เปิดที่เที่ยว Iwate กับความทรงจำที่สวยงาม @ญี่ปุ่น

ทริปนี้เราเดินทางด้วยสายการบินไทย ไปประเทศญี่ปุ่น ทริปนี้จะไปเที่ยวในจังหวัด Iwate ซึ่งอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเรียกให้คุ้นเคยหน่อย ก็คล้ายกับอีสานบ้านเราเลยค่ะ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมาก เพราะมีกิจกรรมสนุก ๆ ไว้ให้เที่ยวตลอดทั้งปีเลยค่ะ แถมยังมีพื้นที่สงบ ๆ สำหรับคนที่อยากจะเที่ยวแบบไม่วุ่นวายอีกด้วยจ้า

เดินทางมาถึงสนามบินนาริตะ เราก็ขอแวะพักที่ในเมืองสักคืน ซึ่งเราพักแถวๆ ย่าน Nippori หรือคล้าย ๆ กับแถวลาดพร้าวบ้านเราเลยค่ะ ที่พักใกล้กับสถานีรถไฟ และมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ขึ้นเพียบเลยค่ะ

หลังจากพักกายมา 1 คืน ถึงเวลานั่งชินคันเซ็นไปเมือง Iwate ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หรือถ้าใครจะนั่งเครื่องบินตรงจาก กทม. มาที่เมืองเซนได แล้วก็นั่งชินคันเซ็นมาอีก 1 ชั่วโมงก็ได้ค่ะ

ลุยทริปนี้ไปที่แรก “Gembikei Gorge”  ที่นี่เป็นผาหินสูงเรียงๆกัน แล้วก็มีแม่น้ำ Iwai ไหลผ่านกลางแท่งหินพวกนี้ ทำให้เกิดเป็นความสวยงามทางธรรมชาติที่ควรค่าแก่การมาจริง ๆ ค่ะ ส่วนบริเวณรอบ ๆ ก็จะเป็นสวนสาธารณะ มีร้านค้าเล็ก ๆ ไว้ให้เดินเล่นชิลล์ ๆ ซื้อขนม ชมความสวยงามกันไป แต่ถ้ามันชิลล์ไปหน่อย จะลองซื้อขนม Kakko-dango หรือที่เรียกกันว่า ดังโหงะลอยฟ้า ก็ได้ความแปลกใหม่ในการซื้อขนมอีกด้วยนะ วิธีการก็ใส่เงินลงไปในตะกร้าแล้วก็เคาะกระดานไม้ เขาก็จะชักรอกไปแล้วส่งขนมกลับมา พร้อมกับเสียบธงชาติไทยกลับมาด้วย น่ารักมาก ๆ และในตอนนั้นเขาก็เปิดเพลงชาติไทย และเพลงสรรเสริญพระบารมีด้วย น่ารักมาก ๆ ซาบซึ้งจนน้ำตาไหลเลยค่ะ เรียกว่าเป็นอีกประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงจริง ๆ ค่ะ

มาพูดถึงขนมกันบ้าง ดังโหงะ ที่ส่งมามีทั้งหมด 3 ไส้ จะมีถั่วแดง, งาดำ และอีกอันคล้าย ๆ กับซอสโชยุ ส่วนตัวอร่อยทุกอย่างเลย แต่ที่ชอบสุด ๆ ก็จะเป็นรสงาดำ อร่อยจริง ๆ อยากให้มาลองกันนะคะ ส่วนตัวร้านเราก็ได้ขึ้นไปชมกันด้วย ต้องขอบอกว่า ทุกอย่างในร้านบอกเล่าเรื่องราวของที่นี่ มีรูปเยอะแยะมาก เขามีความตั้งใจในการส่งมอบความสุขไปให้ลูกค้า แล้วยิ่งเรามาอยู่ตรงนี้ ก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของร้านนี้จริง ๆ ค่ะ

ระหว่างทางไปสะพานไม้ไผ่ ก็มีวิวสวยๆ ให้ชมตลอดทางเลยนะ เดินชิลล์ไปเรื่อย ๆ ก็ถึงสะพานไม้ไผ่ ที่มีเรื่องราวสำคัญเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นด้วยค่ะ ตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยแหละ ด้วยในสมัยนั้นเขาจะนำเหล็ก ไปทำเป็นอาวุธกันซะส่วนใหญ่ สะพานแห่งนี้จึงถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ไผ่ ชาวบ้านแถวนี้เขาก็เรียกกันว่า “Bamboo Bridge” ใครผ่านมา ก็อย่าลืมแวะมาจุดนี้ด้วยนะ วิวสวย สะพานสวย และเป็นสะพานที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์อีกด้วยค่ะ

จาก Gambikei Gorge เราเดินทางมาอีกประมาณ 10 นาที แต่พอข้ามมาเนี่ยเป็นอีกเรื่องนึงเลย เรามาแวะไหว้พระ ขอพรกันที่ “Takko-no-Iwaya” เป็นวัดที่มีโครงสร้างติดกับผาหิน เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1,200 ปีแล้วด้วย สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพแห่งนักรบและรำลึกถึงชัยชนะของรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งเราสามารถขึ้นไปไหว้พระ ขอพรด้านบนได้ด้วย และห่างออกไปจากตัววัดจะมีรูปพระพุทธเจ้าแกะสลักบนหินสูง 6.5 เมตร พระพักตร์ยาว 3.6 เมตร ซึ่งมีอายุกว่า 920 ปีแล้วด้วย ถือเป็นวัดที่มีทุกอย่างเป็นไฮไลท์อยู่บนหน้าผาทั้งหมดเลย สวยงามและคุ้มค่าตื่นจริง ๆ ค่ะ

เดินทางกันต่อ เราจะไปที่วัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองฮิราอิซูมิ (Hiraizumi) ที่นี่คือ “วัดชูซนจิ (Chusonji Temple)” ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก เมื่อปี 2011 ที่นี่ตั้งอยู่บนเนินเขายาว ระยะทางประมาณ 130 เมตร สามารถเดินขึ้นไปประมาณ 800 เมตร พร้อมกับมองวิวสองข้างทางของทางลาด เดินชมต้น cryptomeria ที่ปลูกโดยตระกูล เดเตะ ตั้งแต่ในสมัยเอโดะโน้นเลยค่ะ  ส่วนที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษของที่นี่ คือวิหารทองคำ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้อะมิดะ ไนยาอิ (พระพุทธรูปที่มีแสงไม่สิ้นสุด) และส่วนหนึ่งของหลังคามุงด้วยใบไม้ทองคำทั้งด้านในและด้านนอก และเราสามารถมองผ่านกระจกได้ ทั้งสวยงามและคุ้มค่าจริง ๆ ค่ะ

และในช่วงที่ไปตรงกับช่วงเทศกาลดอกเบญจมาศบานพอดี ขอบอกว่า ดอกเบญจมาสที่นี่ใหญ่มาก แล้วก็สูงด้วย ใครที่เสิร์ชหาเทศกาลต่าง ๆ ก็จะเจอเทศกาลนี้แน่นอน และก็อยู่จังหวัดอิวาเตะที่นี่แหละค่ะ

สัปดาห์หน้าเรามาต่อกันกับการล่องเรือที่เมืองอิวาเตะกันค่ะ ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ครั้งหนึ่งในชีวิตอยากจะให้มาลองกันค่ะ

 อย่าลืมติดตามชมได้ใน รายการMake Awake คุ้มค่าตื่น ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 22.45 ทางช่อง Workpoint