Stage (สตาช) Fine Dining ชั้นเลิศจากการรวมตัวกันของอดีตทีมเชฟร้านมิชลินสตาร์
การทำอาหาร ถือได้ว่าเป็นศาสตร์และศิลป์ที่มอบความสุนทรีให้กับผู้ที่ได้ลิ้มลอง การผสมผสานส่วนผสม การเลือกใช้วัตถุดิบ และประสบการณ์ในการกลั่นอาหารแต่ละเมนูออกมา ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้ เทรนด์การทานอาหารในร้านประเภท Fine Dining ก็กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ประสบการณ์การทานอาหารที่มีความพิถีพิถัน และดึงเอาความโดดเด่นของรสชาติออกมานำเสนออย่างสร้างสรรค์ ซึ่งในวันนี้ Sanook! Travel เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับร้าน Stage (สตาช) อีกหนึ่งร้าน Fine Dining ชั้นเลิศในย่านเอกมัย
ก่อนจะมาเป็น Stage
Stage อ่านว่า สตาช เป็นภาษาฝรั่งเศส ที่แปลว่าการฝึกงาน และคำๆ นี้ ก็คือคอนเซ็ปต์ที่อธิบายความเอกลักษณ์ของร้านนี้ได้อย่างลงตัว เชฟเจย์-สายนิสา แสงสิงแก้ว ได้เล่าว่าร้านนี้เกิดขึ้นมาจากการรวมตัวกันของอดีตทีมงานเชฟจากร้าน L'Atelier de Joel Robuchon ร้านอาหารฝรั่งเศสระดับมิชลินสตาร์ของเชฟ Joel Robuchon เชฟชื่อดังชาวฝรั่งเศส ที่ในตอนนี้ได้ปิดตัวลงไปแล้ว และนอกจากนี้ทีมงานยังได้เคยไปฝึกงาน สั่งสมประสบการณ์มาจากร้านชื่อดังหลายร้านจากทั่วโลกอีกด้วยจนองค์ความรู้ในด้านอาหารที่สะสมมาทั้งชีวิตจากร้านอาหารดังๆ ได้กลั่นออกมาจนกลายเป็นร้านอาหารแห่งนี้
สไตล์ของ Stage
ตั้งแต่ก้าวแรกที่คุณเข้ามาในร้าน คุณจะได้พบกับความเรียบหรูดูมีสไตล์ของเฟอร์นิเจอร์ ที่เน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้และเบาะหนังดูคลาสสิคมากๆ ภายในร้านเน้นโทนสีน้ำเงินอ่อนๆ ตัดกับสีขาวดูสบายตา ในส่วนครัวจะเป็นครัวแบบเปิด เน้นโชว์ให้เห็นการประกอบอาหารในแต่ละขั้นตอนดั่งชื่อของร้านว่า Stage ซึ่งอ่านในภาษาอังกฤษว่า สเตจ นั่นก็คือเวทีแห่งการประกอบอาหารนั่นเอง
อาหารที่บ่งบอกความเป็น Stage
ในส่วนของอาหาร ทางร้านจะเน้นเป็นสไตล์ Modern European นำเอาเทคนิคการทำอาหารแบบใหม่มาผสมผสานลงในแต่ละเมนู จนเกิดเป็นไอเดียการสร้างสรรค์อาหารได้อย่างน่าสนใจ แต่ยังคงเป็นอาหารที่มีกลิ่นอายของอาหารฝรั่งเศสอยู่ พร้อมกับชูวัตถุดิบระดับพรีเมียมที่ทางร้านคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดในแต่ละฤดูกาล นำมาใช้ในแต่ละเมนูได้อย่างดีเยี่ยม ลองไปดูกันว่าแต่ละเมนูอาหารที่เราได้ลองทานไปนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง
