ครั้งหนึ่งในชีวิตกลางมหานคร Mumbai สวรรค์ของคนชอบถ่ายรูป

หากพูดถึงประเทศอินเดีย ชื่อของเมือง Mumbai จะต้องเคยผ่านหูของใครหลายๆ คนมาอย่างแน่นอน เมืองขนาดใหญ่ของประเทศที่อัดแน่นไปด้วยประชากรหนาแน่น เป็นเมืองหลวงศูนย์กลางทางด้านการค้าและความเจริญในรัฐมหาราษฏระ ซึ่งแฝงไปด้วยกลิ่นอายตะวันตกริมทะเลอย่างเต็มเปี่ยม แต่ภายใต้ความเจริญทางด้านสังคมนั้น Mumbai ยังเก็บซ่อนความเจริญทางด้านสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานเอาไว้ด้วย วันนี้เราจะพาทุกคนไปสำรวจหนึ่งในเมืองที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของอินเดียที่มีชื่อว่า Mumbai กันครับ

การเดินทางมาที่ Mumbai นั้นเราเลือกใช้บริการสายการบินตรงจากเมืองไทย อย่าง THAI Smile ซึ่งเป็นสายการบิน Full Service แต่ราคาคุ้มค่ามากๆ บินตรงจากเมืองไทยมาลงยังสนามบิน Mumbai Chhatrapati Shivaji (สนามบินนานาชาติฉัตรปาตีศิวะจี) ใช้เวลาเพียงแค่ 4 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้นเอง ถือว่าสะดวกสบายมากๆ เลยทีเดียว

มาเริ่มต้นการเดินทางกันดีกว่า อย่างที่เราบอกไปข้างต้นว่าเมืองมุมไบนั้นเป็นเมืองใหญ่ที่มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นสถานที่เที่ยวในเมืองมุมไบนั้นจะแตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง มีทั้งสถานที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ ที่เที่ยวที่ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์ค หรือแม้แต่การเดินถ่ายรูปตามท้องถนนของมุมไบนี้ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ห้ามพลาดสำหรับการมาเยือนเมืองมุมไบ เราลองไปดูกันว่ามหานครแห่งนี้มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง

1. Gateway of India

เริ่มต้นกันที่ประตูชัยแห่งอินเดีย ตั้งตระหง่านอยู่ริมน้ำในย่านอะพอลโลบันเตอร์ ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์เนื่องในโอกาสพระเจ้าจอร์จที่ 5 และพระราชินีแมรี่ เสด็จเยือนอินเดีย สร้างขึ้นด้วยอิฐสีน้ำผึ้ง เมื่อต้องกับแสงอาทิตย์ในยามเช้าจะส่องสว่างสวยงามมากๆ เป็นแลนด์มาร์คของมุมไบที่ใครๆ ก็ต้องมาเยือน

พิกัด : Google Map 

2. Taj Mahal Palace Hotel

นี่คือโรงแรมที่ถูกกล่าวขานโด่งดังไปทั่วโลกในเรื่องของความสวยงามในการออกแบบ Taj Mahal Palace Hotel ตั้งอยู่ติดกับประตูชัย ได้รับแรงบันดาลใจในการก่อสร้างมาจาก Taj Mahal และครั้งหนึ่งที่นี่ยังเคยเป็นที่รับรองของ Queen Elizabeth แห่งราชวงศ์อังกฤษอีกด้วย และที่นี่เองยังถือได้ว่าเป็นมุมถ่ายรูปที่สวยงามมากๆ ประจำมุมไบ มาเยือนเมืองนี้แล้วไม่ได้ถ่ายรูปที่ Taj Mahal Palace Hotel ถือว่ามาไม่ถึง

พิกัด : Google Map 

3. Elephant Caves

หลังจากถ่ายภาพเก็บความทรงจำกันไปแล้ว 2 จุด ทั้งประตูชัย และ Taj Mahal Palace Hotel ก็ได้เวลาเดินทางต่อไปยัง Elephant Cave หรือถ้ำช้าง ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเล ต้องนั่งเรือออกไปจากฝั่ง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที และเมื่อถึงแล้วยังต้องเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 20 นาที เพื่อขึ้นไปสู่บริเวณถ้ำช้างแห่งนี้ ซึ่งถ้ำช้างแห่งนี้นั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่เกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์เลยก็ว่าได้และยังถูกยกให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย ทุกๆ ห้องโถงในถ้ำนี้ถูกขุดเจาะโดยฝีมือของมนุษย์ทั้งสิ้น สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่องค์พระศิวะ ตั้งแต่ พ.ศ. 1000 ภายในมีการสลักลวดลายขององค์พระศิวะ และทวยเทพต่างๆ ในศาสนาฮินดูเอาไว้อย่างวิจิตรงดงาม เป็นสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่และทรงคุณค่ามากจริงๆ

