Shizen Kaiseki ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ Fusion จากความตั้งใจของ เก่ง อธิป (เก่ง วงลูกหิน)

สำหรับแฟนๆ เพลงในต้นยุค 2000 หลายๆ คนคงจะเคยได้ยินชื่อของ เก่ง-อธิป เจริญชัยสกุลสุข หรือที่ทุกคนรู้จักกันในนามของ เก่ง วงลูกหิน วงดูโอ้ขวัญใจในวัยเด็กของใครหลายๆ คน ซึ่งจริงๆ ศิลปินมากความสามารถ ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานให้กับวงการบันเทิงไทยไว้มากมายทั้งงานเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง พิธีกร โปรดิวเซอร์ และนักพากย์ แต่อีกหนึ่งบทบาทที่หลายคนยังไม่รู้นั่นก็คือ ในตอนนี้ เก่ง อธิป ได้ลุยทำสิ่งใหม่นอกเหนือจากเพลงที่เค้ารัก นั่นคือธุรกิจร้านอาหารและเข้ามาลุยบริหารจัดการร้านที่ชื่อว่า Shizen keiseki ซึ่งวันนี้ Sanook! Travel จะพาทุกคนไปลองชิมอาหารจากความตั้งใจของ เก่ง อธิป ให้หายคิดถึงกัน

ร้าน Shizen Kaiseki ตั้งอยู่ในย่านถนนอุดมสุข เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่รองรับสำหรับลูกค้าในทุกเพศทุกวัย เหมาะสำหรับจะใช้เป็นมื้อพิเศษสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ที่กำลังมองหาที่แฮงค์เอาท์กัน บรรยากาศของทางร้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์ญี่ปุ่น ประกอบกับแสงไฟวอร์มไลท์ที่ช่วยทำให้ร้านนั้นดูอบอุ่น และที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือทุกๆ ค่ำคืนวัน ศุกร์-อาทิตย์ นั้นจะมีวงดนตรีสดจากศิลปินที่มีชื่อเสียงมาเล่นให้ลูกค้าได้ฟังไปพร้อมกับทานข้าวแบบ Exclusive สุดๆ เลยด้วย

สไตล์อาหารของทางร้านนั้นแน่นอนว่าเป็นไปตามชื่อร้านเลย นั่นก็คืออาหารสไตล์ Kaiseki ซึ่งเป็นอาหารชั้นสูงของญี่ปุ่นที่จะเน้นใช้วัตถุดิบระดับพรีเมียมในการนำมาประกอบอาหาร แต่วัตถุดิบที่ว่าสำคัญแล้วหากขาดการปรุงแต่งที่มีคุณภาพก็คงจะไร้ความหมาย เพราะฉะนั้นทางร้านจึงเลือก เชฟตรี กีรติ เชฟชื่อดังจากรายการ Ironchef Thailand มาเป็นเชฟใหญ่ประจำร้าน ซึ่งนอกจากการทำอาหารสไตล์ Kaiseki ที่ทรงคุณภาพแล้ว เชฟตรี กีรติ ยังได้ชื่อว่าเป็นเชฟนักพลิกแพลง ที่สามารถทำอาหารสไตล์ Kaiseki ออกมาโดยใช้การ Fusion วิธีการทำอาหารสไตล์ตะวันตก จนได้แนวทางอาหารสไตล์ Kaiseki Fusion ที่ไม่เหมือนใครมาให้ทุกคนได้ลองชิมกัน ลองไปดูกันว่าเมนูอาหารของทางร้านนั้นจะมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง

1.Shirao Salad 

เริ่มต้นกันด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยของมื้อนี้กับสลัดปลาเงินสไตล์ญี่ปุ่น ทางร้านนำปลาเงินไปทอดจนเหลืองกรอบ และผสมคลุกเคล้าลงไปกับผักสลัดสดกรอบๆ เพิ่มท็อปปิ้งความมันด้วยไข่กุ้งแน่นๆ ราดน้ำสลัดสูตรเฉพาะของทางร้านเปรี้ยวหวานกำลังดี ทานแล้วเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

