เกาสง หมุดหมายใหม่ของนักท่องเที่ยว บินตรงสู่เมืองท่าสุดฮิต เที่ยวสนุกได้ตลอดทั้งปี
“เกาสง” เมืองติดทะเลที่มีมนต์เสน่ห์ดึงดูดใจให้เราต้องไปสัมผัสให้ได้สักครั้งในชีวิต ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน เกาสงเป็นอีกหนึ่งเมืองชื่อดังที่นักท่องเที่ยวไทยเริ่มไปเที่ยวกันมากขึ้น เพราะที่นี่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและเดินทางสะดวกสบาย เหมาะกับการไปชาร์จพลังความสุขที่แท้จริง
เกาสง เมืองใหญ่อันดับสองของไต้หวัน คือเป้าหมายใหม่ที่รอให้หลายคนไปปักหมุด เสน่ห์ของเกาสงอยู่ที่ความสวยงามของธรรมชาติและความไม่จอแจคับคั่ง ผู้คนในเมืองไม่ขวักไขว่แม้จะเป็นเมืองท่าติดทะเล ที่สำคัญค่าครองชีพที่เกาสงนั้นไม่ได้สูงมาก ไม่ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายไปเยอะก็อยู่เที่ยวได้อย่างสบาย เหมาะกับการเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อน เก็บภาพความประทับใจ ชมความสวยงามของตึกรามบ้านช่อง ที่มีความโรแมนติกซุกซ่อนอยู่ทั่วทั้งเมือง มีประวัติศาสตร์โบราณสถานและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยือน นักท่องเที่ยวยังจะได้สัมผัสธรรมชาติที่บริสุทธิ์ และลองลิ้มชิมรสอาหารอร่อย หากจะกล่าวว่าเกาสงเป็นสวรรค์ของซีฟู้ดก็คงไม่ผิดนัก
การเดินทางไปเกาสงไม่ยุ่งยากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะตอนนี้สายการบินไทยสมายล์ให้บริการบินตรงจากสุวรรณภูมิถึงสนามบินเกาสง เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางในฝันได้อย่างสะดวกสบาย จะแพลนทริปกะทันหันก็ยังได้ เพราะไทยสมายล์มีเที่ยวบินสู่เกาสงทุกวัน ขอแค่แพ็คกระเป๋าเอาของจำเป็นไปให้ครบ ชาร์จแบตเตอรี่กล้องถ่ายรูปให้เต็ม และแลกเงินให้พร้อมสำหรับการเดินทางบินลัดฟ้า 3 ชั่วโมงโดยประมาณ ด้วยบริการแบบฟูลเซอร์วิสจากไทยสมายล์ เดินทางสบายใจอย่างไร้กังวล เพราะบนตรงไม่ต้องต่อเครื่องให้วุ่นวาย
สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของเมืองท่าอย่างเกาสง คงหนีไม่พ้นท่าเรือจ้านเอ้อคู่ (Kaohsiung Port Warehouse No2 & Banana Pier) ท่าเรือสุดโรแมนติกที่บางคนเรียกว่าท่าเรือกล้วยหอม เหตุที่ชื่อนี้เพราะเคยใช้เป็นโกดังเก็บกล้วยหอมเตรียมส่งออกในสมัยก่อน แต่ปัจจุบันได้แปรเปลี่ยนมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบสตรีทอาร์ต มีร้านอาหารและแหล่งชอปปิ้งสินค้าศิลปะและสินค้าแฮนเมดมากมาย ยิ่งถ้าเป็นคนที่ชอบดูซีรีส์หรือภาพยนตร์ไต้หวันยิ่งไม่ควรพลาด เพราะเกาสงแห่งนี้จะทำให้ผู้มาเยือนได้ใกล้ชิดกับหนังเรื่องโปรด เช่น Black & White Ep.1: The Dawn of Assault กับการเดินทางไปสถานีรถไฟใต้ดินที่สวยเป็นอันดับสองของโลก Formosa Boulevard Station เพื่อชม Dome of Light ประติมากรรมกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก สวยจับใจ กดชัตเตอร์ได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อ อีกที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาด นั่นคือ ตึก 85 Sky Tower บนนี้นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวแม่น้ำ Love River ในมุมสูง เก็บทุกรายละเอียดของเมืองเกาสงได้ทั่วทั้งเมือง
ใครชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ พลาดไม่ได้กับ ดวงตาแห่งกงซัน (Siaogangshan Skywalk Park) ทางเดินลอยฟ้ายาว 88 เมตรที่มีต้นแบบความคิดจากเครื่องดนตรีเครื่องสาย นับเป็นจุดชมวิวที่จะให้ปอดได้รับอากาศบริสุทธิ์ ไฮไลท์อีกแห่ง คือ Tian Liao Moon World ที่ทำให้รู้สึกเสมือนอยู่บนดวงจันทร์ด้วยภูมิประเทศที่คล้ายคลึง นอกจากนี้ยังมี Old Railroad Bridge Education Wetland Zone ป่าชายเลนที่มนุษย์สร้างขึ้น ใหญ่ที่สุดทางภาคใต้ของไต้หวัน จะมาดูนกหรือเก็บบรรยากาศเก่าๆ ของรางรถไฟโบราณก็ได้ทั้งนั้น และถ้ายังไม่จุใจ จะเลือกไปสัมผัสประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าที่เมืองโบราณฟ่งซัน (Old Fengshan City Wall) ป้อมปราการหินแห่งแรกของไต้หวัน หรือสถานกงสุลอังกฤษเก่า (British Consulate at Takow) ก็ยังได้
