IWATE ทริปนี้มีแต่ของสุโก้ย!

เรายังคงอยู่กันที่จังหวัดอิวาเตะ ในทริปนี้ต้องขอบอกว่า ทุกอย่างคือ สุโก้ยจริง ๆ ไม่ว่าจะเรื่องของฟาร์มวัว ไร่แอปเปิ้ล หรือแม้แต่เรื่องของอาหารการกิน ที่การันตีความดัง ความอร่อย และความสุโก้ย เป็นอีกเมืองที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนมาสัมผัสจริงๆ ค่ะ แล้วจะรู้ว่าความสุโก้ยของแท้มันเป็นยังไง

จุดหมายแรกของความสุโก้ยในวันนี้คือที่นี่ “ฟาร์มโคะอิไว (Koiwai Farm)” ที่นี่เป็นฟาร์มโคนมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเชียวนะ มีพื้นที่เกือบสองหมื่นไร่ จะใช้คำว่า กว้างใหญ่ไพศาลก็ได้ และขอแนะนำให้นั่งรถม้าเที่ยวเล่นในบริเวณฟาร์มเพราะมันใหญ่จริง ๆ ค่ะ นอกจากนี้เต็มไปด้วยกิจกรรมสันทนาการสำหรับเด็กๆ ให้คุณหนูๆ ได้สัมผัสกับลูกม้าและแกะ พร้อมกับของเล่น เครื่องเล่นต่างๆ อีกมากมายหลายชนิด  

แล้วที่นี่ยังมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะแบรนด์ผลิตภัณฑ์จากนมต่าง ๆ สามารถเดินเข้าไปชมขั้นตอนการผลิตเนย การผลิตงานช่างไม้ ถ้ามากันทั้งครอบครัว รับรองสนุกสนานเพลิดเพลินกันได้ทั้งวันเลยค่ะ

มาถึงฟาร์มโคนมทั้งที ก็อย่าลืมลองผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมของที่นี่ มีทั้งชีส ไอศกรีม นมสด และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกเพียบ รวมไปถึงของฝาก มาที่เดียวครบถ้วนเลยค่ะ

จุดหมายความสุโก้ยที่สอง มาในเรื่องของการกิน เรามากันที่นี่ค่ะ “Pyonpyonsha” ป็นร้านอาหารเกาหลี ที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น แต่บอกเลยว่่าขึ้นชื่อในย่านนี้เลยค่ะ จนได้รับการโปรโมทเป็นร้านอาหารแนะนำของเมืองMorioka เลยทีเดียวเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ Moorioka Ramen หรือ บะหมี่เย็น เป็นราเมงทำด้วยแป้งมันฝรั่ง มาพร้อมน้ำซุปเย็นๆ รวมไปถึงเนื้อย่าง และอาหารเกาหลี เรื่ิองอาหารของที่นี่ มาแล้วคุุ้มค่าตื่นแน่นอนค่ะ

จุดหมายต่อไป เรามุ่งหน้าไปที่ “Sun Farm” ที่ฟาร์มแห่งนี้ เป็นฟาร์มแอปเปิ้ลที่มีอายุมากว่า 300 ปีเชียวนะ มาที่นี่จะได้เห็นแอปเปิ้ลสายพันธุ์ญี่ปุ่นอีกเพียบ มีแอปเปิ้ลพันธุ์แปลกๆ เพียบเลยค่ะ เรียกว่าในประเทศไทยไม่เคยเห็นอย่างแน่นอน อย่างแอปเปิ้ลพันธุ์เล็กจิ๋ว ที่พัฒนาสายพันธุ์มาให้มีขนาดเล็ก ที่เด็ก ๆ สามารถถือทานได้สะดวก เป็นอะไรที่ใส่ใจรายละเอียดมาก ๆ เลย

มาที่นี่ สามารถเดินเล่น พร้อมกับเด็ดผลแอปเปิ้ลทานกันสด ๆ จากต้นเลยค่ะ เป็นอะไรที่ฟินมาก ๆ ขอบอกว่าต้องไปลองด้วยตัวเองสักครั้งค่ะ แล้วจะรู้ว่าความอร่อย ความฟินแบบน้ี มันมีอยู่จริงค่ะ

จุดหมายต่อไป เป็นคาเฟ่ที่มีอายุ 100 กว่าปี “Nanshoso” เป็นลักษณะของบ้านเก่าโบราณที่มีโครงสร้างแบบเดิม สามารถเข้ามาสัมผัสบ้านในแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นได้ที่คาเฟ่แห่งนี้เลยค่ะ เข้ามาในบ้านหลังนี้ นั่งจิบชาเขียวแท้ ๆ พร้อมขนมพื้นเมือง แล้วนั่งมองประวัติศาสตร์ของบ้านหลังนี้ เป็นอีกอารมณ์การพักผ่อนในยามเมื่อยล้าจากการเที่ยวได้ดีจริง ๆ ค่ะ อย่าลืมแวะมาเที่ยวกันนะคะ

จุดหมายสุดท้ายของทริปอิวาเตะครั้งนี้ เรามากันที่ “Azumaya Honten” เป็นร้านอาหารโซบะที่ต้องมาโดน เพราะการทานโซบะของที่นี่่นั้นจะมาเป็นเครื่องเคียง พร้อมกับบริการเติมโซบะตามที่เราต้องการ และเท่าที่ท้องเราจะรับไหว ซึ่งทางร้านเขาก็มีเทคนิคแนะนำเพื่อที่จะได้กินเยอะ ๆ นะคะ ก็คือ ไม่ต้องเคี้ยว แต่ให้กลืนลงไปเลย และไม่ต้องซดน้ำซุปด้วย เพราะจะทำให้อิ่มเร็วขึ้นนั่นเองค่ะ ต่อให้เราอิ่มแล้ว ต่อให้บอกพนักงานว่าให้หยุดเติม เขาก็จะไม่หยุดนะคะ แต่เราต้องปิดฝาชามเท่านั้น จึงจะเป็นการหยุดเติมโซบะนั่นเองค่ะ แต่ด้วยความที่เรากระเพาะน้อยเลยทานได้นิดเดียวเองค่ะ

ที่นี่เป็นอีกทริปทั้งอิ่ม ทั้งอร่อย และได้รอยยิ้มไปเต็มเปี่ยมเลยค่ะ หวังว่าจะทำให้ทุกคนมีความสุขไปด้วยกันนะคะ และอย่าลืมทำทุกวันให้ คุ้มค่าตื่นด้วยค่ะ แล้วเจอกันทริปหน้าค่ะ

ติดตามรายการ Make Awake คุ้มค่าตื่น และ Update เรื่องราวเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ได้ที่ Facebook Fanpage : MAKE AWAKE “คุ้มค่าตื่น”