มวลดอกไม้แห่งฤดูกาล “ทุ่งดอกไม้เทมโบ ชิคิไซโนะโอกะ” ทิวทัศน์ที่แผ่กว้างไปทั้งบิเอย์ ฮอกไกโด
แม้ตอนนี้จะยังเป็นฤดูฝนของญี่ปุ่นที่จะได้เพลิดเพลินกับดอกไฮเดรนเยียเล่นน้ำฝนที่แสนสวย แต่อีกไม่นานฤดูร้อนที่ทำให้อยากออกไปเที่ยวนอกบ้านก็จะมาเยือนแล้ว ในฤดูที่มีวันอากาศดีเยอะแยะแบบนั้นคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกไม้สีสันสดใสเลยนะครับ แถมยังจะได้ชมทิวทัศน์ที่ตัดกับท้องฟ้าครามได้สวยที่สุดอีกด้วย
คราวนี้จะขอแนะนำฤดูกาลที่ดีที่สุดในการชื่นชมเสน่ห์ของ “ทุ่งดอกไม้เทมโบ ชิคิไซโนะโอกะ” ทิวทัศน์ที่แผ่กว้างไปทั้งเมืองบิเอย์ ฮอกไกโด ในช่วงฤดูร้อนบรรดาดอกไม้หลากสีสันจะเบ่งบานสะพรั่ง ทิวทัศน์ยิ่งใหญ่ตระการตาที่เปล่งประกายเป็นสีรุ้งจะทำให้หัวใจของคุณสั่นไหวแน่นอนครับ
“ทุ่งดอกไม้เทมโบ ชิคิไซโนะโอกะ” ย้อมเนินเขาให้กลายเป็นสีรุ้งด้วยมวลดอกไม้
“ทุ่งดอกไม้เทมโบ ชิคิไซโนะโอกะ” ตั้งอยู่ที่เมืองบิเอย์ อำเภอคามิคาวะ จังหวัดฮอกไกโด ในช่วง “กรีน ซีซัน”ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงปลายเดือนตุลาคม จะมีทุ่งดอกทิวลิป ป๊อปปี้ ทานตะวัน คอสมอส และอื่น ๆ ร่วม 30 ชนิด แผ่ปกคลุมไปทั่วเนินเขาเหมือนพรมสีสันสดใสเลยละครับ และจะมีการปลูกดอกไม้ผลัดเปลี่ยนกันไปตามแต่ฤดูกาล จึงสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ตามฤดูกาลได้ตามแต่ละช่วงเวลาครับ
ช่วง “วินเทอร์ ซีซัน” ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนเมษายนปีถัดมา “ทุ่มดอกไม้เทมโบ” ที่เคยมีดอกไม้มากมายหลากสีสันเบ่งบานจะถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน เปลี่ยนโฉมหน้าไปเป็น “สโนว์แลนด์” คุณสามารถสนุกกับกิจกรรมตื่นเต้นโลดโผนอย่างการขับรถสโนว์โมบิล หรือล่องแพหิมะบนเนินเขาที่แต่งแต้มด้วยหิมะได้ด้วยนะครับ
แต่นอกจากจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และงดงามแล้ว ในสถานที่เดียวกันนี้เอง คุณยังจะได้สัมผัสการทำเกษตรกรรมได้อย่างใกล้ชิด เช่น “FARM ชิคิไซโนะโอกะ” และยังมีเอนเตอร์เทนเมนต์ การ์เด้น อันเป็นสัญลักษณ์ของบิเอย์อย่าง “ฟาร์มอัลปาก้า” และ “PENSION ชิคิไซโนะโอกะ” ซึ่งเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากด้วยครับ
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเยือนทุ่งดอกไม้เทมโบ ชิคิไซโนะโอกะคือ?
ช่วงที่ดีที่สุดของทุกปีคือเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนครับ
สถานที่ที่มีสองโฉมหน้าในกรีนซีซันและวินเทอร์ซีซันแห่งนี้ สามารถพบเห็นทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงของปี แต่ช่วงที่นักท่องเที่ยวมาเยือนที่นี่มากที่สุดคือช่วงประมาณ 3 เดือน ได้แก่เดือนกรกฎาคม สิงหาคม และกันยายนซึ่งเป็นฤดูร้อนครับ ในช่วงเวลานี้เนินเขากว้างใหญ่จะถูกปกคลุมด้วยดอกไม้หลากหลายสีสันจนกลายเป็นทุ่งดอกไม้สีรุ้งเลยละครับ
ซึ่งในช่วงเวลานั้น เดือนกรกฎาคมจะมีทั้งลาเวนเดอร์ ดอกไม้สีม่วงอ่อนงดงามดูเยือกเย็น ดอกทานตะวันที่คลี่กลีบเบ่งบานอวดแสงจากดวงอาทิตย์ และดอกดาวเรืองสีเหลืองกลม ๆ น่ารัก ๆ และยังมีดอกไม้อีกหลากหลายสายพันธุ์รอต้อนรับคุณอยู่นะครับ
ทิวทัศน์ที่ถูกแต่งแต้มสีสันด้วยดอกไม้มากมายจนเหมือนงานต่อผ้าเป็นลาย คือความงดงามที่ทำให้คุณอยากยกกล้องขึ้นถ่ายรูปโดยไม่ต้องคิดหน้าคิดหลังเลยละครับ และยังเป็นทิวทัศน์ที่ไม่ว่าจะถ่ายภาพตรงไหนก็ออกมาเหมือนภาพวาด จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเยือนที่นี่ทุกปี
