น เพราะที่นี่มีพระราชวังที่งดงามและประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล เนินเขาที่ซาลซ์บูร์ก ประดุจดั่งมีชีวิต - อย่างที่เราเห็นใน The Sound of Music อินส์บรุค หรือเป็นที่รู้จักกันในนามเมืองหลวงแห่งเทือกเขาแอลป์ เป็นดินแดนมหัศจรรย์ในฤดูหนาว เสน่ห์ของเมืองเหล่านี้สร้างความประทับใจกับการท่องเที่ยวของเราอย่างแน่นอน แต่หนึ่งในนั้น เหล่าอัญมณีทางวัฒนธรรมยังเทียบไม่ได้กับความสงบและสวยงามของเทือกเขาดัคชไตน์

ณ ใจกลางของทวีปยุโรป เทือกเขาดัคชไตน์เป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมมากมาย โดยในปี ค.ศ. 1997 ยูเนสโกขนานนามที่แห่งนี้ว่าเป็นมรดกโลกสำหรับทิวทัศน์ที่งดงาม การก่อตัวของภูเขาที่งดงามและทะเลสาบ ภูมิภาคนี้ประกอบด้วยสี่สถานที่ใกล้เคียงที่สำคัญ คือ  บาทกอยเซิน โกเซา ฮัลล์สตัทท์ และ โอเบอร์เทราน์ แต่ เทือกเขาดัคชไตน์เป็นมากกว่าแค่ทิวทัศน์ที่งดงาม ยังสิ่งมหัศจรรย์ซ่อนอยู่ในใจกลางของเทือกเขาและ สถานที่เหล่านี้คือความร่ำรวยทางวัฒนธรรมและประเพณีที่ชาวออสเตรียอนุรักษ์และพัฒนามานานหลายปี

ราชา ดัคชไตน์ – อัญมณีธรรมชาติอันงดงาม

ที่เรียกว่า “ราชาดัคชไตน์”  นั้นเนื่องจากเทือกเขาดัชสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนท้องฟ้าอย่างองอาจ ด้วยยอดเขาที่เป็นน้ำแข็ง ทำให้ภูเขาเปล่งประกายตลอดทั้งปี หากต้องการเป็นสักขีพยานถึงความงดงามของ ราชาดัคชไตน์ อย่างเต็มที่ ให้ขึ้นไปบนจุดชมวิว Five Fingers ท่านจะได้พบกับทิวทัศน์ที่งดงาม ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยม จุดชมวิว Five Fingers เป็นตัวแทนของห้าสถานที่ ที่คุณสามารถชมได้ในเทือกเขาดัชสไตน์ และสิ่งมหัศจรรย์อื่นๆที่อยู่รายรอบได้อย่างทั่วถึง ที่เชิงเขา ท่านจะได้พบกับทะเลสาบโกเซาที่งดงาม นอกเหนือจากแหล่งน้ำอื่นๆ ในโลกแล้ว ทะเลสาบโกเซายังคงอนุรักษ์ความงดงามทางธรรมชาติเอาไว้ น้ำในทะเลสาบสามารถดื่มกินได้ ทั้งนี้ ในทะเลสาบยังปลาหลากหลายชนิด เจริญเติบโตได้ในความบริสุทธิ์ของทะเลสาบนี้

ถ้ำน้ำแข็งยักษ์ – เขาวงกตแห่งผลึกอันน่าหลงใหล

เทือกเขาดัชสไตน์เต็มไปด้วยมนต์ขลัง นอกจากทิวทัศน์ที่คุณจะสัมผัสถึงความงดงามแล้ว ถ้ำน้ำแข็งยักษ์จะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับเสน่ห์ผ่านงดงามในอีกมุมมองหนึ่ง ถ้ำน้ำแข็งยักษ์นี้เปิดให้นักท่องเที่ยวทุกท่านเข้าชม ภายในถ้ำน้ำแข็งนักท่องเที่ยวจะเห็นรูปปั้นน้ำแข็งประหลาดที่เกิดขึ้นจากน้ำที่ไหลจากที่ราบสูงดัชสไตน์ ไปจนถึงรอยแตกเล็กๆ ของถ้ำ เมื่อฤดูกาลเปลี่ยนแปลงในออสเตรีย การละลายและการแช่แข็งของน้ำแข็งจะสร้างความสมดุลที่กลมกลืน ซึ่งจะทำให้ทุกคนประหลาดใจ

ฮัลล์สตัทท์ สถาปัตยกรรมที่มีสีสันและวัฒนธรรมอันมีค่า

หัวใจของการเดินทางมีรากฐานมาจากการเรียนรู้สิ่งใหม่ และเช่นกัน สถานที่ที่เป็นหัวใจหลักของดัชสไตน์ตั้งอยู่ในหมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ มรดกโลกของยูเนสโก แน่นอนว่าที่นี่เป็นหนึ่งในไฮไลท์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของทวีปยุโรป ซึ่งได้รับการยอมรับว่า ฮัลล์สตัทท์ คือ ประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม แม้ว่าหมู่บ้านจะมีขนาดเล็ก แต่หมู่บ้านนี้จะทำให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยว

เพื่อให้ท่านได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่มีสีสันที่ตัดกับสีเขียวชอุ่มของภูเขาและความใสของทะเลสาบ ตรงข้ามหมู่บ้าน ท่านจะเห็นบ้านแบบคลาสสิกเรียงรายต่อกันมากมาย บ้านเหล่านี้ถือว่าเป็นบ้านแบบดั้งเดิมของ ฮัลล์สตัทท์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นสูงและแคบเพื่อให้พอดีกับพื้นที่ขนาดเล็กในหมู่บ้าน

ทางเหนือของหมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ ท่านจะได้พบกับเหมืองเกลือที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เหมืองเกลือฮัลล์สตัทท์ ที่เปิดให้บริการจนถึงทุกวันนี้ การท่องเที่ยวที่นี่มีอะไรมากมายให้เรียนรู้ ซึ่งนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงขอแนะนำอย่างยิ่งให้เยี่ยมชมเหมืองเกลือพร้อมกับไกด์นำเที่ยว เพื่อเพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยวให้กับท่าน

และหนึ่งในจุดชมวิวที่ดีที่สุดในการชมความงามของ หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ คือ ฮัลล์สตัทท์สกายว็อค จุดชมวิวลอยฟ้า สูงเหนือระดับน้ำทะเล 360 เมตร และทอดตัวจากภูเขา 12 เมตร ช่วยให้คุณเห็นหมู่บ้านฮัลล์สตัทท์จากมุมที่แตกต่างออกไป

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมของหมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวออสเตรีย (Austrian National Tourist Office) ที่

http://www.austria.info

(Advertorial)