Stage Experience คอร์ส 8 จาน | ราคา 3,900 บาท
Canoli
เริ่มด้วย คาโนลี เมนูทานเล่น เนื้อปูผสมกับครีมข้าวโพดห่อแผ่นชาโคล เสิร์ฟมาบนเมล็ดข้าวโพด
Mussel Tart
ซอสทรงหยดน้ำ จากการเคี่ยวเนื้อหอยจนเป็นน้ำ และทาร์ตหอยแมลงภู่ที่เสิร์ฟอย่างพอดีคำ
Otoro / Caviar
โอโทโร บนงาดำคั่วผสมน้ำส้มยูสุ และชีสเคิร์ดสูตรโฮมเมดท็อปปิ้งด้วยคาเวียร์จากอิตาลี
Lobster / Sucrine
ล็อบสเตอร์บอสตันหมักน้ำมันส้มยูสุ ย่างเนยด้วยเทคนิคสโลว์คุก พร้อมผัก Sucrine ซอสขาว และไข่ปลาแซลมอน
นอกจากนี้หากใครเป็นสายดื่มก็สามารถเพิ่ม Wine Pairing มาในคอร์สได้
เพราะที่นี่ยังมี Sommelier คุณหลุยส์ ที่คอยแนะนำไวน์แต่ละตัวให้เข้ากับอาหารแต่ละจาน ทำให้รสชาติของอาหารชัดเจนมากขึ้น และบางตัวก็ช่วยให้รีเซ็ตก่อนที่จะทานจานต่อไป คอร์ส 5 แก้ว | ราคา 1,900 บาท
Truffle Hot Dog
เสิร์ฟมาบนเขียงไม้ ฮอตดอกไส้กรอกหมู โรยหน้าด้วยแบล็คทรัฟเฟิล ทานคู่กับซอสโฮมเมดสูตรพิเศษที่ทางร้านคิดขึ้นมาโดยเฉพาะ
Furano Wagyu Hokkaido A5
เนื้อวากิวชื่อดังจากเมืองฟุระโนะ เนื้อที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น สุกระดับมีเดียมแรร์ เสิร์ฟพร้อมดอกกุยช่ายและหัวหอมใหญ่ที่กงฟี (confit) มาแล้ว
Cheese
เป็นรวมชีสหลากหลายชนิด พาร์เมซาน มอสซาเรลลา บรี และมาสคาร์โปน รวมถึงถั่ว ผลไม้อบแห้ง มาผสมผสานกันอย่างลงตัวในจานเดียว
Baba au Rhum
ขนมดั้งเดิมจากฝั่งเศสหาทานยากเสิร์ฟคู่กับทรอปิคอลฟรุ้ต หอมกลิ่นเหล้ารัม และสับปะรด ให้ความรู้สึกสดชื่น
ปิดท้ายกันด้วย Dessert Trolley ที่เป็นขนมหวานชิ้นเล็กๆ ด้วยคอนเซ็ปต์ความทรงจำวัยเด็ก
การมิกซ์ระหว่างขนมในวัยเด็กมาเป็นแรงบันดาลใจอย่าง สนีกเกอร์ ที่เป็นไฮไลท์ของหวานจากอเมริกา ที่ทางร้านได้ทำการประยุกต์ในแบบของตัวเอง Lemon Tart ที่เพิ่มความทรงจำด้วยขนม Pop Rock หรือขนมเป๊าะแป๊ะ ไว้ด้านใน สตรอว์เบอร์รีเจลลี่ ที่นำสตรอว์เบอร์รีไปต้มถึง 4 ชั่วโมง เพื่อให้ได้น้ำสตรอว์เบอร์รีที่เข้มข้น แอปเปิ้ลตาแตงเป็นขนมหวานของฝรั่งเศส และพิสตาชิโอ ซอลท์ คาราเมล ทาร์ต สไตล์มาสคิวลีน
ข้อมูลเพิ่มเติม
ที่ตั้งร้าน : 359/2 เอกมัยคอมเพล็กซ์ ซอยสุขุมวิท 63 เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
ติดต่อ : 02-002-5253 / 083-633-4444
เวลาเปิด - ปิด : 18.00 - 00.00 น.
ราคาแต่ละคอร์ส
4 Course Tasting Menu : 1,900 บาท
6 Course Tasting Menu : 2,900 บาท
Stage Experience : 3,900 บาท
อัลบั้มภาพ 40 ภาพ