พิกัด : Google Map 

4. วัดสิทธิวินายัก

มาต่อกันที่อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวห้ามพลาดของมุมไบ นั่นก็คือวัดสิทธิวินายัก หรือวัดพระพิฆเนศนั่นเอง วัดแห่งนี้ได้รับการนับถือเป็นอย่างมากสำหรับชาวอินเดีย ซึ่งภายในประดิษฐานองค์พระพิฆเนศที่มีลักษณะพิเศษคือ มีงวงหันไปทางด้านขวา เชื่อว่าหากใครได้มีโอกาสมาไหว้ขอพรกับพระพิฆเนศองค์นี้จะได้รับการประทานพรให้สมตามความปรารถนา ด้านในไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปอย่างเด็ดขาด

พิกัด : Google Map 

5. Victoria Terminus

อย่างที่เรากล่าวไปในข้างต้นว่าเมืองมุมไบนั้นเป็นเมืองที่มีกลิ่นอายของความเป็นตะวันตกอย่างเต็มเปี่ยม จึงทำให้มีสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่มีความเป็นตะวันตกอยู่หลายที่ ดั่งเช่นที่ Victoria Terminus หรือสถานีรถไฟฉัตรปตี ศิวาจี สถานีรถไฟกลางเมืองมุมไบซึ่งตั้งชื่อตามพระนางวิคตอเรีย เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ได้รับการออกแบบโดย Mr. F.W. Stevens สถาปนิกชาวอังกฤษ และ ต่อมาสถานีรถไฟแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย ถือได้ว่าเป็นไฮไลท์ห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวเลยทีเดียว

พิกัด : Google Map 

6. Dhobi Ghat

หากใครเคยมีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่อง Slumdog Millionaire คงจะคุ้นเคยกับภาพฉากหลังของลานซักผ้าขนาดใหญ่กันมาบ้าง ซึ่งฉากในภาพยนตร์ Slumdog Millionaire นั้นก็คือโลเคชั่นที่มีอยู่จริงในเมืองมุมไบนั่นเอง โลเคชั่นนี้คือลานซักผ้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอินเดียมีชื่อว่า Dhobi Ghat ซึ่งจากมุมนี้เราจะได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริงของชาวมุมไบ ที่ใช้ชีวิตกันใน Dhobi Ghat แห่งนี้ เป็นสิ่งที่แปลกตาแปลกใจสำหรับชาวไทยอย่างเราเป็นอย่างมาก ถือได้ว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ที่ดีมากๆ เลยทีเดียว 

พิกัด : Google Map 

7. Kanheri Caves

ปิดท้ายทริปนี้ด้วยความเซอร์ไพรซ์ กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้เราหลงรักมุมไบไปโดยปริยาย ถ้ำ Kanheri เป็นศาสนสถานตั้งแต่ยุคโบราณที่สร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์เช่นกัน โดยถ้ำแห่งนี้จะถูกขุดเจาะเข้าไปตามชั้นหิน ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังสวยงาม อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมการแกะสลักรูปนูนออกมาจากผนังได้อย่างน่ามหัศจรรย์ และด้วยความที่ถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่สูงจากพื้นดิน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมวิวอันสวยงามไปด้วยในตัว มองลงไปเราจะเห็นได้ว่าที่นี่ถูกรายล้อมไปด้วยต้นไม้และป่าเขา เปรียบเสมือนเป็นปอดของอินเดียเลยทีเดียว วิวด้านบนสวยงามมากๆ หากใครได้มีโอกาสมาเที่ยวรับรองว่าจะต้องได้รูปสวยๆ กลับไปแน่นอน

พิกัด : Google Map 

เป็นยังไงกันบ้างกับทั้ง 7 สถานที่เที่ยวของมุมไบที่เราได้พาทุกคนไปทัวร์กันในวันนี้ บอกเลยว่ามุมไบนั้นเป็นหนึ่งในเมืองที่มีเสน่ห์มากๆ สถานที่เที่ยวก็สวยงาม ผู้คนน่ารัก อาหารการกินอร่อย ถึงแม้ว่าอาจจะดูวุ่นวายไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วที่นี่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว หากคุณยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าอินเดียครั้งแรกของคุณจะเป็นเมืองอะไร มุมไบ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