จับเวลาเดินขึ้น Snowdon ยอดเขาที่เตี้ยกว่าภูกระดึง แต่ไปถึงแล้วเหมือนอยู่บนเอเวอเรสต์!

ในบรรดาเทือกเขาท็อปฮิตที่คนไทยนิยมไปพิชิตกันบ่อยๆ ถ้าไม่นับยอดเขาในไทยอย่างดอยอินทนนท์, ดอยหลวงเชียงดาว, ภูกระดึง ฯลฯ สังเกตได้ว่าเดี๋ยวนี้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมไปเดินเขาตามเส้นทาง ABC (Annapurna Base Camp) ประเทศเนปาล, ยอดเขาโบรโม ประเทศอินโดนีเซีย หรือถ้าใกล้หน่อยก็ไปเดินเรียกเหงื่อบนเขาหลังมังกรที่ประเทศฮ่องกง แต่น้อยคนจะรู้จักยอดเขาสโนว์โดนแห่งประเทศเวลส์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอังกฤษและเวลส์ ที่เราตั้งใจจะพาคุณไปจับเวลา วัดฮาร์ทเรท แล้วพิชิตยอดเขาแห่งนี้ก่อนใคร

ที่จริงอย่าว่าแต่ชื่อของสโนว์โดนเลย แม้แต่ประเทศเวลส์ คนไทยเองก็แทบจะไม่คุ้นเคย และมักเหมารวมว่าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอังกฤษ ทั้งที่ความจริงแล้ว เวลส์เป็น 1 ใน 4 ประเทศที่รวมแล้วเรียกว่า สหราชอาณาจักร (ประกอบด้วย อังกฤษ สก็อตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ) โดยตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะบริเตนใหญ่ นั่งรถไฟมาจากลอนดอนประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึง “คาร์ดิฟฟ์” เมืองหลวงของประเทศเวลส์แล้ว

ส่วนถ้าใครอยากไปพิชิตยอดเขาสโนว์โดน ก็ต้องนั่งรถไฟ ต่อรถบัสกันอีกนิด เพื่อไปยังเวลส์ตอนเหนือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติสโนโดเนีย ที่กินพื้นที่กว่า 2,130 ตารางกิโลเมตร และมียอดเขาที่สูงกว่า 3,000 ฟุต (914 เมตร) ถึง 14 ยอดเขาให้เลือกพิชิตตามชอบใจ โดยมียอดเขาสโนว์โดนเจ้าของความสูง 1,085 เมตร ครองตำแหน่งยอดเขาที่สูงที่สุดนั่นเอง

แต่ด้วยความสูงที่สูงกว่าภูกระดึงแค่ไม่กี่ร้อยเมตร (ความสูงของยอดภูกระดึงอยู่ที่ 1,316 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล)  คนไทยอาจจะรู้สึกว่าเบๆ แต่ขอบอกว่า แม้ความสูงจากระดับน้ำทะเลจะแพ้ยอดเขาหลายแห่งของไทย แต่ด้วยละติจูดที่ตั้งของประเทศเวลส์ก็ทำให้บรรยากาศการเดินเขาแห่งนี้เดินยากไม่ใช่เล่น เพราะสภาพอากาศที่แปรปรวน สามารถเจอกับฝนตก แดดออก ลมแรง หรือเจอหิมะได้ทุกเมื่อ ต้องเตรียมเสื้อผ้าไว้กันลมกันหนาวให้พร้อมก่อนออกลุย  

ก่อนเดินขึ้นไปพิชิตยอดเขาสโนว์โดน ก็ต้องมาเลือกเส้นทางกันก่อนว่า อยากจะใช้เส้นทางไหนในการเดิน โดยมีเส้นทางหลักๆ ให้เลือกทั้งหมด 6 เส้นทาง ได้แก่ Llanberis Path, Miners Track, Pyg Track, Watkin Path, Rhyd Ddu Path และ Snowdon Ranger ที่มีระดับความยากง่ายและทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไป

หรือถ้าใครไม่ถนัดที่จะเดิน ก็มีทางลัด (ที่ต้องจ่ายแพงกว่า) อย่างการนั่งรถไฟขึ้นไปถึงยอดได้เช่นกัน ความเก๋ของ Snowdon Mountain Railway คือ เปิดให้บริการรับส่งคนขึ้นสู่ยอดเขามานานมากกว่า 120 ปี ค่อยๆ ไต่ระดับความสูงชมทิวทัศน์ของภูเขาไฟที่ดับแล้วอายุเก่าแก่กว่า 450 ล้านปี ก็ชิลไปอีกแบบ