สำหรับสายบุญ เกาสงคือดินแดนแสวงบุญที่ควรค่าแก่การมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอพรให้ชีวิตรุ่งโรจน์เริ่มต้นทริปด้วยการสักการะเทพเจ้า ณ จุดแลนมาร์คของเกาสง อย่างเจดีย์มังกรเสือ (Dragon & Tiger Pagoda) ซึ่งโดดเด่นด้วยศาลาฤดูใบไม้ผลิและศาลาฤดูใบไม้ร่วง สร้างขึ้นด้วยรูปแปดเหลี่ยมโบราณ มีสะพานโค้งเชื่อมต่อทั้งสองศาลา นักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพทะเลสาบเหลียนจือถานอันงดงามเบื้องหน้าได้ทุกมุม หรือจะไปศาลเจ้าอีกแห่งที่อยู่ริมทะเลสาบเช่นกันได้แก่ ศาลเจ้าฟู่ติงจินเปาอัน (Kaohsiung Fudingjin Baoan Temple) ริมทะเลสาบจินซือหู ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมผสมผสานโบราณและสมัยใหม่ และไหว้บูชาเทพเจ้านาจา หรือจะออกเดินทางไปอีกที่เพื่อบูชาเทพเจ้าเสวียนเทียนซั่งตี้ (ตั่วเหล่าเอี๊ย) เป่ยหวน (Bei Huan Xuan Tian Shang Di) เพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิต ที่สำคัญไม่ควรพลาดวัดลัทธิเต๋า (Daode Yuan) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดที่มีความเชื่อว่า ฮวงจุ้ยของขุมทรัพย์ “คอมังกร” ของที่นี่ มีผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของไต้หวันอย่างยิ่ง ภายในมีปรมาจารย์เล่าจื๊อให้ได้สักการะบูชา วัดฟ่งซันหลงซัน (Fengshan Longshan Temple) อีกหนึ่งสถานที่ที่น่าไปเยี่ยมเยือน มีอายุกว่า 300 ปี มีเจ้าแม่กวนอิมศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล เช่นเดียวกับวัดหนานไฮ่ซิงฉู (Nanhai Zizhu) ที่ศิษยานุศิษย์เชื่อว่าขอสิ่งใดกับองค์กวนอิมจะสมความปรารถนา นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์ นั่นคือ มัสยิดเกาสง และ Holy Rosary Cathedral Minor Basilica วิหารคาทอลิกแห่งแรกของไต้หวัน หนึ่งในสามวิหารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
หากมีเวลาไม่มาก และอยากร่วมเทศกาลสำคัญของที่นี่ เกาสงมีงานประจำปียิ่งใหญ่พร้อมรอสร้างความทรงจำดีๆ หลายงาน เช่น ในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม มีงานศิลปะและเล่นทรายสีดำฉีจิน (Cijin Black Sand Festival) ที่เปิดโอกาสให้ศิลปินนักปั้นทรายทั่วโลกมาโชว์ฝีมือ ส่วนนักท่องเที่ยวก็ได้กำไรจากการชมงานศิลป์แบบสดๆ ไม่ซ้ำกับปีไหนๆ หรือถ้าชอบประเพณีพื้นบ้าน แนะนำให้มาช่วงปลายปีในเดือนตุลาคม มีงานว่านเหนียนจั่วอิ๋ง (Zuoying Wannian Folklore Festival) ที่บางคนเรียกงานแห่สิงโตไฟ ถัดไปในเดือนพฤศจิกายน มีเทศกาลวัฒนธรรมปลานวลจันทร์ (Milkfish Cultural Festival) ภายในงาน มีพ่อครัวแม่ครัวจากภัตตาคารมาปรุงอาหารด้วยปลานวลจันทร์อย่างสร้างสรรค์ อิ่มตา อิ่มใจ และอิ่มท้องกันอย่างแน่นอน
เมื่อพูดถึงอาหารแล้ว ขอปิดท้ายกันด้วยความสุขของนักชิม เพราะเกาสงมีชื่อเสียงในการเป็นแหล่งอาหารทะเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกก็ว่าได้ สถานที่ที่ห้ามพลาด ได้แก่ตลาดลิ่วเหอ (Liouhe Night market) ที่ละลานตาไปด้วยอาหารทะเลนานาชนิด มีกุ้ง หอย ปู ปลาสด ชี้นิ้วเลือกเพื่อให้พ่อครัวปรุงอาหารเลิศรสให้ได้ทันที แต่ถ้าต้องการกินเล่นๆ แนะนำให้ไปที่ Ruifeng Night Market ที่นี่มีสตรีทฟู้ดคาวหวานมากมายหลากหลายให้ได้เลือกชิมกันอย่างเพลิดเพลิน
หากเปรียบกับอาหาร ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นคงเป็นแค่อาหารเรียกน้ำย่อย เพราะยังมีสถานที่เที่ยวอีกหลายแห่งในเกาสงที่ยังรอให้ทุกคนไปสัมผัส การท่องเที่ยวในต่างแดนนั้นไม่ไกลตัวอีกต่อไป การเดินทางสะดวกแบบนี้แล้วก็เก็บกระเป๋าออกเดินทางไปเกาสงกันเลยดีกว่า
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