กลับไปเยือนภูเก็ต เมืองที่เที่ยวไม่เคยเบื่อ
ทุกครั้งที่ได้มาเยือนภูเก็ตเรารู้สึกตื่นเต้นมากๆ ครั้งนี้มาพักผ่อนโดยไม่มีเรื่องงานมาเกี่ยวข้องเลย ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2561 เราได้มาปฏิบัติภารกิจแต่ครั้งนั้นเราท่องเที่ยวแบบไม่ได้ตั้งใจ ทริปนี้เรากลับมาแก้ตัวซึ่งวางแผนมาเป็นอย่างดีและจะไม่ไปซ้ำที่เดิม เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปภูเก็ตใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมง 30 นาที ถึงสนามบินภูเก็ตเราจดจ่อกับการเดินทางไปเช็กอินตามสถานที่ตามพิกัดที่ตั้งใจเอาไว้ โรงแรมศรีพันวา - ร้านระย้า – Torry’s ice cream – หลาดใหญ่ – หมอมูดง – อาหารทะเลหาดราไวย์ – แหลมพรหมเทพ เริ่มทริปภูเก็ต ณ บัดนี้ ลุย !!!
โรงแรมศรีพันวา
เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่ใครมาภูเก็ตต้องมาพัก ติดริมชายหาดมีพูลวิลล่าให้ได้นอนแช่น้ำภายในห้อง สามารถมองเห็นวิวทะเลสีฟ้าคราม นอนฟังเสียงคลื่นได้อย่างสบาย เครื่องดื่มเย็นๆ สูดอากาศที่บริสุทธิ์สภาพแวดล้อมอยู่ท่ามกลางป่าในหุบเขา บริการของโรงแรมมีครบ สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องออกไปไหนเลย เราลงไปเล่นน้ำทะเลซึ่งเป็นหาดส่วนตัว มีเซิร์ฟบอร์ด และเรือให้พายเล่นด้วยนะ และอีกหนึ่งจุดที่สำคัญคือการไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินที่ร้านบาบาเนสเป็นร้านอาหารของโรงแรม หากใครที่ต้องการความสงบและพักผ่อนจริงๆ ศรีพันวาเป็นตัวเลือกแรกเลยนะ
ร้านอาหารระย้า
อาหารพื้นเมืองของภูเก็ตที่ต้องมาลิ้มลองให้ได้โดยเฉพาะเมนู ผัดผักเหมียงไข่ แกงเนื้อปูใบชะพลู กุ้งซอสมะขาม น้ำพริกกุ้งเสียบ เชื่อหรือไม่เราทานหมดทุกเมนู ด้วยบรรยากาศร้านออกสไตล์วินเทจและความอร่อยทำให้เราเพลิดเพลินอิ่มมากๆ เป็นอีกหนึ่งพิกัดของร้านอาหารที่ต้องห้ามพลาด
Torry's Ice Cream
ไอศกรีมโฮมเมดชื่อดังของภูเก็ต สไตล์การตกแต่งร้านเป็นวินเทจซึ่งอยู่ภายในอาคารชิโนโปรตุกีสสีชมพู เราไปถึงหน้าร้านต้องรอคิวกว่า 20 คิว ใจก็จะไม่รอแต่ได้เดินทางมาแล้วทำยังไงได้ รอ!!! ถึงเวลาคิวของเราขอสั่งเมนูเด็ดชื่อดังของร้านคือ บีโกหมอย เป็นไอศกรีมกะทิอัญชัน ลอยอยู่ท่ามกลางข้าวเหนียวดำ เป็นอาหารพื้นเมืองของชาวภูเก็ต และเมนูไอศกรีมขนมพื้นเมือง เพื่อนๆ จะมาพิกัดนี้ ถ้าเป็นวันหยุดต้องเตรียมใจรอคิวด้วยนะครับ เนื่องจากเป็นร้านที่ได้รับความนิยมมากๆ