ส่วนคนที่ฟิตร่างกายมาเป็นอย่างดีก็แนะนำให้ออกแรงเดินเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ชมวิวทะเลสาบ หุบเขา เหมืองทองแดงร้าง และอิ่มเอมกับตำนานกษัตริย์อาเธอร์ในดินแดนแห่งหุบเขาแห่งนี้แบบเพลินๆ เราเลือกเดินขึ้นทาง Miners Track และลงทาง Llanberis Path เพราะอยู่ในระดับที่ไม่ยากไม่ง่ายจนเกินไป และจะได้เห็นวิวที่ไม่ซ้ำกัน ระยะเวลาในการเดินขึ้นและลงทั้งหมดรวมไม่เกิน 6 ชั่วโมง ควรเผื่อเวลาในการเดินลงเขาให้ดีๆ อย่าให้ค่ำมืดจนเกินไป อาจเป็นอันตรายได้

อย่างที่บอกไปว่ายอดเขาสโนว์โดนไม่ได้อยู่สูงเสียดฟ้าเสียจนออกซิเจนเบาบาง แถมทางเดินก็ทำไว้อย่างดี เดินง่าย เดินสนุก และเดินได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งไกด์ ระหว่างทางยังมีเพื่อนร่วมทางเป็นนักไฮค์กิ้งชาวต่างชาติมากมายเดินสลับกันแซงบ้าง พักกินสแน็คบ้างอย่างไม่รีบร้อน ที่น่ารักเป็นพิเศษคือ ส่วนมากมักมากันทั้งครอบครัว ตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่าไปจนถึงหลานตัวน้อย และบ้านไหนที่เลี้ยงสุนัขก็จะพาเจ้าสี่ขามาเดินขึ้นเขาไปด้วยกัน ทำให้บรรยากาศการเดินเขาที่นี่เพลินจนลืมเหนื่อย

และจะเดินเขาให้สนุกก็ต้องใส่ Apple Watch series 4 ติดข้อมือเอาไว้ แล้วกดเลือกฟังก์ชั่นออกกำลังกายประเภทใหม่อย่างปีนเขา (Hiking) เพื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ระยะทาง และความเร็วเฉลี่ยระหว่างเดินได้อย่างแม่นยำ จะเดินหรือจะหยุดก็มีฟังก์ชั่นจับความเคลื่อนไหวคอยเตือนอยู่ตลอด แล้วยิ่งเดินบนพื้นหินชื้นๆ ตามตำรับเกาะอังกฤษแบบนี้มีสิทธิ์ลื่นล้มได้ง่าย ก็ไม่ต้องกังวลใจ เพราะเขามีระบบตรวจจับการล้ม ที่หากฉุกเฉินจริงๆ Apple Watch ก็จะโทรหาบริการฉุกเฉินโดยอัตโนมัติและส่งข้อความพร้อมระบุตำแหน่งของตัวเราไปยังผู้ติดต่อฉุกเฉินทันที โชคดีที่ไม่ล้ม ไม่เจออุบัติเหตุอะไร เดินหอบบ้าง พักบ้างไปตามเรื่องจนถึงปลายทาง

ด้วยระยะทางขาขึ้นประมาณ 8 กิโลเมตร ไต่ระดับความสูงผ่านลมเย็นและฝนพรำมาเรื่อยๆ ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ในที่สุด เราก็ได้มายืนหนาวอยู่บนยอดเขาสโนว์โดน ใครโชคดีหน่อย ขึ้นมาแล้วฟ้าเปิดก็จะได้อิ่มเอมกับทิวทัศน์กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ว่ากันว่ามองเห็นไปไกลถึงไอร์แลนด์ แต่ถ้าโชคร้ายเจอฟ้าปิดอย่างเราก็ได้แต่ยืนเซลฟี่ท้าแรงลมแบบหนาวๆ ก่อนจะรีบพุ่งตัวไปยังคาเฟ่บนยอดเขา แล้วหาอะไรอุ่นๆ กิน ก่อนจะอ้อยอิ่งเดินฝ่าลมหนาวลงเขาในช่วงบ่าย

ขาลงใช้เวลาน้อยกว่า และสามารถเดินเข้าไปเที่ยวยังเมือง Llanberis ได้โดยตรง ที่นี่หน้าตาเหมือนอำเภอเล็กๆ ริมทะเลสาบ มีพิพิธภัณฑ์หินชนวน (The National Slate Museum) ให้เยี่ยมชม มีโรงพยาบาลเก่าแก่กลางหุบเขา และทะเลสาบที่อุดมไปด้วยนกท้องถิ่น เป็ดหลากสายพันธุ์ และฝูงแกะให้ถ่ายรูปเล่นกันได้ทั้งวันทั้งคืน ที่นี่มีธรรมชาติเป็นพระเอก ใครที่รักความเงียบสงบและอยากชาร์จแบตตัวเองแบบไม่ต้องวุ่นวายกับนักท่องเที่ยวเยอะๆ น่าจะถูกใจ Llanberis และอุทยานแห่งชาติ Snowdonia แน่นอน

สโนว์โดนอาจะเป็นแค่จุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณอยากทำความรู้จักประเทศเวลส์มากขึ้นเหมือนอย่างเราก็ได้ สนใจศึกษาข้อมูลก่อนเดินทางได้ ที่นี่