2.Salmon Tataki 

มาต่อกันที่จานที่ 2 ของวันนี้ กับเมนูยำแซลมอนสไตล์ญี่ปุ่น ที่ทั้งร้านหั่นแซลมอนสดๆ มาเป็นชิ้นหนาๆ แบบลูกเต๋าอัดแน่นมาในจานแบบไม่มีกั๊ก ราดด้วยน้ำซอสแซ่บๆ ที่ให้รสชาติกลิ่นอายของความเป็นไทยผสมกับความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ตัวเนื้อแซลมอนสดนำเข้าจากนอร์เวย์คือหวานฉ่ำอร่อยมากๆ เมนูนี้แนะนำเลยต้องลอง

3.Kodomo Roll 

โรลสูตรพิเศษของทางร้าน ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคุณตั้งแต่นำมาเสิร์ฟ ภายในโรลอัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบคุณภาพ ทั้ง Baby Scallop (ลูกหอยเชลล์), Baby Spinach (ผักปวยเล้งอ่อน), และปูอัด ห่อด้วยข้าวญี่ปุ่นนุ่มๆ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เพิ่มกิมมิคด้วยการปักหลอดที่บรรจุซอสส้ม Yuzu เอาไว้อยู่ ก่อนทานจะต้องบีบซอสนี้ลงไปในโรล รสชาติจึงจะออกมาพอดี เรียกได้ว่าสร้างสรรค์ตั้งแต่วิถีการจัดจาน ไปจนถึงการกินเลย สมกับที่เป็นอาหารสไตล์ Kaiseki Fusion จริงๆ

4.Salmon Paradise

และแล้วก็มาถึงจานที่ทุกคนรอคอย โดยเฉพาะเหล่าแซลมอนเลิฟเวอร์ทุกคน! Salmon Paradise จานนี้ทางร้านได้นำวัตถุดิบหลักคือแซลมอนสดๆ จากนอร์เวย์ มาทำปรุงแต่งเพิ่มรสชาติให้เราทานอย่างหลากหลายรวมอยู่ในจานเดียว ซึ่งที่สำคัญ จานนี้เป็นการนำทุกชิ้นส่วนของแซลมอนหนึ่งตัวมาทำเป็นอาหารหมดเลยด้วย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ ที่นำมาทำเป็นซาซามิคำโตๆ มีให้เลือกทานทั้งแบบดิบ แบบเบิร์น และแบบใส่งาดำ ซึ่งให้เทคเจอร์ความอร่อยที่แตกต่างกันไป หรือจะเป็นหนังปลาแซลมอนที่นำไปทอดกรอบทานคู่กับดิปสูตรของทางร้าน เรียกได้ว่านี่คือสวรรค์สำหรับคนรักปลาแซลมอนอย่างแท้จริง!

5.Mori Tempura

เทมปุระถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมสำหรับอาหารสไตล์ Kaiseki ซึ่งทางร้านก็มีเมนูเทมปุระที่อร่อยมากเลยทีเดียว โดยเทมปุระจานนี้จะเป็นเทมปุระรวมทั้งผักและเนื้อสัตว์ กรอบนอกนุ่มในตามแบบฉบับเทมปุระคุณภาพ น้ำจิ้มก็กลมกล่อมใช้ได้เลยทีเดียว

6.Rose Twist

เรียกได้ว่านี่คือเมนู Hidden Gem ของทางร้านเลยก็ว่าได้สำหรับซูชิคำนี้ เพราะทางเชฟได้อัดแน่นเอาวัตถุดิบระดับพรีเมียมมารวมไว้อยู่ในคำเดียว ทั้งแซลมอนเบิร์นที่ใช้แซลมอนชิ้นใหญ่มาห่อพันข้าวจนแทบมองไม่เห็นข้าวข้างใน และออนท็อปด้วยเอนกาวะ รสสัมผัสกรอบๆ เด้งๆ รมควันซูชิคำนี้มาด้วยไม้หอม ก่อนจะนำมาเสิร์ฟให้กับเราบนโต๊ะ ควันโพยพุ่งออกมามีกลิ่นหอมมากๆ ชวนให้หิว และเมื่อได้ทานเข้าไปแล้วบอกได้เลยว่าถึงนิพพาน!