หลาดใหญ่
ถนนคนเดินหลาดใหญ่ Phuket Walking Street นั้นจะมีเฉพาะวันอาทิตย์ครับ เปิดเวลา 16.00 - 22.00 น. ได้ยินชื่อครั้งแรกเราก็งง หลาดใหญ่ ก็คือตลาดใหญ่ เราโชคดีที่มาในวันหยุดซึ่งเดินออกจาก Torry's Ice Cream แล้วเดินไปทางซ้ายมือก็ถึงแล้ว ผู้คนมากมายในตลาดแบ่งออกเป็นหลายโซน กิจกรรม อาหาร ของที่ระลึก และโซนของนักเรียนนักศึกษา ใครชอบการช็อปปิ้งของท้องถิ่นมาที่เดี่ยวครบเลย
หมอมูดง
ชื่อร้านอาหารมื้อเย็นของเราอาจจะฟังดูแปลกๆ หมอมูดง คิดในใจเป็นหมอพื้นบ้านอาหารสมุนไพร หรือหมอเวทมนตร์สายมูเตลูหรือไม่ เมื่อไปถึงที่หมอมูดง คือ เจ้าของร้านชื่อหมออยู่คลองมูดง แต่ร้านบรรยากาศธรรมชาติบ้านๆ แต่ผู้สนับป้ายร้านมีแต่แบรนด์ใหญ่ๆ ให้การสนับสนุน ซึ่งอาหารเป็นสไตล์ปักษ์ใต้ขนานแท้ เมนูเด็ดเราแนะนำเลย หมูคั่วเกลือ เป็นหมูสามชั้นไปคั่วเกลือกะปิ นุ่ม อร่อย เราจัดไป 2 จาน ปลาทูยัดไส้ ที่ไม่มีก้างในตัวปลาเป็นไส้พริกแกงผสมเนื้อปลา ทานกับข้าวสวยสุดอร่อยมากๆ ถือว่าเป็นร้านอาหารท้องถิ่นที่ดีที่สุดอีกหนึ่งร้านในภูเก็ตเลยครับ
อาหารทะเลหาดราไวย์
มาภูเก็ตทั้งทีเราต้องทานอาหารซีฟู้ดสดๆ ที่กำลังขึ้นจากท้องทะเลต้องไปย่านหาดราไวย์เท่านั้น บริเวณริมหาดจะมีร้านขาย กุ้ง หอย ปู ปลา ให้เลือกสดๆ จากนั้นนำอาหารทะเลเดินข้ามมาให้ร้านปรุงทำเป็นอาหารตามที่ต้องการ เมนูของเรา มีหอยนางรมสดๆ ข้าวผัดปู กุ้งเผา ผัดหอยลาย กังทอดกระเทียม กุ้งล็อบสเตอร์ย่างกระเทียม อิ่มมาก อาหารทะเลสดๆ เลือกเอง ต้องหาดราไวย์
แหลมพรหมเทพ
ก่อนเราจะเดินทางกลับ กรุงเทพฯ ได้แวะแหลมพรหมเทพ ซึ่งเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่งดงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต แหลมพรหมเทพมีลักษณะพื้นที่เป็นหินยื่นไปในทะเล เป็นแลนมาร์คที่ใครมาภูเก็ตต้องมาสัมผัสให้ได้ แต่เราไปถึงช่วงบ่าย อดชมพระอาทิตย์ตกเลย ทำได้เพียงบันทึกภาพเป็นที่ระลึก
พิกัดในภูเก็ตครั้งนี้ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางอินเตอร์เน็ตเดินทางง่ายๆ เป็นอีกทริปที่สนุกและมีความสุขกับการพักผ่อนอย่างมาก หากย้อนกลับไปวันครั้งแรกที่เราได้เขียนเรื่องราวบนเว็บไซต์ Sanook! ก็คือภูเก็ตนั้นเองทำให้คิดถึงวันที่ออกเดินทางจริงจัง จากวันนั้นถึงวันนี้เราก็ยังคงต้องเดินทางต่อไป “กลับไปเยือนภูเก็ต เมืองที่เที่ยวไม่เคยเบื่อ”