ดอกไม้เหล่านั้นถูกปลูกด้วยความชำนาญเพื่อให้เบ่งบานพร้อม ๆ กันจนเกิดเป็นทิวทัศน์ที่งดงาม ดังนั้นแม้จะเป็นช่วงปลายฤดูร้อนก็ยังสามารถชมดอกไม้ได้ครับ หลังจากผ่านเดือนกรกฎาคมที่แต่งแต้มด้วยสีสันสดใสแล้ว ตั้งแต่เดือนกันยายนที่กำลังจะผันเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงก็จะมีดอกรักเร่ อะเนโมเน่ญี่ปุ่น และแคลิฟอร์เนียป๊อปปี้ให้ได้ชมกันครับ และเนินเขาก็จะถูกย้อมด้วนสีสันที่ผสมผสานเข้ากันอย่างล้ำลึก
ในฤดูร้อนจะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย ท่านที่ต้องการเที่ยวแบบสบาย ๆ ผมขอแนะนำให้ไปตอนฤดูใบไม้ร่วงครับ
วิธีการเดินทางไปยังทุ่งดอกไม้เทมโบ ชิคิไซโนะโอกะ
เดินจาก “สถานีบิโบชิ” JR ฟุราโนะไลน์ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดไปประมาณ 25 นาทีก็ถึงแล้วครับ ระยะทางประมาณ 2.2 กม. ท่านที่มั่นใจในเรี่ยวแรงของตัวเองก็สามารถเดินไปพลางสัมผัสกับบรรยากาศสดชื่นของฮอกไกโดไปพลางได้เลยครับ
ส่วนท่านที่ไม่อยากเดินจากสถานีรถไฟแต่อยากใช้บริการแท็กซี่ ขอแนะนำให้ใช้ “สถานีบิเอย์” JR ฟุราโนะไลน์แทน ที่ลานหน้าสถานีบิเอย์จะมีแท็กซี่ให้บริการอยู่ครับ
แม้ระยะทางจะห่างพอ ๆ กัน แต่ที่สถานีบิโบชิไม่ค่อยมีแท็กซี่ ดังนั้นควรเลือกลงรถให้ตรงตามสถานีที่เอื้อประโยชน์กับสภาพร่างกายและสภาพอากาศนะครับ
ในบิเอย์ ฮอกไกโดก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น “สระน้ำสีฟ้า” ซึ่งมีสีฟ้าเหมือนภาพลวงตา และ “ฟาร์มโทมิตะ” ซึ่งเป็นทุ่งลาเวนเดอร์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศด้วยนะครับ หากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวโดยไม่ใช้ระบบขนส่งมวลชนก็แนะนำให้แวะเวียนไปที่จุดอื่น ๆ ด้วยนะครับ
ข้อมูลช่วงกรีนซีซันปี 2019 (เวลาทำการและค่าเข้าชม)
ในปี 2019 กรีนซีซันจะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายน ซึ่งเวลาเปิดทำการของทุ่งดอกไม้ ร้านค้า และร้านอาหารในช่วงนั้นคือ 8.30 – 18.00 น. (ภัตตาคาร L.O. เปิดถึง 17.30 น.) ส่วนฟาร์มอัลปาก้าที่อยู่ใกล้ ๆ จะเปิด 8.30 – 17.30 น. ครับ
สำหรับค่าเข้าชมโดยทั่วไปแล้วจะฟรีครับ แต่มีการรับบริจาคคนละ 200 เยนเป็นค่าบำรุงรักษาทุ่งดอกไม้แสนสวยนอกจากนั้นจะมีค่าบริการพาหนะแต่ละชนิด เช่น แทร็คเตอร์บัส (ตั้งแต่เด็ก ม. ปลายขึ้นไป 500 เยน) รถบัคกี้ (นั่งได้ 2 คน 800 เยน) รถโกคาร์ท (4 คน 15 นาที 2,000 เยน)
ส่วนค่าเข้า “ฟาร์มอัลปาก้า” เด็กตั้งแต่ ม. ปลายขึ้นไป 500 เยน เด็กประถม – ม. ต้น 300 เยน และเด็กต่ำกว่าประถมเข้าฟรี ฟาร์มอัลปาก้าเปิดตลอดทั้งปี แต่ไหน ๆ ก็มาเยือนทุ่งดอกไม้เทมโบ ชิคิไซโนะโอกะแล้วก็อยากให้แวะเที่ยวกันนะครับ การสัมผัสอัลปาก้านุ่มฟูมันช่วยเยียวยาจิตใจครับ
เทียบกับที่เกาะฮอนชูแล้วฤดูร้อนของฮอกไกโดสั้นมาก แต่ทิวทัศน์ที่งดงามของ “ทุ่งดอกไม้เทมโบ ชิคิไซโนะโอกะ” จะติดตาตรึงใจจนเผลอคิดว่า…ถ้าฤดูร้อนนานกว่านี้ก็ดีสินะ เลยละครับ เพราะฉะนั้นฤดูร้อนปีนี้ต้องไปเยือนให้ได้นะครับ รับรองว่าทิวทัศน์ที่ได้เห็นจะเป็นหนึ่งในความที่สวยสดงดงามของคุณเลยละครับ
*เป็นข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ ซึ่งรายละเอียดอาจเปลี่ยนแปลงได้
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