7.Black Wagyu on The Lava Rock

สำหรับสายเนื้อจานนี้คือสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด! เนื้อวากิวย่างมาบนถ่านลาวาหอมๆ พร้อมกับซอสมิโซะที่เข้ากันกับตัวเนื้อเป็นอย่างมาก โดยทางร้านจะเลือกใช้เนื้อวากิว A3 ด้วยเหตุผลที่มีมันแทรกไม่มากเกินไปเท่าเนื้อระดับ A4-A5 ซึ่งเนื้อที่มันเยอะเกินไปเวลานำมาย่างแล้วจะค่อนข้างเลี่ยนนั่นเอง ซึ่งเนื้อ A3 ที่ทางร้านนำมาใช้นั้นก็มีความมันที่กำลังพอดี ประกอบกับรสสัมผัสของเนื้อที่ยังคงสู้ฟันพอได้เคี้ยวอยู่ รสชาติเนื้อก็เข้มข้น ยิ่งทานคู่กับซอมิโซะคือดีงาม

8.Gindara Miso

นี่คือหนึ่งในเมนูปลาที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนสั่ง ปลาหิมะหมักซอสมิโซะย่างเสิร์ฟมาพร้อมกับซอสมิโซะ อย่างที่รู้กันดีถึงความอร่อยของเนื้อปลาหิมะ ที่มีเทคเจอร์เฉพาะตัว มีความนุ่มและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ในตัวอยู่แล้ว ซึ่งถือได้ว่าเป็นวัตถุดิบชั้นสูงเลยทีเดียว ยิ่งมาเจอกับการปรุงแต่งรสชาติโดยเชฟกระทะเหล็กอย่าง เชฟตรี ด้วยแล้วจานนี้กลายเป็นจานที่เพอร์เฟ็คไปเลยในทันที

9.Soft Shell Crab Salad

ปิดท้ายด้วยเมนูสุดท้ายของค่ำคืนนี้ กับสลัดปูนิ่มสไตล์ญี่ปุ่น จุดเด่นของจานนี้คือปูนิ่มที่ทางร้านใส่มาให้ทั้งตัว เต็มปากเต็มคำมากๆ เป็นจานที่เต็มไปด้วยความกรอบทั้งตัวปูและผักสลัด น้ำสลัดก็อร่อยใช้ได้ ใครชอบทานปู่นิ่มต้องลอง

10 เมนูไฮไลท์ที่เราได้มีโอกาสมาลิ้มลองกัน บอกได้เลยว่าความพรีเมียมที่มาพร้อมกับการปรุงแต่งอย่างมีระดับของเชฟตรี นั้นสร้างความแตกต่างในรสชาติอาหารได้จริงๆ บางเมนูเราอาจจะเคยเห็นที่ร้านอื่นแต่มาทานที่ร้านนี้คือรสชาติแตกต่างกันไปโดยสิ้นเชิง มีอะไรให้เราได้ตื่นตาตื่นใจตลอดการรับประทาน บรรยากาศของร้านก็ตกแต่งได้อย่างสวยงาม มีดนตรีสดให้ได้ฟังแบบชิลๆ และทั้งหมดนี้ก็คือความประทับใจที่เราได้รับกลับมาจากความตั้งใจของคุณเก่ง อธิป ที่ใช้ Passion ของการรักการทำอาหารมาเปลี่ยนเป็นแรงบันดาลใจในการปรุงแต่งร้านออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ หากใครกำลังมองหาร้านอาหารญี่ปุ่นเพื่อจะแฮงเอาท์สักที่หนึ่ง แนะนำเลยว่าให้ลองมากินดื่มที่ร้านนี้กันดูไม่แน่ว่าพนักงานต้อนรับที่คุณจะได้พบ อาจจะเป็นคุณเก่ง อธิป ดูโอ้ขวัญใจในวัยเด็กก็เป็นได้

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่ตั้งร้าน Shizen Kaiseki : โครงการ The Master 818/57 อุดมสุข ถนน อุดมสุข บางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 

เวลาเปิด - ปิด : เปิดบริการทุกวัน 17.00 - 23.45 น. 

เบอร์ติดต่อ : 095 806 4246

Facebook : Shizen kaiseki