“เขื่อนขุนด่านปราการชล” ล่องเรือ เที่ยวน้ำตก ชมธรรมชาติ

ทริปพักผ่อนใกล้กรุง “เขื่อนขุนด่านปราการชล” พาชีวิตไปเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ ที่จังหวัดนครนายก พร้อมนั่งเรือเที่ยวเขื่อน ชม 3 น้ำตกชื่อดัง และสัมผัสธรรมชาติสวย ๆ ที่ได้ฉายาว่า สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย

วันนี้ทีมงาน Paapaii.com จะพาไปเที่ยวฉบับ One Day Trip ที่สุดแสนสโลว์ไลฟ์ กับการตะลุย “เขื่อนขุนด่านปราการชล” เรื่องการเดินทางง่ายมาก จากกรุงเทพฯ ไปนครนายก มีระยะทางเพียง 135 กิโลเมตร ขับรถไปชิล ๆ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนิด ๆ ก็จะถึงที่หมาย หากใครไปไม่ถูกเปิดพี่ Google Maps นำทางไปเลย รับไม่มีหลงแน่นอน

เมื่อมาถึง “เขื่อนขุนด่านปราการชล” เราจะได้สัมผัสธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อากาศบริสุทธิ์ ลมธรรมชาติที่แสนเย็นสบาย และที่นี่ยังได้รับฉายาจากนักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางมาเยือนว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” อีกด้วย เพราะฉะนั้นใครได้มาเที่ยวที่นี่ อย่าพลาดไปถ่ายรูปสวย ๆ กันนะ

หลังถ่ายรูปเสร็จก็เตรียมลงเรือไปเที่ยวเขื่อนกันดีกว่า ค่าบริการเช่าเรือจะอยู่ที่ 1,000 บาท เที่ยวได้ 3 น้ำตก คือ น้ำตกผางามงอน, น้ำตกคลองคราม และน้ำตกช่องลม รวมเวลาเที่ยวไป-กลับ ไม่เกิน 3 ชั่วโมง

พร้อมเที่ยวแล้วก็ไปขึ้นเรือ ที่ “บันได 179 ขั้น” กันเลย ตอนขาลงเราสามารถเดินได้แบบชิล แต่ตอนขาขึ้นคุณลุงคนขับเรือบอกว่า หลังจากไปทัวร์ 3 น้ำตกครบแล้ว มาขึ้นบันไดนี้มีเหนื่อยแน่ ฮ่า ๆ

ที่แรกเราจะไป “น้ำตกผางามงอน” ใช้เวลานั่งเรือจากจุดเริ่มต้น ประมาณ 10 นาที ตลอดทางสามารถชมความสวยงามของธรรมชาติ และวิวภูเขาของสันเขื่อนได้อย่างเพลิดเพลิน

พอเรือจอดปุ๊บก็ต้องเดินเท้าเข้าไปต่อ ระยะทางไป “น้ำตกผางามงอน” อาจไม่ไกลมาก แต่มีปีนเขาสลับกับทางลาดชันเล็กน้อย ควรฟิตร่างกายมาให้พร้อม และเตรียมรองเท้าสำหรับเดินป่าหรือผ้าใบมา จะช่วยให้การเดินสะดวกมากขึ้น

มาถึงแล้ว “น้ำตกผางามงอน” ความสวยงามนี่เรายกให้ 5 ดาวไปเลย น้ำใส ไหลแรง ให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำสุด ๆ ส่วนธรรมชาติก็เขียวขจี ร่มรื่นเย็นสบาย จะนั่งทอดกายพักผ่อนหรือจะเล่นน้ำก็ฟินมาก ๆ และน้ำตกผางามงอน ยังได้ชื่อว่ามีความคล้าย “น้ำตกทีลอซู” ที่จังหวัดตากอีกด้วย แต่ขนาดนั้นจะเล็กกว่ากันเยอะมาก

จากนั้นเรานั่งเรือไปลงยังจุดจอดที่สอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “น้ำตกคลองคราม” ระยะทางเดินเข้าไปถึงน้ำตกค่อนข้างไกล แต่ทางเดินไม่ลำบากมาก สามารถเดินได้ชิล ๆ หรือจะหยุดพักสักหน่อยเพื่อถ่ายรูปกับธรรมชาติ และสัมผัสบรรยากาศทุ่งหญ้าสีเขียวก็จัดไปโลด

และแล้วก็มาถึง “น้ำตกคลองคราม” บรรยากาศร่มรื่นไม่แพ้น้ำตกผางามงอน น้ำใส ไหลแรง ดัง ซู่ ซู่ !! เดินมาเหนื่อย ๆ หยุดพักเอาขาแช่น้ำเย็น ๆ สักหน่อยรับรองหายเหนื่อย หรือใครจะเล่นน้ำก็จัดไปเลย ดับร้อนได้ดีเลยทีเดียว

หลังจากนั้นเรือขับมาส่งเราที่จุดจอดที่สาม ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่ “น้ำตกช่องลม” การเดินทางไปน้ำตกแห่งนี้ ต้องลัดเลาะไปตามลำธาร และในบางช่วงต้องไต่เชือกขึ้นไปตามสันเขา ซึ่งฟังดูเหมือนอันตราย แต่ทุกคนสามารถขึ้นไปได้แน่นอน ระหว่างทางเราจะได้ยินเสียงน้ำ และลมเย็น ๆ จากธรรมชาติ พัดมากระทบร่างกายให้ได้รู้สึกสดชื่นอยู่ตลอดเวลา

ถึงแล้วครับ “น้ำตกช่องลม” โดยปกติน้ำตกแห่งนี้จะไหลแรงมาก และน้ำใสน่าเล่น แต่วันนี้ที่เรามาน้ำน้อยไปหน่อย เลยอดเห็นความสวยงามเลย บริเวณรอบ ๆ น้ำตกจะมีโขดหินมากมาย สามารถปีนขึ้นไปหาจุดถ่ายรูปสวย ๆ คู่กับธรรมชาติได้ แต่ต้องระวังลื่นกันด้วยนะทุกคน

และแล้วก็ถึงเวลาเดินทางกลับขึ้นฝั่งกันแล้ว เวลาตอนนี้ก็ล่วงเลยมาถึงช่วงเย็นพอดี เราเลยถือโอกาสนี้บอกลาธรรมชาติสวย ๆ และบรรยากาศอันแสนเย็นสบาย ณ “เขื่อนขุนด่านปราการชล” ซะเลย ปิดทริปเที่ยวแสนสโลว์ไลฟ์ ที่ได้ถ่ายรูปเยอะมาก ได้เดินขึ้นเขาไปเล่นน้ำตกสวย ๆ สามที่ และที่สำคัญว่างวันเดียวก็เที่ยวได้ ใครไม่เชื่อทีมงาน Paapaii ลองมากันเลย ที่ “จังหวัดนครนายก” แห่งนี้ !